ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทำประตูฝังคู่แข่งหลายต่อหลายจังหวะจนทำให้สุดท้ายถูก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พลิกกลับมาเอาชนะ 2-1 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมหล่นจากบัลลังก์จ่าฝูง
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 ลิเวอร์พูล
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กำลังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจาก แฮร์รี เรดแนปป์ เข้ามาคุมทีมโดยเกมนี้พลาดการใช้งาน เจอร์เมน จีนาส กัปตันทีม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังคงทำผลงานได้อย่างเหนียวแน่นแม้จะไม่มี เฟอร์นันโด ตอร์เรส ลงสนามก็ตาม โดยเกมนี้ ร็อบบี คีน ถูกส่งลงสนามพบกับต้นสังกัดเก่า
เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้เพียง 3 นาที “หงส์แดง” ก็มาทำประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ อาร์เบลัว ทุ่มบอลเข้าไปให้ ร็อบบี คีน ในเขตโทษ กองหน้าชาวไอริชพยายามจับบอลจังหวะแรกแต่ทำไม่ได้ บอลหลุดไปถึง เคาท์ กระชากเข้าไปยิงมุมแคบแซกหน้า โกเมส ให้ทีมขึ้นนำ 1-0
ทีมเยือนยังคงบุกกดดันอย่างหนักและเกือบมาได้ประตูหนีห่างออกไปในอีกสองนาทีต่อมาจากจังหวะลูกเตะมุม เมื่อ เจอร์ราร์ด เปิดบอลเข้ามา ตอนแรกทำท่าว่าจะไม่มีอะไร แต่ เบนท์ ศูนย์หน้าเจ้าถิ่นที่ลงมาช่วยเกมรับสกัดบอลพลาด บอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกมาก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะเคลียร์ทิ้งออกหลังไปได้ทัน
ลูกทีมของ เรดแนปป์ หาจังหวะการทำประตูได้น้อยครั้งเนื่องจากทีมเยือนมีเกมรับที่เหนียวแน่น โดยเจ้าถิ่นกว่าจะมาได้โอกาสลุ้นทำประตูแบบชัดเจนต้องรอมาถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกจากจังหวะที่ โกเมส เตะบอลยาวขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษคู่แข่ง บอลหลุดไปเข้าทาง โมดริซ หลอกหนึ่งจังหวะก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาเต็มแรงจน เรนา ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดทิ้งออกไปได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำก่อน 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลังมาได้ 4 นาที ลิเวอร์พูล เกือบทำประตูหนีห่างจากจังหวะที่ เคาท์ เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงในจังหวะแรก บอลไปติดกองหลังเจ้าถิ่นมาเข้าทาง เจอร์ราร์ด ยิงซ้ำเข้าไปอีกครั้ง บอลพุ่งไปแฉลบ โซโกรา เปลี่ยนทางแต่ โกเมส โชว์ซูเปอร์เซฟปัดปลายมือไปชนเสากระดอนออกไปอย่างหวุดหวิด
ทีมเยือนเกือบทำประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 53 จากความผิดพลาดของ โกเมส ส่งบอลมาให้ เลดลีย์ คิง ไม่ดีถูก คีน ตัดไปได้ ก่อนที่ศูนย์หน้าชาวไอริชจะส่งต่อให้ เจอร์ราร์ด หลุดเข้าไปพยายามปั่นบอลให้ข้ามหัวนายทวารเจ้าถิ่น แต่โชคร้ายบนลอยไปตกบนคานเท่านั้นทำให้พลาดทำประตูหนีห่างออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีต่อมา อาร์เบลัว ลากลุยขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ายังกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงผ่าน ร็อบบี คีน แต่หลุดมาถึง เคาท์ ที่พยายามแหย่เท้าเพื่อเปลี่ยนทางบอล แต่ทำได้ไม่ดีพอบอลหลุดเสาออกไป
