“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รักษาเก้าอี้จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไว้ได้ต่อไปหลังบุกถลุง “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ที่เหลือ 10 คน 5-0 ขณะที่ เอมิล เฮสกี ประเดิมซัดชัยช่วย แอสตัน วิลลา ต้นสังกัดใหม่บุกเฉือน ปอร์ทสมัธ 1-0
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทนี โมว์เบรย์ วางหมากให้ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ค่อนข้างรัดกุมทีเดียวในการเปิดบ้านรับมือ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยใส่หลังลงไปถึง 5 ราย ขณะที่แดนกลางต้องขาดตัวเดินเกมอย่าง โจนาธาน กรีนนิง แดนหน้าหวังพึ่งความเร็วของ เจย์ ซิมป์สัน ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีข่าวดีได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ หายเจ็บหลังกลับมาช่วยเกมรับ แนวรุกก็ได้ ปาร์ค จี ซอง ฟิตแล้วเช่นกัน คู่หน้ายังเป็นการประสานงานกันระหว่าง คาร์ลอส เตเบซ กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เริ่มเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องการสามแต้มเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้ต่อไปเดินเกมรุกใส่ทันที ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้ากรอบโทษฝั่งขวาก่อนยิงมุมแคบบอลเข้าซอง สกอตต์ คาร์สัน แต่เจ้าถิ่นสวนคืนมาได้ลุ้นกดดันจน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ชกบอลไม่พ้นอันตราย คริส บรันท์ ยิงสวนทันที ไมเคิล คาร์ริค ต้องเคลียร์จากหน้าประตู นาทีที่ 5 ทีมเยือนเกือบเสียท่า แกรี เนวิลล์ โดน เจย์ ซิมป์สัน ฉกเข้าไปยิงบอลแฉลบเท้า เนมันยา วิดิช เข้าข้างตาข่าย ห้านาทีถัดมา “ผีแดง” ได้ส้มหล่น พอล โรบินสัน เคลียร์บอลไปโดน ไรอัน ดองก์ กระเด้งเข้าทาง เบอร์บาตอฟ จะงัดบอลข้ามตัว คาร์สัน แต่นายทวาร เวสต์บรอมวิช ออกมาบังได้เร็ว
เกมดำเนินไปอย่างสนุกแต่ถึงนาทีที่ 22 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ออกนำ 1-0 จนได้บี้อยู่พักใหญ่ คาร์ริค จ่ายทะลุช่องให้ เบอร์บาตอฟ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปส่งลูกหนังผ่าน คาร์สัน ตุงตาข่าย สามนาทีถัดมาจากจังหวะสวนกลับของทีมเยือนเกือบสัมฤทธิ์ผล คริสเตียโน โรนัลโด ลากขึ้นมาทางซ้ายตบเข้าเสาแรก คาร์ลอส เตเบซ แปบอลเฉียดเสาไปนิดเดียว นาทีที่ 33 “ผีแดง” ใช้จังหวะสวนกลับตามถนัดอีกครั้ง ไรอัน กิกส์ แทงทะลุให้ โรนัลโด หลุดไปกระดกบอลผ่าน คาร์สัน แต่ไม่ตรงกรอบอย่างน่าเสียดาย
เจ้าถิ่นโต้ขึ้นมาบ้าง จิอันนี ซุยเฟอร์ลูน ได้โอกาสพักอกยิงบอลไซด์หลุดกรอบ ถึงนาทีที่ 40 เวสต์บรอมวิช มาเสียเปรียบทั้งสกอร์และตัวผู้เล่นเมื่อ พอล โรบินสัน สกัดแบบเปิดปุ่มยันไปที่ ปาร์ค จี ซอง ผู้ตัดสิน ร็อบ สไตล์ส ชักใบแดงไล่กองหลัง “เดอะ แบ็กกีส์” ออกจากสนามทันที ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียวทีมเยือนทิ้งห่างเป็น 2-0 กิกส์ เปิดฟรีคิกเข้าไป คาร์สัน รับบอลหลุดมือ เตเบซ เก็บส้มหล่นกระทุ้งไม่เหลือ จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด สถานการณ์ได้เปรียบเป็นอย่างยิ่ง
