ไมเคิล ดอว์สัน ปราการหลัง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เจตนาทำแฮนด์บอลในเขตโทษจนถูกใบแดงไล่ออกจากสนามกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายบดเอาชนะไปได้ 3-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ด้วย
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4 วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2551
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
อีกคู่ที่น่าสนใจประจำ รอบ 4 ของศึกลูกหนังอันเก่าแก่แห่งเมืองผู้ดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของตัวเองต้อนรับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ นัดนี้ พอล สโคลส์ กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองอีกครั้ง หลังจากเจ็บเข่าจนพักไปนาน ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ ยังเป็นทีเด็ดในแนวรุกเช่นเคย
ด้าน ฮวนเด้ รามอส กุนซือของทีมเยือนจากลอนดอนปรับหมากในแผงหลังด้วยการดร็อป ยูเนส กาบูล ออกไปแล้วถอย ทอม ฮัดเดิลสตัน ลงมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ไมเคิล ดอว์สัน ขณะที่ เจมี่ โอฮาร่า กองกลางดาวรุ่งยังได้รับความไว้วางใจให้ลงสนาม ส่วน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ รับหน้าที่ล่าตาข่ายร่วมกับ ร็อบบี้ คีน
หลังสิ้นเสียงนกหวีดแรกของเกม ทั้งสองทีมก็เปิดเกมเข้าหากันทันทีและมีโอกาสลุ้นด้วยกันทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งนาทีที่ 15 จังหวะใกล้เคียงกับการได้ประตูก็เกิดขึ้น เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค เดินเกมขึ้นมาก่อนจ่ายต่อให้ โรนัลโด้ เลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษแล้วสบโอกาสซัดทันที บอลพุ่งเรียดเฉียดเสาซ้ายมือออกไปแค่นิดเดียว
นาทีถัดมา ไก่เดือยทองก็เกือบเป็นฝ่ายขึ้นนำเช่นกันจากลูกเตะมุมทางด้านขวา อารอน เลนนอน เปิดโค้งเข้ามาตรงกลางประตู เบอร์บาตอฟ เบียดเอาชนะกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นโขกเน้นๆ ลูกจะข้ามเส้นอยู่แล้ว แต่ รูนีย์ ยังก้มตัวโหม่งทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด
ถึงนาทีที่ 24 สกอร์แรกของเกมก็เกิดขึ้นโดยเป็นไก่เดือยทองที่ทำได้จากลูกวางยาวของ ไมเคิล ดอว์สัน ตรงกลางสนามข้ามมาถึง เลนนอน ทางกราบขวา ซึ่งปีกตัวจี๊ดก็กระชากหนี ปาทริซ เอฟรา แล้วเปิดเร็ว บอลเลยไปถึง ร็อบบี้ คีน พุ่งเข้ามาชาร์จโล่งๆ หน้าประตูเข้าไปเป็นลูกขึ้นนำ 1-0
พอตกเป็นรอง ปิศาจแดงก็พยายามเดินหน้าทำเกมบุกหวังทวงประตูคืน นาทีที่ 37 คาร์ริค ผ่านบอลให้ ไรอัน กิ๊กส์ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์เหน่งๆ ในเขตโทษ แต่ ราเด็ค แชร์นี่ ยังปัดด้วยปลายมือข้ามคานออกไปได้ กระนั้นนาทีถัดมา สกอร์ก็ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 จนได้จากจังหวะที่ ดอว์สัน โหม่งสกัดในเขตโทษไม่พ้นอันตราย กิ๊กส์ จึงใช้ตัวบัง ลี ยอง-เปียว ไว้ก่อนปล่อยให้ เตเบซ วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายเต็มเหนี่ยวส่งลูกพุ่งกระแทกหน้าต่างอย่างเด็ดขาด ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่นาทีเศษ สเปอร์ส เกือบทำแสบใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อได้โอกาสโต้กลับก่อนจะขึ้นบอลไปทางขวาให้ เลนนอน กระชากหนี เอฟรา จนหัวทิ่มหัวตำก่อนจะชิปบอลหวังให้ข้ามหัว ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบเสาสอง แต่ลูกล้นไปตกบนหลังคาอย่างน่าเสียดาย จากนั้นไก่เดือยทองยังคงสร้างความหวาดเสียวได้เป็นระยะๆ นาทีที่ 55 เจมี่ โอฮาร่า รับอาสาปั่นฟรีคิก ส่งลูกโค้งหนีมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เฉี่ยวเสาแรกไปเพียงนิดเดียว ก่อนที่ เจอร์เมน จีนาส จะได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษ ทว่ากลับให้มุมกว้างเกินไป ลูกหลุดเสาไกลไปแบบน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมง โรนัลโด้ ได้ลูกหลุดเข้าไปซัดที่เสาแรก แต่ก็ยิงไปปะทะข้างตาข่าย จากนั้น พอล สโคลส์ ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแก้เกมแทน ไมเคิล คาร์ริค กระทั่งนาทีที่ 68 สเปอร์ส ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ ดอว์สัน เจตนาใช้มือปัดบอลในจังหวะที่ รูนีย์ กำลังง้างเท้ายิงในเขตโทษ ซึ่ง โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือเป็นสกอร์ 2-1 ของปิศาจแดงและเป็นประตูที่ 24 ในทุกรายการของ “หนูโด้” อีกด้วย
ช่วงท้ายเกมทีมเยือนน่าจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ มัลบรองก์ หยอดเข้าเขตโทษให้ เบอร์บาตอฟ ดีดบอลไปชนเสา ซึ่งพอทำไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มายิงย้ำชัยอย่างเด็ดขาด 3-1 ในนาทีที่ 88 จากการซัดของ โรนัลโด้ โดย แชร์นี่ ล้มตัวรับพลาดปล่อยลูกลอดตัวหลุดข้ามเส้นประตูไปแบบหมูหก ส่งผลให้ปิศาจแดงผ่านเข้าสู่รอบ 5 ได้สำเร็จ ส่วน สเปอร์ส ต้องยุติเส้นทางไว้เพียงเท่านี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไมเคิล คาร์ริค, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ – ราเด็ค แชร์นี่, ตีมู เตนิโอ, ไมเคิล ดอว์สัน, ทอม ฮัดเดิลสตัน, ลี ยอง-เปียว, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, เจมี่ โอฮาร่า, สตีด มัลบรองก์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
เฮียร์ฟอร์ด ยูไนเต็ด แพ้ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 1-2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4 วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2551
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
อีกคู่ที่น่าสนใจประจำ รอบ 4 ของศึกลูกหนังอันเก่าแก่แห่งเมืองผู้ดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของตัวเองต้อนรับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ นัดนี้ พอล สโคลส์ กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองอีกครั้ง หลังจากเจ็บเข่าจนพักไปนาน ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ ยังเป็นทีเด็ดในแนวรุกเช่นเคย
ด้าน ฮวนเด้ รามอส กุนซือของทีมเยือนจากลอนดอนปรับหมากในแผงหลังด้วยการดร็อป ยูเนส กาบูล ออกไปแล้วถอย ทอม ฮัดเดิลสตัน ลงมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ไมเคิล ดอว์สัน ขณะที่ เจมี่ โอฮาร่า กองกลางดาวรุ่งยังได้รับความไว้วางใจให้ลงสนาม ส่วน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ รับหน้าที่ล่าตาข่ายร่วมกับ ร็อบบี้ คีน
หลังสิ้นเสียงนกหวีดแรกของเกม ทั้งสองทีมก็เปิดเกมเข้าหากันทันทีและมีโอกาสลุ้นด้วยกันทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งนาทีที่ 15 จังหวะใกล้เคียงกับการได้ประตูก็เกิดขึ้น เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค เดินเกมขึ้นมาก่อนจ่ายต่อให้ โรนัลโด้ เลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษแล้วสบโอกาสซัดทันที บอลพุ่งเรียดเฉียดเสาซ้ายมือออกไปแค่นิดเดียว
