แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับความผิดหวังในพิธีไว้อาลัยครบรอบ 50 ปีโศกนาฏกรรมที่มิวนิค หลังถูกอริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมายัดเยียดความปราชัยนัดแรกในบ้านของฤดูกาลนี้ 1-2 โดยที่ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี หัวหอกตัวใหม่ของเรือใบสีฟ้าพังประตูในนัดเปิดตัวกับต้นสังกัดใหม่ได้ด้วย
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ศึกดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยก่อนเกมจะเริ่มขึ้นได้มีพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งนอกจากจะมีการยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาทีแล้ว ทั้งสองทีมยังสวมยูนิฟอร์มที่สั่งทำพิเศษอีกด้วย โดยฝั่งยูไนเต็ดใส่เสื้อย้อนยุคเหมือนผู้เล่นชุด “บัสบี้ เบ็บส์” และหมายเลขเรียงลำดับตั้งแต่ 1-11 ขณะที่ซิตี้สวมเสื้อไม่มีโลโก้สปอนเซอร์
ในส่วนของความพร้อม ด้านปิศาจแดงไม่มี เวย์น รูนีย์ กับ ปาทริซ เอฟรา ที่ติดโทษแบนทำให้ จอห์น โอเช ถูกส่งลงมาเล่นแบ็กซ้าย ส่วน นานี่ ได้ยืนกราบขวาพร้อมทั้งดัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปเล่นกองหน้าคู่กับ คาร์ลอส เตเบซ ขณะที่ทีมเยือนหมดสิทธิ์ใช้งาน เอลาโน่ จึงให้ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ทำหน้าที่แทนโดย เบนจานี่ เอ็มวารูวารี หัวหอกตัวใหม่ชาวซิมบับเวได้โอกาสลงประเดิมสนามทันที
หลังสิ้นเสียงนกหวีดเริ่มเกม โอกาสยิงครั้งแรกในนัดนี้เป็นของเจ้าถิ่นในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ นานี่ ไหลทะลุช่องให้ เตเบซ หลุดขึ้นไปถึงเส้นหลังด้านขวาก่อนตวัดเลยไปถึงเสาสองให้ ไรอัน กิ๊กส์ จับบอลลงแล้วซัดมุมแคบ แต่ โจ ฮาร์ท ยังผวาปัดข้ามคานออกไปได้
จากนั้นนาทีที่ 13 เรือใบสีฟ้าก็เดินหน้าแลกหมัดบ้าง เปตรอฟ เลี้ยงจี้เข้าหา เวส บราวน์ แล้วลองส่องไกลนอกเขตโทษ แต่ลูกเหินข้ามคาน นาทีต่อมา เปตรอฟ จ่ายออกทางซ้ายให้ ไมเคิล บอลล์ ที่เติมขึ้นมาโยนโด่งเข้ากลาง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ โถมตัวเข้ามาโหม่งแต่ก็ไม่แรงพอจึงไปเข้าซอง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ สบาย
กระทั่งนาทีที่ 24 แมนฯ ซิตี้ อาศัยจังหวะโต้กลับจากกลางสนามพังประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 โดย เปตรอฟ แทงทะลุช่องให้ ไอร์แลนด์ ยิงไปติด ฟาน เดอร์ ซาร์ ก่อนที่จะกระดอนมาเข้าทาง ดาริอุส วาสเซลล์ ซ้ำอีกครั้งก็ยังถูกเซฟได้อีก แต่ดาบที่สาม วาสเซลล์ จัดการเลือกมุมยิงเข้าไปตุงตาข่ายในที่สุด
หลังจากโดนลูบคม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โหมบุกหวังทวงประตูคืน นาทีที่ 27 เตเบซ ได้โอกาสเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ โจ ฮาร์ท ยังพุ่งปัดเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้นนาทีที่ 35 โรนัลโด้ ได้จังหวะสับไกเน้นๆ ลูกหนีมือ ฮาร์ท ทำท่าจะเสียบเสาไกล แต่ ริชาร์ด ดันน์ ยังบล็อกออกหลังไปได้ก่อนที่ เนมานยา วิดิช จะเติมขึ้นมาชาร์จลูกเตะมุมในกรอบ 6 หลาเฉี่ยวเสาออกไป ทว่านาทีที่ 45 เบนจานี่ ก็สามารถใส่สกอร์ในเกมเปิดตัวกับเรือใบสีฟ้าได้สำเร็จจากการโหม่งเช็ดลูกเปิดของ เปตรอฟ ส่งบอลเสียบหน้าต่างเสาไกล จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายตามหลังอยู่ถึง 0-2