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังเจ้าบ้านต้องปรับหมากส่ง มาเร็ค เช็ก มายืนเป็นแบ็กซ้ายแทนตำแหน่งของ โรบินสัน และก็จำเป็นต้องถอด มาร์ค-อองรี ฟอร์ตูเน ออกไป นาทีที่ 51 เวสต์บรอมวิช ได้โอกาสทองจากฟรีคิกกลางประตูระยะ 20 หลาแต่ บรันท์ ปั่นด้วยซ้ายข้ามคานไป สองนาทีถัดมาแฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด เฮเก้อ คาร์ริค เปิดให้ เบอร์บาตอฟ โฉบเข้าไปยิงตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าขึ้นมาก่อน นาทีที่ 57 “เดอะ แบ็กกีส์” น่าจะได้ประตูตีไข่แตกเป็นที่สุด ดองก์ เล่นชิ่งกับเพื่อนก่อนกระหน่ำด้วยขวาบอลกระแทกเสาออกมาเต็มๆ
เมื่อมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ “ผีแดง” เลยหลอนเจ้าถิ่นทิ้งห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 61 เมื่อ กิกส์ เปิดลูกเตะมุมให้ วิดิช ขวิดไม่เหลือ จากนั้น โทนี โมว์เบรย์ แก้เกมเปลี่ยนสองตัวส่ง โรมัน เบ็ดนาร์ และ เจมส์ มอร์ริสัน ไปเล่นแทน ซิมป์สัน กับ ซุยเฟอร์ลูน แต่นาทีที่ 65 กลับโดนผู้มาเยือนสอยไปไกล 4-0 เตเบซ จ่ายหลุดกับดักล้ำหน้าให้ กิกส์ ปาดเร็วเข้ากลาง โรนัลโด แปนิ่มๆ เข้าประตูไปอีก เกมเป็นของ “ผีแดง” อย่างสิ้นเชิงและเกือบได้เฮอีกครั้งถ้า คาร์ริค ไม่ยิงบอลหลุดเสาสองไป จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถอดทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ แกรี เนวิลล์ มาพักให้ เวส บราวน์ ลงมาเรียกความฟิตและ ริชาร์ด เอ็คเคอร์สลีย์ แข้งดาวรุ่งได้โอกาสสั่งสมประสบการณ์
นาทีที่ 73 แมนฯ ยูไนเต็ด สะสมประตูได้เป็นว่าเล่น เบอร์บาตอฟ รับบอลยาวจาก เตเบซ ก่อนจ่ายตัดเข้าใน โรนัลโด โฉบเข้ามายิงบอลลอดขา คาร์สัน เข้าไปเป็น 5-0 สิบห้านาทีสุดท้าย ท่านเซอร์ ให้โอกาส โซรัน โทซิช ปีกซ้ายดาวรุ่งชาวเซิร์บได้โชว์ฟอร์มบ้างแทนที เบอร์บาตอฟ นาทีที่ 84 “เดอะ แบ็กกีส์” ทิ้งท้าย ดองก์ โหม่งข้ามคาน และก็ทำให้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ทำลายสถิติ ปีเตอร์ เช็ก จอมหนึบ เชลซี ที่ไม่เสียประตูนานถึง 1,025 นาที หมดเวลาการแข่งขันจากชัยชนะนัดนี้ทำให้ “ผีแดง” เก็บเพิ่มเป็น 50 คะแนนจากการลงสนาม 22 นัด ฉีกหนี “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงเป็น 3 แต้ม ขณะที่ เวสต์บรอมวิช ยังจมบ๊วยมีอยู่ 21 คะแนนจากการลงเตะ 23 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : สกอตต์ คาร์สัน , คาร์ล โฮฟเฟนส์ , จิอันนี ซุยเฟอร์ลูน , ไรอัน ดองก์ , เปโดร เปเล , พอล โรบินสัน , โรเบิร์ต โคเรน , บอร์ฆา บาเลโร , คริส บรันท์ , มาร์ค-อองรี ฟอร์ตูเน , เจย์ ซิมป์สัน
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , จอห์น โอเชีย , คริสเตียโน โรนัลโด , ไมเคิล คาร์ริค , ไรอัน กิกส์ , ปาร์ค จี ซอง , คาร์ลอส เตเบซ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอังคาร
ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ฟูแลม
[1-0 : เคนวิน โจนส์ (น.55)]
ปอร์ทสมัธ 0-1 แอสตัน วิลลา
[0-1 : เอมิล เฮสกี (น.21)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 สโตค ซิตี
[1-0 : อารอน เลนนอน (น.8) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.21) , 3-0 : ไมเคิล ดอว์สัน (น.24) , 3-1 : เจมส์ บีทตี (น.57)]