นาทีถัดมา ไก่เดือยทองก็เกือบเป็นฝ่ายขึ้นนำเช่นกันจากลูกเตะมุมทางด้านขวา อารอน เลนนอน เปิดโค้งเข้ามาตรงกลางประตู เบอร์บาตอฟ เบียดเอาชนะกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นโขกเน้นๆ ลูกจะข้ามเส้นอยู่แล้ว แต่ รูนีย์ ยังก้มตัวโหม่งทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด
ถึงนาทีที่ 24 สกอร์แรกของเกมก็เกิดขึ้นโดยเป็นไก่เดือยทองที่ทำได้จากลูกวางยาวของ ไมเคิล ดอว์สัน ตรงกลางสนามข้ามมาถึง เลนนอน ทางกราบขวา ซึ่งปีกตัวจี๊ดก็กระชากหนี ปาทริซ เอฟรา แล้วเปิดเร็ว บอลเลยไปถึง ร็อบบี้ คีน พุ่งเข้ามาชาร์จโล่งๆ หน้าประตูเข้าไปเป็นลูกขึ้นนำ 1-0
พอตกเป็นรอง ปิศาจแดงก็พยายามเดินหน้าทำเกมบุกหวังทวงประตูคืน นาทีที่ 37 คาร์ริค ผ่านบอลให้ ไรอัน กิ๊กส์ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์เหน่งๆ ในเขตโทษ แต่ ราเด็ค แชร์นี่ ยังปัดด้วยปลายมือข้ามคานออกไปได้ กระนั้นนาทีถัดมา สกอร์ก็ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 จนได้จากจังหวะที่ ดอว์สัน โหม่งสกัดในเขตโทษไม่พ้นอันตราย กิ๊กส์ จึงใช้ตัวบัง ลี ยอง-เปียว ไว้ก่อนปล่อยให้ เตเบซ วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายเต็มเหนี่ยวส่งลูกพุ่งกระแทกหน้าต่างอย่างเด็ดขาด ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่นาทีเศษ สเปอร์ส เกือบทำแสบใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อได้โอกาสโต้กลับก่อนจะขึ้นบอลไปทางขวาให้ เลนนอน กระชากหนี เอฟรา จนหัวทิ่มหัวตำก่อนจะชิปบอลหวังให้ข้ามหัว ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบเสาสอง แต่ลูกล้นไปตกบนหลังคาอย่างน่าเสียดาย จากนั้นไก่เดือยทองยังคงสร้างความหวาดเสียวได้เป็นระยะๆ นาทีที่ 55 เจมี่ โอฮาร่า รับอาสาปั่นฟรีคิก ส่งลูกโค้งหนีมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เฉี่ยวเสาแรกไปเพียงนิดเดียว ก่อนที่ เจอร์เมน จีนาส จะได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษ ทว่ากลับให้มุมกว้างเกินไป ลูกหลุดเสาไกลไปแบบน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมง โรนัลโด้ ได้ลูกหลุดเข้าไปซัดที่เสาแรก แต่ก็ยิงไปปะทะข้างตาข่าย จากนั้น พอล สโคลส์ ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแก้เกมแทน ไมเคิล คาร์ริค กระทั่งนาทีที่ 68 สเปอร์ส ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ ดอว์สัน เจตนาใช้มือปัดบอลในจังหวะที่ รูนีย์ กำลังง้างเท้ายิงในเขตโทษ ซึ่ง โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือเป็นสกอร์ 2-1 ของปิศาจแดงและเป็นประตูที่ 24 ในทุกรายการของ “หนูโด้” อีกด้วย
ช่วงท้ายเกมทีมเยือนน่าจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ มัลบรองก์ หยอดเข้าเขตโทษให้ เบอร์บาตอฟ ดีดบอลไปชนเสา ซึ่งพอทำไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มายิงย้ำชัยอย่างเด็ดขาด 3-1 ในนาทีที่ 88 จากการซัดของ โรนัลโด้ โดย แชร์นี่ ล้มตัวรับพลาดปล่อยลูกลอดตัวหลุดข้ามเส้นประตูไปแบบหมูหก ส่งผลให้ปิศาจแดงผ่านเข้าสู่รอบ 5 ได้สำเร็จ ส่วน สเปอร์ส ต้องยุติเส้นทางไว้เพียงเท่านี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไมเคิล คาร์ริค, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ – ราเด็ค แชร์นี่, ตีมู เตนิโอ, ไมเคิล ดอว์สัน, ทอม ฮัดเดิลสตัน, ลี ยอง-เปียว, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, เจมี่ โอฮาร่า, สตีด มัลบรองก์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
เฮียร์ฟอร์ด ยูไนเต็ด แพ้ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 1-2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1