แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำสาวกผีแดงหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเฉือนเอาชนะ ฮัลซิตี้ ไปอย่างสนุก 4-3 ขณะที่ เชลซี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิมเมื่อถล่ม ซันเดอร์แลนด์ กระจุย 5-0 ส่วน อาร์เซนอล ยังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้เมื่อบุกไปพ่ายให้กับ สโต๊ก ซิตี้ 1-2 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 ฮัล ซิตี้
เกมนี้ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงส่ง เวย์น รูนีย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ คริสเตียโน โรนัลโด สามแกนรุกตัวฉกาจลงสนามเป็นตัวจริงเหมือนเดิม ขณะที่ “พี่เสือ” ฮัล ซิตี้ ต้องเจอของจริงอีกครั้งสำหรับเกมวันนี้โดยทีมยังมี จิโอวานนี ดาวเตะชาวบราซิลเป็นกุญแจสำคัญของทีม
เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้เพียง 3 นาที เจ้าบ้านก็ทำประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ เนวิลล์ วางบอลยาวขึ้นมาให้ โรนัลโด และ เบอร์บาตอฟ ประสานงานกัน ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็นดาวเตะโปรตุกีสซัดด้วยซ้ายจากบริเวณเส้นกรอบเขตโทษเข้าไปให้แชมป์เก่านำก่อน 1-0
ฮัล ซิตี้ หาโอกาสทำประตูได้น้อยมากแต่กลับมาได้ประตูตีเสมออย่างพลิกความคาดหมายในนาทีที่ 22 จากจังหวะที่ทีมได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเขตโทษด้านขวา ดอว์สัน เปิดเข้ามาให้ คูแซง วิ่งโฉบมาโหม่งบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปให้ทีมเยือนไล่ตีเสมอ 1-1
แต่แชมป์เก่าก็พลิกกลับขึ้นมานำอีกครั้งจากจังหวะโต้กลับเมื่อ เบอร์บาตอฟ ได้บอลบริเวณกลางสนาม เลี้ยงบอลขึ้นมาก่อนจะจ่ายให้ คาร์ริก หาช่องยิงลอดขากองหลังทีมเยือน หมดสิทธิ์ที่ มายฮิลล์ จะล้มตัวปัดได้ทันทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำอีกครั้งเป็น 2-1
นาทีต่อมา โรนัลโด เกือบทำประตูที่สองของตัวเองได้เมื่อหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยขวา แต่ มายฮิลล์ ยืนปิดมุมอยู่ปัดทิ้งไว้ได้ แต่ในที่สุดดาวเตะโปรตุกีสมาทำประตูจนได้ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 2 นาทีจากจังหวะเตะมุมที่ นานี เปิดบอลมาให้และเจ้าตัวโหม่งเข้าไปทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ 4 นาที เจ้าถิ่นเกือบทำประตูหนีห่างออกไปอีกครั้งจากจังหวะที่ รูนีย์ หลุดเข้ามาถึงเส้นหลังของกรอบเขตโทษ ก่อนจะตวัดกลับมาให้ เบอร์บาตอฟ แตะหนีกองหลังหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดด้วยขวา แต่บอลพุ่งเรียดผ่านน่าประตูออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 57 แชมป์เก่าทำประตูหนีห่างออกไปจนได้จากจังหวะลูกเตะมุม โดย รูนีย์ รับอาสาเปิดบอลเข้ามาและเป็น วิดิช ที่เติมเกมขึ้นมาจัดการซัดฮาฟวอลเลย์ด้วยขวาผ่านมือ มายฮิลล์ เข้าไปทำให้เจ้าบ้านหนีห่าง 4-1
น้องใหม่ยังไม่ยอกแพ้เมื่อทำประตูไล่ขึ้นมาในนาทีที่ 69 จากจังหวะที่ทีมต่อบอลขึ้นมา ก่อนที่ เมนดี ตัวสำรองที่เพิ่งจะลงสนามมาจะหลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลข้ามหัว ฟาน เดอร์ ซาร์ แม้ว่า วิดิช จะตามมาสกัดออกไปได้แต่บอลเลยข้ามเส้นประตูไปแล้วทำให้ ฮัล ซิตี้ ไล่ขึ้นมาเป็น 2-4
บรรดาสาวกผีแดงหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อ ฮัล มาได้ลูกจุดโทษจากการที่ เฟอร์ดินานด์ ไปทำฟาวล์ เมนดี ล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าทันทีและเป็น จิโอวานนี รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมเยือนไล่มา 3-4 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้อีกทำให้จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะไปอย่างสนุก 4-3 พร้อมคว้า 3 คะแนนสำคัญมาครอง
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อถล่มเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-0 โดยเกมนี้ นิโกลาส์ อเนลกา สามารถทำแฮตทริกได้ (น.30, 45, 53) และอีกสองประตูมาได้จาก อเล็กซ์ (น.27) และ แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.51) ทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ของลูกทีม หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ยังคงอยู่ในเส้นทางต่อไป
ขณะที่ อาร์เซนอล ในฐานะทีมเยือนพลิกล็อกพ่ายให้กับ สโต๊ก ซิตี้ 1-2 โดยเจ้าบ้านทำประตูขึ้นนำก่อนจาก ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ในนาทีที่ 11 ก่อนที่จะหนีห่างออกไปเป็น 2-0 จากการยิงของ โอโลฟินยานา ในนาทีที่ 73 แม้ว่า กาเอล คลีชี จะมาทำประตูให้ปืนโตไล่มา 1-2 ในนาทีสุดท้ายของเกมแต่ทำได้เพียงแค่นั้น จบเกม 90 นาทีลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ พ่ายไปและต้องประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทีเดียวสำหรับการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เนมันยา วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, แกรี เนวิลล์, อันเดอร์สัน, ไมเคิล คาร์ริก, นานี, คริสเตียโน โรนัลโด, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์
ฮัล ซิตี้ : โบแอซ มายฮิลล์, คามิล ซายัตเต, ไมเคิล เทอร์เนอร์, แอนดี ดอว์สัน, พอล แม็คเชน, จอร์จ บัวเต็ง, ไบรอัน ฮิวจ์ส, จิโอวานนี, ดีน มาร์นีย์, ดาเนียล คูแซง, มาร์ลอน คิง
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (1-0 หลุยส์ ซาฮา น.87)
เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-0 (1-0 อเล็กซ์ น.27), (2-0 นิโกลาส์ อเนลกา น.30), (3-0 นิโกลาส์ อเนลกา น.45), (4-0 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.51), (5-0 นิโกลาส์ อเนลกา น.53)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ฮัล ซิตี้ 4-3 (1-0 คริสเตียโน โรนัลโด น.3), (1-1 ดาเนียล คูแซง น.23), (2-1 ไมเคิล คาร์ริก น.29), (3-1 คริสเตียโน โรนัลโด น.44), (4-1 เนมันยา วิดิช น.57), (4-2 แบร์นาร์ด เมนดี น.69), (4-3 จิโอวานนี ลูกจุดโทษ น.82)
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (0-1 เฮย์เดน มุลลินส์ น.21), (1-1 มิโด น.84)
ปอร์ทสมัธ แพ้ วีแกน 1-2 (0-1 อามีร์ ซากี ลูกจุดโทษ น.45), (1-1 นิโก ครานชาร์ น.82), (1-2 เอมิล เฮสกีย์ น.90)
สโต็ก ซิตี้ ชนะ อาร์เซนอล 2-1 (1-0 ริคาร์โด ฟูลเลอร์ น.11), (2-0 จอร์จ โอโลฟินยานา น.73), (2-1 กาเอล คลีชี น.90)
