เดิร์ก เคาท์ ศูนย์หน้าดาวดัชต์ เหมาสองประตูพา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกไปอัด ฮัลล์ ซิตี 3-1 พร้อมขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราว ขณะที่ "สิงห์บลูส์" เชลซี มาได้ประตูชัยจาก ซาโลมง กาลู ในนาที 55 ทำให้บุกไปเฉือน "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ฮัลล์ ซิตี 1 - 3 ลิเวอร์พูล
ฮัลล์ มีข่าวดีเมื่อ ดาเนียล คูแซง กองหน้าตัวเก่งหายเจ็บกลับมาแต่ยังเป็นเพียงตัวสำรองทำให้แดนหน้ายังเป็นการประสานงานกันระหว่าง เคร็ก ฟาแกน และ คาเล็บ โฟลัน ก่อนในช่วงแรก ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่ส่ง สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลงสนามเนื่องจากยังไม่ฟิตพอ แต่แดนหน้ายังมี เฟอร์นานโด ตอร์เรส คอยประจำการอยู่เหมือนเดิม
เริ่มเกมครึ่งแรกมา 6 นาที ทีมเยือนมีโอกาสลุ้นก่อนเมื่อ เบนายูน เก็บตกบอลได้จากกลางสนาม ก่อนกระชากขึ้นมายิงในเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะแรกบอลถูกขากองหลัง แต่มาเข้าทาง ตอร์เรส ยิงสวนอีกครั้งเหินข้ามคานออกไป อีก 3 นาทีต่อมา มิดฟิลด์ชาวยิวทำเกมอยู่ทางริมเส้นด้านซ้าย หลอกล่อกองหลังจนล้มคว่ำลงไป ก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบตรงเส้นเขตโทษหวังให้บอลหุบเสียบคาน แต่ไม่ดีพอเลยออกหลังไป
ด้าน ฮัลล์ ตอบโต้กลับเป็นครั้งแรกในนาที 14 เมื่อ มาร์นี ได้บอลจากกลางสนาม ก่อนเลี้ยงขึ้นมายิงไกลตรงหน้าเขตโทษ แต่บดเกินไปบอลหลุดโคนเสา หลังจากนั้นอีก 3 นาทีจากจังหวะลูกทุ่มของเจ้าบ้าน มาร์นี ทุ่มบอลเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษ กองหลังทีมเยือนโหม่งทิ้งออกมาแต่ยังเข้าทาง โจวานนี วอลเลย์สวนตูมเดียวแบบไม่จับ บอลเลี้ยวออกหลังไปเพียงนิดเดียว
ทั้งสองทีมทำเกมกันสูสี ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะมีลุ้นหวาดเสียวอีกครั้งในนาที 31 เมื่อ เบนายูน เก็บบอลได้ตรงมุมเขตโทษ จากนั้นจ่ายย้อนกลับมาให้ เคาท์ โยกหนีคู่แข่งจังหวะแรกก่อนสับไกยิง บอลแฉลบขากองหลัง หลุดกรอบออกไปได้เพียงเตะมุม จากจังหวะคอนเนอร์ต่อเนื่อง อินชัว ได้ยิงไกลจากนอกกรอบ แต่บอลเหินห้ามคานออกไปอีกเหมือนเดิม
หลังอึดอัดอยู่นาน "หงส์แดง" มาทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เริ่มจาก มาสเชราโน กระชากบอลขึ้นมาจากกลางสนามก่อนถูก บัวเต็ง ทำฟาวล์หน้าเขตโทษจนได้ลูกฟรีคิก อลอนโซ รับหน้าที่สังหาร จังหวะแรกบอลไปโดนกำแพง แต่ยังกระดอนกลับมาเข้าทางมิดฟิลด์กระทิงดุตามซ้ำดาบสองเต็มแรง หมดสิทธิ์ที่ มายฮิลล์ พุ่งตัวปัดทันทำให้สกอร์ขยับ 1-0 หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มอีก จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ข้างต้น