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.22) , 0-2 : คาร์ลอส เตเบซ (น.44) , 0-3 : เนมันยา วิดิช (น.61) , 0-4 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.65) , 0-5 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.73)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทนี โมว์เบรย์ วางหมากให้ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ค่อนข้างรัดกุมทีเดียวในการเปิดบ้านรับมือ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยใส่หลังลงไปถึง 5 ราย ขณะที่แดนกลางต้องขาดตัวเดินเกมอย่าง โจนาธาน กรีนนิง แดนหน้าหวังพึ่งความเร็วของ เจย์ ซิมป์สัน ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีข่าวดีได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ หายเจ็บหลังกลับมาช่วยเกมรับ แนวรุกก็ได้ ปาร์ค จี ซอง ฟิตแล้วเช่นกัน คู่หน้ายังเป็นการประสานงานกันระหว่าง คาร์ลอส เตเบซ กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เริ่มเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องการสามแต้มเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้ต่อไปเดินเกมรุกใส่ทันที ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้ากรอบโทษฝั่งขวาก่อนยิงมุมแคบบอลเข้าซอง สกอตต์ คาร์สัน แต่เจ้าถิ่นสวนคืนมาได้ลุ้นกดดันจน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ชกบอลไม่พ้นอันตราย คริส บรันท์ ยิงสวนทันที ไมเคิล คาร์ริค ต้องเคลียร์จากหน้าประตู นาทีที่ 5 ทีมเยือนเกือบเสียท่า แกรี เนวิลล์ โดน เจย์ ซิมป์สัน ฉกเข้าไปยิงบอลแฉลบเท้า เนมันยา วิดิช เข้าข้างตาข่าย ห้านาทีถัดมา “ผีแดง” ได้ส้มหล่น พอล โรบินสัน เคลียร์บอลไปโดน ไรอัน ดองก์ กระเด้งเข้าทาง เบอร์บาตอฟ จะงัดบอลข้ามตัว คาร์สัน แต่นายทวาร เวสต์บรอมวิช ออกมาบังได้เร็ว
เกมดำเนินไปอย่างสนุกแต่ถึงนาทีที่ 22 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ออกนำ 1-0 จนได้บี้อยู่พักใหญ่ คาร์ริค จ่ายทะลุช่องให้ เบอร์บาตอฟ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปส่งลูกหนังผ่าน คาร์สัน ตุงตาข่าย สามนาทีถัดมาจากจังหวะสวนกลับของทีมเยือนเกือบสัมฤทธิ์ผล คริสเตียโน โรนัลโด ลากขึ้นมาทางซ้ายตบเข้าเสาแรก คาร์ลอส เตเบซ แปบอลเฉียดเสาไปนิดเดียว นาทีที่ 33 “ผีแดง” ใช้จังหวะสวนกลับตามถนัดอีกครั้ง ไรอัน กิกส์ แทงทะลุให้ โรนัลโด หลุดไปกระดกบอลผ่าน คาร์สัน แต่ไม่ตรงกรอบอย่างน่าเสียดาย
เจ้าถิ่นโต้ขึ้นมาบ้าง จิอันนี ซุยเฟอร์ลูน ได้โอกาสพักอกยิงบอลไซด์หลุดกรอบ ถึงนาทีที่ 40 เวสต์บรอมวิช มาเสียเปรียบทั้งสกอร์และตัวผู้เล่นเมื่อ พอล โรบินสัน สกัดแบบเปิดปุ่มยันไปที่ ปาร์ค จี ซอง ผู้ตัดสิน ร็อบ สไตล์ส ชักใบแดงไล่กองหลัง “เดอะ แบ็กกีส์” ออกจากสนามทันที ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียวทีมเยือนทิ้งห่างเป็น 2-0 กิกส์ เปิดฟรีคิกเข้าไป คาร์สัน รับบอลหลุดมือ เตเบซ เก็บส้มหล่นกระทุ้งไม่เหลือ จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด สถานการณ์ได้เปรียบเป็นอย่างยิ่ง
