“ผีแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์สุดยอดด้วยการบุกถล่ม “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ถึงสนามเซนต์ แมรี 3-0 ขณะที่ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ทำผลงานดีเช่นกันเมื่อเฉือน จิลลิงแฮม 2-1 ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม
เซาแธมป์ตัน 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เซาแธมป์ตัน ของกุนซือ แจน พูรต์ลิต พลาดการใช้งานสองซูเปอร์สตาร์ของทีมที่ยืมตัวมาคือ แจ็ค คอร์ก และ อเล็กซ์ เพียร์ซ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ได้ตัวแมทธิว แพเตอร์สัน ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้ากลับมาลงสนามอีกครั้ง ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจพัก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังตัวหลักที่มีอาการบาดเจ็บหลังเล็กน้อยเพื่อไว้ลงสนามเกมสำคัญกับ เชลซี ในวันอาทิตย์หน้า
เริ่มเกมขึ้นมาช่วง 10 นาทีแรก "นักบุญ" ทำเกมได้ดีกว่าจนปิดโอกาสสร้างเกมรุกของคู่แข่ง แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับโอกาสลุ้นทำประตูก่อนในนาทีที่ 12 จากจังหวะที่ อันแดร์สัน เติมเกมขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลไปทางเสาสองให้ เบอร์บาตอฟ จับบอลได้ในเขตโทษและพยายามง้างเท้ายิง แต่ดีที่ผู้รักษาประตูออกมาฉกบอลจากเท้าได้ทัน
เกมมาถึงนาทีที่ 17 เบอร์บาตอฟ มีโอกาสส่องประตูอีกหลังจากเล่นชิงกับ นานี แต่เป็น เดวิส โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งตัวมาปัดทิ้งออกไปได้ และอีกสองนาทีต่อมานายทวารเจ้าถิ่นต้องออกแรงเซฟอีกครั้งด้วยการปัดลูกยิงไกลบริเวณริมเขตโทษของ อันแดร์สัน
แต่สุดท้าย เซาแธมป์ตัน ก็ไม่สามารถต้านทานอยู่ มาเสียประตูในนาทีที่ 20 จากจังหวะลูกเตะมุม บอลลอยมาถึง โอเชีย ยิงก่อนจังหวะแรก แม้จะถูกผู้รักษาประตูเซฟได้อีก แต่บอลเป็นใจไปเข้าทาง เวลเบ็ค ศูนย์หน้าดาวรุ่งตามมาโหม่งซ้ำเข้าไปให้ "ผีแดง" นำ 1-0
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงบุกต่อ คราวนี้เป็น โอเชีย ทำเกมขึ้นมาก่อนจ่ายบอลอย่างสวยงามให้ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้าไปยิง แต่ เดวิส ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิมตามมาบล็อกบอลออกไปได้ทัน
มาถึงนาทีที่ 27 เจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นเล็กน้อยจากลูกฟรีคิก แต่บอลที่เปิดเข้าไปถูก ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่วันนี้ไม่มีงานหนักให้ต้องลำบากใจรับบอลไว้ได้สบาย และนาทีต่อมาแชมป์พรีเมียร์ ลีก เกือบบวกประตูเพิ่มจากจังหวะที่ เบอร์บาตอฟ จ่ายบอลให้ คาร์ริก หลุดไปกระดกบอลข้ามตัวนายทวารนักบุญไปแล้วแต่ เพอร์รี ผู้เล่นกองหลังตามมาสกัดจากเส้นได้ทันทำให้สกอร์ยังคงที่เหมือนเดิม
สถานการณ์ของ เซาแธมป์ตัน ยิ่งประสบกับวิกฤตหนัก เมื่อ พาเตอร์สัน ศูนย์หน้าดาวรุ่งของทีมจงใจเปิดสตั๊ดใส่ วิดิช กรรมการไม่รอช้าควักใบแดงไล่ออกทันทีในนาทีที่ 36 อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแม้จะมีผู้เล่นเหนือกว่าแต่ "ผีแดง" ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบครึ่งแรกนำอยู่เพียง 1-0
เกมครึ่งหลังผ่านไปเพียง 3 นาที "ผีแดง" ก็มาทำประตูหนีห่างออกไปได้สำเร็จ โดยเริ่มจากตอนแรกทีมได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ นานี รับหน้าที่ยิง บอลพุ่งไปถูกแขนของผู้เล่นเจ้าถิ่นที่ยืนเป็นกำแพงในเขตโทษทำให้กรรมการเป่าจุดโทษทันทีและเป็นปีกชาวโปรตุกีสคนเดิมรับหน้าที่สังหารอีกครั้งเข้าไปให้ทีมเยือนหนีห่าง 2-0