กลับเข้าสู่ครึ่งหลังได้ไม่ถึง 1 นาที ฮามันน์ ได้จังหวะตะบันเต็มเหนี่ยวนอกกรอบเขตโทษแต่ไม่พ้นมือของ ฟาน เดอร์ ซาร์ กระทั่งนาทีที่ 56 ปิศาจแดงสามารถส่งลูกหนังเข้าสู่ก้นตาข่ายได้จากจังหวะชุลมุนหน้าเขตโทษของทีมเยือนแล้ว พอล สโคลส์ ยิงไปแฉลบก่อนกระดอนไปเข้าทาง เตเบซ ชาร์จผ่านมือ โจ ฮาร์ท แต่ลูกนี้ไม่เป็นประตู เนื่องจากศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
ความผิดพลาดของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในช่วงครบหนึ่งชั่วโมงของเกมเกือบทำให้เจ้าถิ่นเสียประตูที่ 3 เมื่อจ่ายพลาดกลางสนามจนถูกสวนกลับ แต่จังหวะสุดท้าย เปตรอฟ ซัดหลุดข้างเสาออกหลังไปเอง จากนั้น โรนัลโด้ ได้ลองกดนอกเขตโทษดูบ้าง ทว่าก็ยังไม่เข้าเป้า
เวลาเริ่มหมดลงเรื่อยๆ นาทีที่ 78 ปาร์ค จี-ซุง ตัวสำรองเปิดเข้าเขตโทษให้ ไมเคิล คาร์ริค แตะบอลต่อให้ กิ๊กส์ วิ่งเข้ามากดเรียดส่งลูกถากเสาสองออกไปเพียงนิดเดียว จนมาถึงนาทีที่ 2 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านก็มาตีไข่แตกเป็น 1-2 จากจังหวะที่ทีมเยือนเสียบอลแถวกลางสนามให้ สโคลส์ ก่อนจ่ายต่อให้ คาร์ริค แปเลือกมุมที่เส้นเขตโทษเบียดเสาเข้าไป แต่ก็ไล่ไม่ทัน ทำให้เกมจบลงด้วยความปราชัยในบ้านครั้งแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ และยังรั้งรองจ่าฝูงต่อไปที่ 58 คะแนน ส่วน แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, จอห์น โอเช, นานี่, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเบซ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โจ ฮาร์ท, เนดุม โอนัวฮา, ไมกาห์ ริชาร์ดส, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิล บอลล์, ดาริอุส วาสเซลล์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดีทมาร์ ฮามันน์, เกลซง แฟร์นองเดส, มาร์ติน เปตรอฟ, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ศึกดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยก่อนเกมจะเริ่มขึ้นได้มีพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งนอกจากจะมีการยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาทีแล้ว ทั้งสองทีมยังสวมยูนิฟอร์มที่สั่งทำพิเศษอีกด้วย โดยฝั่งยูไนเต็ดใส่เสื้อย้อนยุคเหมือนผู้เล่นชุด “บัสบี้ เบ็บส์” และหมายเลขเรียงลำดับตั้งแต่ 1-11 ขณะที่ซิตี้สวมเสื้อไม่มีโลโก้สปอนเซอร์
ในส่วนของความพร้อม ด้านปิศาจแดงไม่มี เวย์น รูนีย์ กับ ปาทริซ เอฟรา ที่ติดโทษแบนทำให้ จอห์น โอเช ถูกส่งลงมาเล่นแบ็กซ้าย ส่วน นานี่ ได้ยืนกราบขวาพร้อมทั้งดัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปเล่นกองหน้าคู่กับ คาร์ลอส เตเบซ ขณะที่ทีมเยือนหมดสิทธิ์ใช้งาน เอลาโน่ จึงให้ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ทำหน้าที่แทนโดย เบนจานี่ เอ็มวารูวารี หัวหอกตัวใหม่ชาวซิมบับเวได้โอกาสลงประเดิมสนามทันที
หลังสิ้นเสียงนกหวีดเริ่มเกม โอกาสยิงครั้งแรกในนัดนี้เป็นของเจ้าถิ่นในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ นานี่ ไหลทะลุช่องให้ เตเบซ หลุดขึ้นไปถึงเส้นหลังด้านขวาก่อนตวัดเลยไปถึงเสาสองให้ ไรอัน กิ๊กส์ จับบอลลงแล้วซัดมุมแคบ แต่ โจ ฮาร์ท ยังผวาปัดข้ามคานออกไปได้