เริ่มเกมครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่าเล็กน้อยและได้โอกาสส่องประตูก่อนในนาที 54 จากจังหวะการประสานงานกันของ เคาท์ กับ อาร์เบลัว ตรงริมเขตโทษด้านขวา ก่อนสุดท้ายบอลจะหลุดมาถึง ตอร์เรส ได้วอลเลย์ทันที แต่บอลเหินออกหลังไป อีก 5 นาทีต่อมา ฮัลล์ มาเสียเปรียบตัวผู้เล่นเมื่อ โฟลัน ทำฟาวล์รุนแรงใส่ สเคอร์เทล จนถูกใบแดงไล่ออกไป
ผ่านหนึ่งชั่วโมง ทีมเยือนอาศัยความได้เปรียบตัวผู้เล่นมาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 ได้สำเร็จจากจังหวะเล่นลูกเตะมุมสั้น เบนายูน เปิดจากริมเขตโทษเข้ากลาง กองหลังสกัดออกมาเข้าทาง สเคอร์เทล วิ่งมาอัดบอลกระดอนพื้น เด้งมาใส่หัว เคาท์ ที่ยืนอยู่หน้าปากประตูโหม่งเข้าประตูไปอย่างไม่มีปัญหา
เกมมาถึงนาที 68 เคาท์ รับบอลได้ตรงริมเส้นด้านขวา ก่อนแทงบอลต่อให้ เบนายูน หลุดเข้าไปทางริมเขตโทษ หลอกล่อกองหลังก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้ ตอร์เรส ตวัดยิงเร็ว แต่เหินข้ามคานออกไปอีกครั้ง ถัดมาอีก 4 นาที ฮัลล์ มาทำประตูไล่ตีตื้นจากจังหวะวางบอลยาว ดาเนียล คูแซง รับบอลได้ ก่อนกระชากหนีคู่แข่งเข้ามาเปิดบอลตรงสุดเส้นหลัง กองหลังหงส์แดงยืนตำแหน่งกันไม่ดี ปล่อยให้ โจวานนี ตามมาแปบอลเข้าไปโล่งๆ ทำให้สกอร์ขยับเป็น 1-2
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ต่อบอลกันอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นได้สวย ก่อนที่ ตอร์เรส ปาดบอลต่อมาให้ ลูคัส ยืนอยู่แบบไม่มีตัวประกบหลุดเข้าไปยิง แต่วางเท้าไม่ดีซัดบอลเหินข้ามคานออกไป อีก 3 นาทีต่อมา อาร์เบลัว เติมเกมจนหลุดมาถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดกลับหลัง เคาท์ สอดมารับและเปิดเข้ากลาง บอลลอยเข้าหัว ตอร์เรส โหม่ง แต่ไปโดนคานกระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ก่อนหมดเวลานาทีเดียว "หงส์แดง" มาคลายความกดดันได้สำเร็จเมื่อทำประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ นาบิล เอล ซาร์ ซึ่งเพิ่งลงสนามมาในฐานะตัวสำรอง กระชากบอลเลี้ยงขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษเจ้าถิ่น ก่อนจ่ายให้ อาร์เบลัว หลุดเข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังและถูก มายฮิลล์ ปัดปลายมือ แต่บอลถูก เคาท์ ตามมาโหม่งโล่งๆหน้าประตูเข้าไป หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ 3-1 พร้อมนำจ่าฝูงชั่วคราว
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น ซาโลมง กาลู ดาวยิงชาวไอเวอรี โคสต์ มายิงประตูชัยนาที 55 ช่วยให้ "สิงห์บลูส์" เชลซี บุกไปเฉือนชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 โดย "ขุนค้อน" มีโอกาสตีเสมอเช่นกันจากลูกจุดโทษนาที 70 แต่ มาร์ก โนเบิล ซัดไม่ผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกไปโค่น "ท๊อฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน 2-1 จากการยิงของ โรบินโญ (น.35) และ สตีเฟน ไอร์แลนด์ (น.54) ส่วนเจ้าถิ่นได้ประตูปลอบใจจาก แดนนี กอสลิง ในนาทีสุดท้ายของเกม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ฮัลล์ ซิตี : โบอาซ มายฮิลล์, คามิล ซายัตเต, ไมเคิล เทอร์เนอร์, เควิน คิลบาน, ซามูเอล ริกเก็ตต์ส, จอร์จ บัวเต็ง, ดีน มาร์นี, นิก บาร์มบี, จิโอวานนี, เคร็ก ฟาแกน, คาเล็บ โฟลัน