มาถึงนาทีที่ 54 เป็นโอกาสลุ้นทำประตูดีที่สุดของ "นักบุญ" เมื่อ สมิธ ฟูลแบ๊กที่เติมเกมขึ้นมาทางด้านขวาเบียดเอาชนะ โอเชีย ล้มลงไปและแย่งบอลมาได้จนเลี้ยงตัดเข้าใน ก่อนตัดสินใจตะบันยิงด้วยซ้ายเต็มแรง แต่บอลไม่ตรงกรอบพลาดไปอย่างน่าผิดหวัง
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายตำแหน่ง โดยส่ง ดาร์เรน กิบสัน, โรดริโก พอสเซนา และ เวย์น รูนีย์ ลงมาฟาดแข้งบ้าง และเมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 81 กิบสัน ก็มาทำประตูหนีห่างให้ทีมเป็น 3-0 จากการแปบอลเปิดของ รูนีย์ หน้าปากประตูโล่ง สุดท้ายไม่มีการทำประตูเพิ่มอีกทำให้จบ 90 นาที "ผีแดง" ชนะไป 3-0 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา ฟอร์มร้อนแรงในเกมเอฟเอ คัพเช่นกันเมื่อบุกไปเฉือนชนะ จิลลิงแฮม 2-1 โดย เจมส์ มิลเนอร์ ทำประตูให้ทีมนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 13 แต่ทีมเจ้าบ้านตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 57 จากการยิงของ ไซมอน แจ็คสัน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายทีมเยือนจากพรีเมียร์ ลีก ก็มาทำประตูชัยได้จาก มิลเนอร์ คนเดิมซัดลูกจุดโทษเข้าไปก่อนหมดเวลา 10 นาที
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เซาแธมป์ตัน : เคลวิน เดวิส, คริส เพอร์รี, โอลิเวอร์ แลนคาเชียร์, รูดี สคาเซล, ไรอัน สมิธ, ไซมอน ยิลเล็ตต์, แอนดรูว เซอร์แมน, ลอยด์ เจมส์, ออสการ์ โกเบิร์น, เดวิด แม็คโกลดริก, แมทธิว แพเตอร์สัน
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, แกรี เนวิลล์, เนมันยา วิดิช, โจนาธาน อีวานส์, ไมเคิล คาร์ริก, ไรอัน กิกส์, นานี, อันแดร์สัน, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, แดนนี เวลเบ็ค
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม
เซาแธมป์ตัน 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เซาแธมป์ตัน ของกุนซือ แจน พูรต์ลิต พลาดการใช้งานสองซูเปอร์สตาร์ของทีมที่ยืมตัวมาคือ แจ็ค คอร์ก และ อเล็กซ์ เพียร์ซ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ได้ตัวแมทธิว แพเตอร์สัน ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้ากลับมาลงสนามอีกครั้ง ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจพัก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังตัวหลักที่มีอาการบาดเจ็บหลังเล็กน้อยเพื่อไว้ลงสนามเกมสำคัญกับ เชลซี ในวันอาทิตย์หน้า
เริ่มเกมขึ้นมาช่วง 10 นาทีแรก "นักบุญ" ทำเกมได้ดีกว่าจนปิดโอกาสสร้างเกมรุกของคู่แข่ง แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับโอกาสลุ้นทำประตูก่อนในนาทีที่ 12 จากจังหวะที่ อันแดร์สัน เติมเกมขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลไปทางเสาสองให้ เบอร์บาตอฟ จับบอลได้ในเขตโทษและพยายามง้างเท้ายิง แต่ดีที่ผู้รักษาประตูออกมาฉกบอลจากเท้าได้ทัน
เกมมาถึงนาทีที่ 17 เบอร์บาตอฟ มีโอกาสส่องประตูอีกหลังจากเล่นชิงกับ นานี แต่เป็น เดวิส โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งตัวมาปัดทิ้งออกไปได้ และอีกสองนาทีต่อมานายทวารเจ้าถิ่นต้องออกแรงเซฟอีกครั้งด้วยการปัดลูกยิงไกลบริเวณริมเขตโทษของ อันแดร์สัน
แต่สุดท้าย เซาแธมป์ตัน ก็ไม่สามารถต้านทานอยู่ มาเสียประตูในนาทีที่ 20 จากจังหวะลูกเตะมุม บอลลอยมาถึง โอเชีย ยิงก่อนจังหวะแรก แม้จะถูกผู้รักษาประตูเซฟได้อีก แต่บอลเป็นใจไปเข้าทาง เวลเบ็ค ศูนย์หน้าดาวรุ่งตามมาโหม่งซ้ำเข้าไปให้ "ผีแดง" นำ 1-0