เวสต์บรอมวิช เสมอ แบล็กเบิร์น 2-2 (0-1 เบนนี แม็คคาร์ธี ลูกจุดโทษ น.12), (1-1 โรมัน เบดนาร์ น.55), (2-1 อิสมาเอล มิลเลอร์ น.62), (2-2 คีธ แอนดรูวส์ น.89)
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 ฮัล ซิตี้
เกมนี้ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงส่ง เวย์น รูนีย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ คริสเตียโน โรนัลโด สามแกนรุกตัวฉกาจลงสนามเป็นตัวจริงเหมือนเดิม ขณะที่ “พี่เสือ” ฮัล ซิตี้ ต้องเจอของจริงอีกครั้งสำหรับเกมวันนี้โดยทีมยังมี จิโอวานนี ดาวเตะชาวบราซิลเป็นกุญแจสำคัญของทีม
เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้เพียง 3 นาที เจ้าบ้านก็ทำประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ เนวิลล์ วางบอลยาวขึ้นมาให้ โรนัลโด และ เบอร์บาตอฟ ประสานงานกัน ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็นดาวเตะโปรตุกีสซัดด้วยซ้ายจากบริเวณเส้นกรอบเขตโทษเข้าไปให้แชมป์เก่านำก่อน 1-0
ฮัล ซิตี้ หาโอกาสทำประตูได้น้อยมากแต่กลับมาได้ประตูตีเสมออย่างพลิกความคาดหมายในนาทีที่ 22 จากจังหวะที่ทีมได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเขตโทษด้านขวา ดอว์สัน เปิดเข้ามาให้ คูแซง วิ่งโฉบมาโหม่งบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปให้ทีมเยือนไล่ตีเสมอ 1-1
แต่แชมป์เก่าก็พลิกกลับขึ้นมานำอีกครั้งจากจังหวะโต้กลับเมื่อ เบอร์บาตอฟ ได้บอลบริเวณกลางสนาม เลี้ยงบอลขึ้นมาก่อนจะจ่ายให้ คาร์ริก หาช่องยิงลอดขากองหลังทีมเยือน หมดสิทธิ์ที่ มายฮิลล์ จะล้มตัวปัดได้ทันทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำอีกครั้งเป็น 2-1
นาทีต่อมา โรนัลโด เกือบทำประตูที่สองของตัวเองได้เมื่อหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยขวา แต่ มายฮิลล์ ยืนปิดมุมอยู่ปัดทิ้งไว้ได้ แต่ในที่สุดดาวเตะโปรตุกีสมาทำประตูจนได้ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 2 นาทีจากจังหวะเตะมุมที่ นานี เปิดบอลมาให้และเจ้าตัวโหม่งเข้าไปทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ 4 นาที เจ้าถิ่นเกือบทำประตูหนีห่างออกไปอีกครั้งจากจังหวะที่ รูนีย์ หลุดเข้ามาถึงเส้นหลังของกรอบเขตโทษ ก่อนจะตวัดกลับมาให้ เบอร์บาตอฟ แตะหนีกองหลังหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดด้วยขวา แต่บอลพุ่งเรียดผ่านน่าประตูออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 57 แชมป์เก่าทำประตูหนีห่างออกไปจนได้จากจังหวะลูกเตะมุม โดย รูนีย์ รับอาสาเปิดบอลเข้ามาและเป็น วิดิช ที่เติมเกมขึ้นมาจัดการซัดฮาฟวอลเลย์ด้วยขวาผ่านมือ มายฮิลล์ เข้าไปทำให้เจ้าบ้านหนีห่าง 4-1
น้องใหม่ยังไม่ยอกแพ้เมื่อทำประตูไล่ขึ้นมาในนาทีที่ 69 จากจังหวะที่ทีมต่อบอลขึ้นมา ก่อนที่ เมนดี ตัวสำรองที่เพิ่งจะลงสนามมาจะหลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลข้ามหัว ฟาน เดอร์ ซาร์ แม้ว่า วิดิช จะตามมาสกัดออกไปได้แต่บอลเลยข้ามเส้นประตูไปแล้วทำให้ ฮัล ซิตี้ ไล่ขึ้นมาเป็น 2-4
บรรดาสาวกผีแดงหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อ ฮัล มาได้ลูกจุดโทษจากการที่ เฟอร์ดินานด์ ไปทำฟาวล์ เมนดี ล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าทันทีและเป็น จิโอวานนี รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมเยือนไล่มา 3-4 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้อีกทำให้จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะไปอย่างสนุก 4-3 พร้อมคว้า 3 คะแนนสำคัญมาครอง
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อถล่มเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-0 โดยเกมนี้ นิโกลาส์ อเนลกา สามารถทำแฮตทริกได้ (น.30, 45, 53) และอีกสองประตูมาได้จาก อเล็กซ์ (น.27) และ แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.51) ทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ของลูกทีม หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ยังคงอยู่ในเส้นทางต่อไป
ขณะที่ อาร์เซนอล ในฐานะทีมเยือนพลิกล็อกพ่ายให้กับ สโต๊ก ซิตี้ 1-2 โดยเจ้าบ้านทำประตูขึ้นนำก่อนจาก ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ในนาทีที่ 11 ก่อนที่จะหนีห่างออกไปเป็น 2-0 จากการยิงของ โอโลฟินยานา ในนาทีที่ 73 แม้ว่า กาเอล คลีชี จะมาทำประตูให้ปืนโตไล่มา 1-2 ในนาทีสุดท้ายของเกมแต่ทำได้เพียงแค่นั้น จบเกม 90 นาทีลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ พ่ายไปและต้องประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทีเดียวสำหรับการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เนมันยา วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, แกรี เนวิลล์, อันเดอร์สัน, ไมเคิล คาร์ริก, นานี, คริสเตียโน โรนัลโด, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์
ฮัล ซิตี้ : โบแอซ มายฮิลล์, คามิล ซายัตเต, ไมเคิล เทอร์เนอร์, แอนดี ดอว์สัน, พอล แม็คเชน, จอร์จ บัวเต็ง, ไบรอัน ฮิวจ์ส, จิโอวานนี, ดีน มาร์นีย์, ดาเนียล คูแซง, มาร์ลอน คิง
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (1-0 หลุยส์ ซาฮา น.87)
เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-0 (1-0 อเล็กซ์ น.27), (2-0 นิโกลาส์ อเนลกา น.30), (3-0 นิโกลาส์ อเนลกา น.45), (4-0 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.51), (5-0 นิโกลาส์ อเนลกา น.53)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ฮัล ซิตี้ 4-3 (1-0 คริสเตียโน โรนัลโด น.3), (1-1 ดาเนียล คูแซง น.23), (2-1 ไมเคิล คาร์ริก น.29), (3-1 คริสเตียโน โรนัลโด น.44), (4-1 เนมันยา วิดิช น.57), (4-2 แบร์นาร์ด เมนดี น.69), (4-3 จิโอวานนี ลูกจุดโทษ น.82)
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (0-1 เฮย์เดน มุลลินส์ น.21), (1-1 มิโด น.84)
ปอร์ทสมัธ แพ้ วีแกน 1-2 (0-1 อามีร์ ซากี ลูกจุดโทษ น.45), (1-1 นิโก ครานชาร์ น.82), (1-2 เอมิล เฮสกีย์ น.90)
สโต็ก ซิตี้ ชนะ อาร์เซนอล 2-1 (1-0 ริคาร์โด ฟูลเลอร์ น.11), (2-0 จอร์จ โอโลฟินยานา น.73), (2-1 กาเอล คลีชี น.90)
เวสต์บรอมวิช เสมอ แบล็กเบิร์น 2-2 (0-1 เบนนี แม็คคาร์ธี ลูกจุดโทษ น.12), (1-1 โรมัน เบดนาร์ น.55), (2-1 อิสมาเอล มิลเลอร์ น.62), (2-2 คีธ แอนดรูวส์ น.89)