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังเจ้าบ้านต้องปรับหมากส่ง มาเร็ค เช็ก มายืนเป็นแบ็กซ้ายแทนตำแหน่งของ โรบินสัน และก็จำเป็นต้องถอด มาร์ค-อองรี ฟอร์ตูเน ออกไป นาทีที่ 51 เวสต์บรอมวิช ได้โอกาสทองจากฟรีคิกกลางประตูระยะ 20 หลาแต่ บรันท์ ปั่นด้วยซ้ายข้ามคานไป สองนาทีถัดมาแฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด เฮเก้อ คาร์ริค เปิดให้ เบอร์บาตอฟ โฉบเข้าไปยิงตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าขึ้นมาก่อน นาทีที่ 57 “เดอะ แบ็กกีส์” น่าจะได้ประตูตีไข่แตกเป็นที่สุด ดองก์ เล่นชิ่งกับเพื่อนก่อนกระหน่ำด้วยขวาบอลกระแทกเสาออกมาเต็มๆ
เมื่อมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ “ผีแดง” เลยหลอนเจ้าถิ่นทิ้งห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 61 เมื่อ กิกส์ เปิดลูกเตะมุมให้ วิดิช ขวิดไม่เหลือ จากนั้น โทนี โมว์เบรย์ แก้เกมเปลี่ยนสองตัวส่ง โรมัน เบ็ดนาร์ และ เจมส์ มอร์ริสัน ไปเล่นแทน ซิมป์สัน กับ ซุยเฟอร์ลูน แต่นาทีที่ 65 กลับโดนผู้มาเยือนสอยไปไกล 4-0 เตเบซ จ่ายหลุดกับดักล้ำหน้าให้ กิกส์ ปาดเร็วเข้ากลาง โรนัลโด แปนิ่มๆ เข้าประตูไปอีก เกมเป็นของ “ผีแดง” อย่างสิ้นเชิงและเกือบได้เฮอีกครั้งถ้า คาร์ริค ไม่ยิงบอลหลุดเสาสองไป จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถอดทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ แกรี เนวิลล์ มาพักให้ เวส บราวน์ ลงมาเรียกความฟิตและ ริชาร์ด เอ็คเคอร์สลีย์ แข้งดาวรุ่งได้โอกาสสั่งสมประสบการณ์
นาทีที่ 73 แมนฯ ยูไนเต็ด สะสมประตูได้เป็นว่าเล่น เบอร์บาตอฟ รับบอลยาวจาก เตเบซ ก่อนจ่ายตัดเข้าใน โรนัลโด โฉบเข้ามายิงบอลลอดขา คาร์สัน เข้าไปเป็น 5-0 สิบห้านาทีสุดท้าย ท่านเซอร์ ให้โอกาส โซรัน โทซิช ปีกซ้ายดาวรุ่งชาวเซิร์บได้โชว์ฟอร์มบ้างแทนที เบอร์บาตอฟ นาทีที่ 84 “เดอะ แบ็กกีส์” ทิ้งท้าย ดองก์ โหม่งข้ามคาน และก็ทำให้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ทำลายสถิติ ปีเตอร์ เช็ก จอมหนึบ เชลซี ที่ไม่เสียประตูนานถึง 1,025 นาที หมดเวลาการแข่งขันจากชัยชนะนัดนี้ทำให้ “ผีแดง” เก็บเพิ่มเป็น 50 คะแนนจากการลงสนาม 22 นัด ฉีกหนี “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงเป็น 3 แต้ม ขณะที่ เวสต์บรอมวิช ยังจมบ๊วยมีอยู่ 21 คะแนนจากการลงเตะ 23 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : สกอตต์ คาร์สัน , คาร์ล โฮฟเฟนส์ , จิอันนี ซุยเฟอร์ลูน , ไรอัน ดองก์ , เปโดร เปเล , พอล โรบินสัน , โรเบิร์ต โคเรน , บอร์ฆา บาเลโร , คริส บรันท์ , มาร์ค-อองรี ฟอร์ตูเน , เจย์ ซิมป์สัน
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , จอห์น โอเชีย , คริสเตียโน โรนัลโด , ไมเคิล คาร์ริค , ไรอัน กิกส์ , ปาร์ค จี ซอง , คาร์ลอส เตเบซ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอังคาร
ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ฟูแลม
[1-0 : เคนวิน โจนส์ (น.55)]
ปอร์ทสมัธ 0-1 แอสตัน วิลลา
[0-1 : เอมิล เฮสกี (น.21)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 สโตค ซิตี
[1-0 : อารอน เลนนอน (น.8) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.21) , 3-0 : ไมเคิล ดอว์สัน (น.24) , 3-1 : เจมส์ บีทตี (น.57)]
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.22) , 0-2 : คาร์ลอส เตเบซ (น.44) , 0-3 : เนมันยา วิดิช (น.61) , 0-4 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.65) , 0-5 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.73)]