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินชัว, อัลบาโร อาร์เบลัว, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ลูคัส, ยอสซี เบนายูน, เดิร์ก เคาท์
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
โบลตัน เสมอ แอสตัน วิลลา 1-1
[0-1 : แอชลีย์ ยัง น.43], [1-1 : ทามีร์ โคเฮน น.60]
เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯ ซิตี 1-2
[0-1 : โรบินโญ น.35], [0-2 : สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.54], [1-2 : แดน กอสลิง น.90]
ฟูแล่ม ชนะ สโต๊ค 1-0
[1-0 : เอริก เนฟแลนด์ น.29]
ฮัลล์ ซิตี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
[0-1 : ชาบี อลอนโซ น.45], [0-2 : เดิร์ก เคาท์ น.63], [1-2 : โจวานนี น.72], [1-3 : เดิร์ก เคาท์ น.89]
เวสต์บรอมวิช ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0
[1-0 : โฮนาส โอลส์สัน น.40], [2-0 : คริส บรันท์ น.58], [3-0 : ฮวน คาร์ลอส เมนเซเกซ น.88]
เวสต์แฮม แพ้ เชลซี 0-1
[0-1 : ซาโลมง กาลู น.55]
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ สเปอร์ส 5-2
[0-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.29], [0-2 : ลูกา โมดริซ น.32], [1-2 : คริสเตียโน โรนัลโด ลูกจุดโทษ น.57], [2-2 : เวย์น รูนีย์ น.67], [3-2 : คริสเตียโน โรนัลโด น.68], [4-2 : เวย์น รูนีย์ น.71], [5-2 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.79]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ฮัลล์ ซิตี 1 - 3 ลิเวอร์พูล
ฮัลล์ มีข่าวดีเมื่อ ดาเนียล คูแซง กองหน้าตัวเก่งหายเจ็บกลับมาแต่ยังเป็นเพียงตัวสำรองทำให้แดนหน้ายังเป็นการประสานงานกันระหว่าง เคร็ก ฟาแกน และ คาเล็บ โฟลัน ก่อนในช่วงแรก ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่ส่ง สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลงสนามเนื่องจากยังไม่ฟิตพอ แต่แดนหน้ายังมี เฟอร์นานโด ตอร์เรส คอยประจำการอยู่เหมือนเดิม
เริ่มเกมครึ่งแรกมา 6 นาที ทีมเยือนมีโอกาสลุ้นก่อนเมื่อ เบนายูน เก็บตกบอลได้จากกลางสนาม ก่อนกระชากขึ้นมายิงในเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะแรกบอลถูกขากองหลัง แต่มาเข้าทาง ตอร์เรส ยิงสวนอีกครั้งเหินข้ามคานออกไป อีก 3 นาทีต่อมา มิดฟิลด์ชาวยิวทำเกมอยู่ทางริมเส้นด้านซ้าย หลอกล่อกองหลังจนล้มคว่ำลงไป ก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบตรงเส้นเขตโทษหวังให้บอลหุบเสียบคาน แต่ไม่ดีพอเลยออกหลังไป
ด้าน ฮัลล์ ตอบโต้กลับเป็นครั้งแรกในนาที 14 เมื่อ มาร์นี ได้บอลจากกลางสนาม ก่อนเลี้ยงขึ้นมายิงไกลตรงหน้าเขตโทษ แต่บดเกินไปบอลหลุดโคนเสา หลังจากนั้นอีก 3 นาทีจากจังหวะลูกทุ่มของเจ้าบ้าน มาร์นี ทุ่มบอลเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษ กองหลังทีมเยือนโหม่งทิ้งออกมาแต่ยังเข้าทาง โจวานนี วอลเลย์สวนตูมเดียวแบบไม่จับ บอลเลี้ยวออกหลังไปเพียงนิดเดียว