เกมมาถึงนาทีที่ 57 ทีมจ่าฝูงเกือบทำประตูได้อีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกระยะกว่า 40 หลา เจอร์ราร์ด รับอาสาเปิดบอลเข้าไป บอลลอยไปถึงเสาสองและเป็น อลอนโซ หลุดเข้าไปโหม่งแบบเดี่ยวๆ แต่มิดฟิลด์ชาวสแปนิชกลับโหม่งออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถทำประตูฝังเจ้าถิ่นได้จึงถูกลงโทษ เมื่อถึงนาทีที่ 69 สเปอร์ มาทำประตูตีเสมอจนได้จากลูกเตะมุม เมื่อ คาร์ราเกอร์ ปราการหลังของทีมเยือนโหม่งบอลผิดเหลี่ยม บอลพุ่งเข้าประตูไปทำให้เจ้าบ้านตามตีเสมออย่างคาดไม่ถึง 1-1
หลังจากทำประตูตีเสมอได้ "ไก่เดือยทอง" กลับมาครองเกมได้เหนือกว่า จนในที่สุดเมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บมาทำประตูพลิกขึ้นนำจากจังหวะที่ เบนทลีย์ เลี้ยงบอลตะลุยเข้าไปบริเวณมุมเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงเต็มแรง เรนา พุ่งปัดได้ทีแรก แต่บอลไปเข้าทาง เบนท์ ตามมาปาดบอลกลับเข้ากลางให้ พาฟลูเชนโก แปบอลหน้าประตูเข้าไปให้เจ้าถิ่นพลิกนำ 2-1 และจบเวลา 90 นาทีด้วยสกอร์นี้
ผลจากความพ่ายแพ้นัดนี้ แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะมี 26 คะแนนเท่ากับ เชลซี แต่มีประตูได้เสียเป็นรองทำต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้แก่ "สิงห์บลูส์" ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีอยู่ 21 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ : โกเมส, เลดลีย์ คิง, โจนาธาน วูดเกต ,เบนัวต์ แอสซู เอก็อตโต, เวดรัน ชอร์ลูกา, ทอม ฮัดเดิลสโตน, ดิดิเยร์ โซโกรา, เจมี โอฮารา, ดาวิด เบนทลีย์, ดาร์เรน เบนท์, ลูกา โมดริซ
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรนา, ดาเนียล อักเกอร์, เจมี คาร์ราเกอร์, อันเดรียส ดอสเซนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, ซาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ร็อบบี คีน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 ลิเวอร์พูล
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กำลังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจาก แฮร์รี เรดแนปป์ เข้ามาคุมทีมโดยเกมนี้พลาดการใช้งาน เจอร์เมน จีนาส กัปตันทีม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังคงทำผลงานได้อย่างเหนียวแน่นแม้จะไม่มี เฟอร์นันโด ตอร์เรส ลงสนามก็ตาม โดยเกมนี้ ร็อบบี คีน ถูกส่งลงสนามพบกับต้นสังกัดเก่า
เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้เพียง 3 นาที “หงส์แดง” ก็มาทำประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ อาร์เบลัว ทุ่มบอลเข้าไปให้ ร็อบบี คีน ในเขตโทษ กองหน้าชาวไอริชพยายามจับบอลจังหวะแรกแต่ทำไม่ได้ บอลหลุดไปถึง เคาท์ กระชากเข้าไปยิงมุมแคบแซกหน้า โกเมส ให้ทีมขึ้นนำ 1-0
ทีมเยือนยังคงบุกกดดันอย่างหนักและเกือบมาได้ประตูหนีห่างออกไปในอีกสองนาทีต่อมาจากจังหวะลูกเตะมุม เมื่อ เจอร์ราร์ด เปิดบอลเข้ามา ตอนแรกทำท่าว่าจะไม่มีอะไร แต่ เบนท์ ศูนย์หน้าเจ้าถิ่นที่ลงมาช่วยเกมรับสกัดบอลพลาด บอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกมาก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะเคลียร์ทิ้งออกหลังไปได้ทัน