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงบุกต่อ คราวนี้เป็น โอเชีย ทำเกมขึ้นมาก่อนจ่ายบอลอย่างสวยงามให้ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้าไปยิง แต่ เดวิส ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิมตามมาบล็อกบอลออกไปได้ทัน
มาถึงนาทีที่ 27 เจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นเล็กน้อยจากลูกฟรีคิก แต่บอลที่เปิดเข้าไปถูก ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่วันนี้ไม่มีงานหนักให้ต้องลำบากใจรับบอลไว้ได้สบาย และนาทีต่อมาแชมป์พรีเมียร์ ลีก เกือบบวกประตูเพิ่มจากจังหวะที่ เบอร์บาตอฟ จ่ายบอลให้ คาร์ริก หลุดไปกระดกบอลข้ามตัวนายทวารนักบุญไปแล้วแต่ เพอร์รี ผู้เล่นกองหลังตามมาสกัดจากเส้นได้ทันทำให้สกอร์ยังคงที่เหมือนเดิม
สถานการณ์ของ เซาแธมป์ตัน ยิ่งประสบกับวิกฤตหนัก เมื่อ พาเตอร์สัน ศูนย์หน้าดาวรุ่งของทีมจงใจเปิดสตั๊ดใส่ วิดิช กรรมการไม่รอช้าควักใบแดงไล่ออกทันทีในนาทีที่ 36 อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแม้จะมีผู้เล่นเหนือกว่าแต่ "ผีแดง" ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบครึ่งแรกนำอยู่เพียง 1-0
เกมครึ่งหลังผ่านไปเพียง 3 นาที "ผีแดง" ก็มาทำประตูหนีห่างออกไปได้สำเร็จ โดยเริ่มจากตอนแรกทีมได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ นานี รับหน้าที่ยิง บอลพุ่งไปถูกแขนของผู้เล่นเจ้าถิ่นที่ยืนเป็นกำแพงในเขตโทษทำให้กรรมการเป่าจุดโทษทันทีและเป็นปีกชาวโปรตุกีสคนเดิมรับหน้าที่สังหารอีกครั้งเข้าไปให้ทีมเยือนหนีห่าง 2-0
มาถึงนาทีที่ 54 เป็นโอกาสลุ้นทำประตูดีที่สุดของ "นักบุญ" เมื่อ สมิธ ฟูลแบ๊กที่เติมเกมขึ้นมาทางด้านขวาเบียดเอาชนะ โอเชีย ล้มลงไปและแย่งบอลมาได้จนเลี้ยงตัดเข้าใน ก่อนตัดสินใจตะบันยิงด้วยซ้ายเต็มแรง แต่บอลไม่ตรงกรอบพลาดไปอย่างน่าผิดหวัง
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายตำแหน่ง โดยส่ง ดาร์เรน กิบสัน, โรดริโก พอสเซนา และ เวย์น รูนีย์ ลงมาฟาดแข้งบ้าง และเมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 81 กิบสัน ก็มาทำประตูหนีห่างให้ทีมเป็น 3-0 จากการแปบอลเปิดของ รูนีย์ หน้าปากประตูโล่ง สุดท้ายไม่มีการทำประตูเพิ่มอีกทำให้จบ 90 นาที "ผีแดง" ชนะไป 3-0 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา ฟอร์มร้อนแรงในเกมเอฟเอ คัพเช่นกันเมื่อบุกไปเฉือนชนะ จิลลิงแฮม 2-1 โดย เจมส์ มิลเนอร์ ทำประตูให้ทีมนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 13 แต่ทีมเจ้าบ้านตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 57 จากการยิงของ ไซมอน แจ็คสัน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายทีมเยือนจากพรีเมียร์ ลีก ก็มาทำประตูชัยได้จาก มิลเนอร์ คนเดิมซัดลูกจุดโทษเข้าไปก่อนหมดเวลา 10 นาที
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เซาแธมป์ตัน : เคลวิน เดวิส, คริส เพอร์รี, โอลิเวอร์ แลนคาเชียร์, รูดี สคาเซล, ไรอัน สมิธ, ไซมอน ยิลเล็ตต์, แอนดรูว เซอร์แมน, ลอยด์ เจมส์, ออสการ์ โกเบิร์น, เดวิด แม็คโกลดริก, แมทธิว แพเตอร์สัน
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, แกรี เนวิลล์, เนมันยา วิดิช, โจนาธาน อีวานส์, ไมเคิล คาร์ริก, ไรอัน กิกส์, นานี, อันแดร์สัน, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, แดนนี เวลเบ็ค