ทั้งสองทีมทำเกมกันสูสี ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะมีลุ้นหวาดเสียวอีกครั้งในนาที 31 เมื่อ เบนายูน เก็บบอลได้ตรงมุมเขตโทษ จากนั้นจ่ายย้อนกลับมาให้ เคาท์ โยกหนีคู่แข่งจังหวะแรกก่อนสับไกยิง บอลแฉลบขากองหลัง หลุดกรอบออกไปได้เพียงเตะมุม จากจังหวะคอนเนอร์ต่อเนื่อง อินชัว ได้ยิงไกลจากนอกกรอบ แต่บอลเหินห้ามคานออกไปอีกเหมือนเดิม
หลังอึดอัดอยู่นาน "หงส์แดง" มาทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เริ่มจาก มาสเชราโน กระชากบอลขึ้นมาจากกลางสนามก่อนถูก บัวเต็ง ทำฟาวล์หน้าเขตโทษจนได้ลูกฟรีคิก อลอนโซ รับหน้าที่สังหาร จังหวะแรกบอลไปโดนกำแพง แต่ยังกระดอนกลับมาเข้าทางมิดฟิลด์กระทิงดุตามซ้ำดาบสองเต็มแรง หมดสิทธิ์ที่ มายฮิลล์ พุ่งตัวปัดทันทำให้สกอร์ขยับ 1-0 หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มอีก จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ข้างต้น
เริ่มเกมครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่าเล็กน้อยและได้โอกาสส่องประตูก่อนในนาที 54 จากจังหวะการประสานงานกันของ เคาท์ กับ อาร์เบลัว ตรงริมเขตโทษด้านขวา ก่อนสุดท้ายบอลจะหลุดมาถึง ตอร์เรส ได้วอลเลย์ทันที แต่บอลเหินออกหลังไป อีก 5 นาทีต่อมา ฮัลล์ มาเสียเปรียบตัวผู้เล่นเมื่อ โฟลัน ทำฟาวล์รุนแรงใส่ สเคอร์เทล จนถูกใบแดงไล่ออกไป
ผ่านหนึ่งชั่วโมง ทีมเยือนอาศัยความได้เปรียบตัวผู้เล่นมาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 ได้สำเร็จจากจังหวะเล่นลูกเตะมุมสั้น เบนายูน เปิดจากริมเขตโทษเข้ากลาง กองหลังสกัดออกมาเข้าทาง สเคอร์เทล วิ่งมาอัดบอลกระดอนพื้น เด้งมาใส่หัว เคาท์ ที่ยืนอยู่หน้าปากประตูโหม่งเข้าประตูไปอย่างไม่มีปัญหา
เกมมาถึงนาที 68 เคาท์ รับบอลได้ตรงริมเส้นด้านขวา ก่อนแทงบอลต่อให้ เบนายูน หลุดเข้าไปทางริมเขตโทษ หลอกล่อกองหลังก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้ ตอร์เรส ตวัดยิงเร็ว แต่เหินข้ามคานออกไปอีกครั้ง ถัดมาอีก 4 นาที ฮัลล์ มาทำประตูไล่ตีตื้นจากจังหวะวางบอลยาว ดาเนียล คูแซง รับบอลได้ ก่อนกระชากหนีคู่แข่งเข้ามาเปิดบอลตรงสุดเส้นหลัง กองหลังหงส์แดงยืนตำแหน่งกันไม่ดี ปล่อยให้ โจวานนี ตามมาแปบอลเข้าไปโล่งๆ ทำให้สกอร์ขยับเป็น 1-2
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ต่อบอลกันอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นได้สวย ก่อนที่ ตอร์เรส ปาดบอลต่อมาให้ ลูคัส ยืนอยู่แบบไม่มีตัวประกบหลุดเข้าไปยิง แต่วางเท้าไม่ดีซัดบอลเหินข้ามคานออกไป อีก 3 นาทีต่อมา อาร์เบลัว เติมเกมจนหลุดมาถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดกลับหลัง เคาท์ สอดมารับและเปิดเข้ากลาง บอลลอยเข้าหัว ตอร์เรส โหม่ง แต่ไปโดนคานกระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ก่อนหมดเวลานาทีเดียว "หงส์แดง" มาคลายความกดดันได้สำเร็จเมื่อทำประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ นาบิล เอล ซาร์ ซึ่งเพิ่งลงสนามมาในฐานะตัวสำรอง กระชากบอลเลี้ยงขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษเจ้าถิ่น ก่อนจ่ายให้ อาร์เบลัว หลุดเข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังและถูก มายฮิลล์ ปัดปลายมือ แต่บอลถูก เคาท์ ตามมาโหม่งโล่งๆหน้าประตูเข้าไป หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ 3-1 พร้อมนำจ่าฝูงชั่วคราว
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น ซาโลมง กาลู ดาวยิงชาวไอเวอรี โคสต์ มายิงประตูชัยนาที 55 ช่วยให้ "สิงห์บลูส์" เชลซี บุกไปเฉือนชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 โดย "ขุนค้อน" มีโอกาสตีเสมอเช่นกันจากลูกจุดโทษนาที 70 แต่ มาร์ก โนเบิล ซัดไม่ผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกไปโค่น "ท๊อฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน 2-1 จากการยิงของ โรบินโญ (น.35) และ สตีเฟน ไอร์แลนด์ (น.54) ส่วนเจ้าถิ่นได้ประตูปลอบใจจาก แดนนี กอสลิง ในนาทีสุดท้ายของเกม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ฮัลล์ ซิตี : โบอาซ มายฮิลล์, คามิล ซายัตเต, ไมเคิล เทอร์เนอร์, เควิน คิลบาน, ซามูเอล ริกเก็ตต์ส, จอร์จ บัวเต็ง, ดีน มาร์นี, นิก บาร์มบี, จิโอวานนี, เคร็ก ฟาแกน, คาเล็บ โฟลัน
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินชัว, อัลบาโร อาร์เบลัว, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ลูคัส, ยอสซี เบนายูน, เดิร์ก เคาท์
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
โบลตัน เสมอ แอสตัน วิลลา 1-1
[0-1 : แอชลีย์ ยัง น.43], [1-1 : ทามีร์ โคเฮน น.60]
เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯ ซิตี 1-2
[0-1 : โรบินโญ น.35], [0-2 : สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.54], [1-2 : แดน กอสลิง น.90]
ฟูแล่ม ชนะ สโต๊ค 1-0
[1-0 : เอริก เนฟแลนด์ น.29]
ฮัลล์ ซิตี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
[0-1 : ชาบี อลอนโซ น.45], [0-2 : เดิร์ก เคาท์ น.63], [1-2 : โจวานนี น.72], [1-3 : เดิร์ก เคาท์ น.89]
เวสต์บรอมวิช ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0
[1-0 : โฮนาส โอลส์สัน น.40], [2-0 : คริส บรันท์ น.58], [3-0 : ฮวน คาร์ลอส เมนเซเกซ น.88]
เวสต์แฮม แพ้ เชลซี 0-1
[0-1 : ซาโลมง กาลู น.55]
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ สเปอร์ส 5-2
[0-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.29], [0-2 : ลูกา โมดริซ น.32], [1-2 : คริสเตียโน โรนัลโด ลูกจุดโทษ น.57], [2-2 : เวย์น รูนีย์ น.67], [3-2 : คริสเตียโน โรนัลโด น.68], [4-2 : เวย์น รูนีย์ น.71], [5-2 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.79]