ลูกทีมของ เรดแนปป์ หาจังหวะการทำประตูได้น้อยครั้งเนื่องจากทีมเยือนมีเกมรับที่เหนียวแน่น โดยเจ้าถิ่นกว่าจะมาได้โอกาสลุ้นทำประตูแบบชัดเจนต้องรอมาถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกจากจังหวะที่ โกเมส เตะบอลยาวขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษคู่แข่ง บอลหลุดไปเข้าทาง โมดริซ หลอกหนึ่งจังหวะก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาเต็มแรงจน เรนา ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดทิ้งออกไปได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำก่อน 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลังมาได้ 4 นาที ลิเวอร์พูล เกือบทำประตูหนีห่างจากจังหวะที่ เคาท์ เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงในจังหวะแรก บอลไปติดกองหลังเจ้าถิ่นมาเข้าทาง เจอร์ราร์ด ยิงซ้ำเข้าไปอีกครั้ง บอลพุ่งไปแฉลบ โซโกรา เปลี่ยนทางแต่ โกเมส โชว์ซูเปอร์เซฟปัดปลายมือไปชนเสากระดอนออกไปอย่างหวุดหวิด
ทีมเยือนเกือบทำประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 53 จากความผิดพลาดของ โกเมส ส่งบอลมาให้ เลดลีย์ คิง ไม่ดีถูก คีน ตัดไปได้ ก่อนที่ศูนย์หน้าชาวไอริชจะส่งต่อให้ เจอร์ราร์ด หลุดเข้าไปพยายามปั่นบอลให้ข้ามหัวนายทวารเจ้าถิ่น แต่โชคร้ายบนลอยไปตกบนคานเท่านั้นทำให้พลาดทำประตูหนีห่างออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีต่อมา อาร์เบลัว ลากลุยขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ายังกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงผ่าน ร็อบบี คีน แต่หลุดมาถึง เคาท์ ที่พยายามแหย่เท้าเพื่อเปลี่ยนทางบอล แต่ทำได้ไม่ดีพอบอลหลุดเสาออกไป
เกมมาถึงนาทีที่ 57 ทีมจ่าฝูงเกือบทำประตูได้อีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกระยะกว่า 40 หลา เจอร์ราร์ด รับอาสาเปิดบอลเข้าไป บอลลอยไปถึงเสาสองและเป็น อลอนโซ หลุดเข้าไปโหม่งแบบเดี่ยวๆ แต่มิดฟิลด์ชาวสแปนิชกลับโหม่งออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถทำประตูฝังเจ้าถิ่นได้จึงถูกลงโทษ เมื่อถึงนาทีที่ 69 สเปอร์ มาทำประตูตีเสมอจนได้จากลูกเตะมุม เมื่อ คาร์ราเกอร์ ปราการหลังของทีมเยือนโหม่งบอลผิดเหลี่ยม บอลพุ่งเข้าประตูไปทำให้เจ้าบ้านตามตีเสมออย่างคาดไม่ถึง 1-1
หลังจากทำประตูตีเสมอได้ "ไก่เดือยทอง" กลับมาครองเกมได้เหนือกว่า จนในที่สุดเมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บมาทำประตูพลิกขึ้นนำจากจังหวะที่ เบนทลีย์ เลี้ยงบอลตะลุยเข้าไปบริเวณมุมเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงเต็มแรง เรนา พุ่งปัดได้ทีแรก แต่บอลไปเข้าทาง เบนท์ ตามมาปาดบอลกลับเข้ากลางให้ พาฟลูเชนโก แปบอลหน้าประตูเข้าไปให้เจ้าถิ่นพลิกนำ 2-1 และจบเวลา 90 นาทีด้วยสกอร์นี้
ผลจากความพ่ายแพ้นัดนี้ แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะมี 26 คะแนนเท่ากับ เชลซี แต่มีประตูได้เสียเป็นรองทำต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้แก่ "สิงห์บลูส์" ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีอยู่ 21 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ : โกเมส, เลดลีย์ คิง, โจนาธาน วูดเกต ,เบนัวต์ แอสซู เอก็อตโต, เวดรัน ชอร์ลูกา, ทอม ฮัดเดิลสโตน, ดิดิเยร์ โซโกรา, เจมี โอฮารา, ดาวิด เบนทลีย์, ดาร์เรน เบนท์, ลูกา โมดริซ
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรนา, ดาเนียล อักเกอร์, เจมี คาร์ราเกอร์, อันเดรียส ดอสเซนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, ซาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ร็อบบี คีน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์