จากนั้นนาทีที่ 13 เรือใบสีฟ้าก็เดินหน้าแลกหมัดบ้าง เปตรอฟ เลี้ยงจี้เข้าหา เวส บราวน์ แล้วลองส่องไกลนอกเขตโทษ แต่ลูกเหินข้ามคาน นาทีต่อมา เปตรอฟ จ่ายออกทางซ้ายให้ ไมเคิล บอลล์ ที่เติมขึ้นมาโยนโด่งเข้ากลาง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ โถมตัวเข้ามาโหม่งแต่ก็ไม่แรงพอจึงไปเข้าซอง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ สบาย
กระทั่งนาทีที่ 24 แมนฯ ซิตี้ อาศัยจังหวะโต้กลับจากกลางสนามพังประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 โดย เปตรอฟ แทงทะลุช่องให้ ไอร์แลนด์ ยิงไปติด ฟาน เดอร์ ซาร์ ก่อนที่จะกระดอนมาเข้าทาง ดาริอุส วาสเซลล์ ซ้ำอีกครั้งก็ยังถูกเซฟได้อีก แต่ดาบที่สาม วาสเซลล์ จัดการเลือกมุมยิงเข้าไปตุงตาข่ายในที่สุด
หลังจากโดนลูบคม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โหมบุกหวังทวงประตูคืน นาทีที่ 27 เตเบซ ได้โอกาสเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ โจ ฮาร์ท ยังพุ่งปัดเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้นนาทีที่ 35 โรนัลโด้ ได้จังหวะสับไกเน้นๆ ลูกหนีมือ ฮาร์ท ทำท่าจะเสียบเสาไกล แต่ ริชาร์ด ดันน์ ยังบล็อกออกหลังไปได้ก่อนที่ เนมานยา วิดิช จะเติมขึ้นมาชาร์จลูกเตะมุมในกรอบ 6 หลาเฉี่ยวเสาออกไป ทว่านาทีที่ 45 เบนจานี่ ก็สามารถใส่สกอร์ในเกมเปิดตัวกับเรือใบสีฟ้าได้สำเร็จจากการโหม่งเช็ดลูกเปิดของ เปตรอฟ ส่งบอลเสียบหน้าต่างเสาไกล จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายตามหลังอยู่ถึง 0-2
กลับเข้าสู่ครึ่งหลังได้ไม่ถึง 1 นาที ฮามันน์ ได้จังหวะตะบันเต็มเหนี่ยวนอกกรอบเขตโทษแต่ไม่พ้นมือของ ฟาน เดอร์ ซาร์ กระทั่งนาทีที่ 56 ปิศาจแดงสามารถส่งลูกหนังเข้าสู่ก้นตาข่ายได้จากจังหวะชุลมุนหน้าเขตโทษของทีมเยือนแล้ว พอล สโคลส์ ยิงไปแฉลบก่อนกระดอนไปเข้าทาง เตเบซ ชาร์จผ่านมือ โจ ฮาร์ท แต่ลูกนี้ไม่เป็นประตู เนื่องจากศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
ความผิดพลาดของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในช่วงครบหนึ่งชั่วโมงของเกมเกือบทำให้เจ้าถิ่นเสียประตูที่ 3 เมื่อจ่ายพลาดกลางสนามจนถูกสวนกลับ แต่จังหวะสุดท้าย เปตรอฟ ซัดหลุดข้างเสาออกหลังไปเอง จากนั้น โรนัลโด้ ได้ลองกดนอกเขตโทษดูบ้าง ทว่าก็ยังไม่เข้าเป้า
เวลาเริ่มหมดลงเรื่อยๆ นาทีที่ 78 ปาร์ค จี-ซุง ตัวสำรองเปิดเข้าเขตโทษให้ ไมเคิล คาร์ริค แตะบอลต่อให้ กิ๊กส์ วิ่งเข้ามากดเรียดส่งลูกถากเสาสองออกไปเพียงนิดเดียว จนมาถึงนาทีที่ 2 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านก็มาตีไข่แตกเป็น 1-2 จากจังหวะที่ทีมเยือนเสียบอลแถวกลางสนามให้ สโคลส์ ก่อนจ่ายต่อให้ คาร์ริค แปเลือกมุมที่เส้นเขตโทษเบียดเสาเข้าไป แต่ก็ไล่ไม่ทัน ทำให้เกมจบลงด้วยความปราชัยในบ้านครั้งแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ และยังรั้งรองจ่าฝูงต่อไปที่ 58 คะแนน ส่วน แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, จอห์น โอเช, นานี่, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเบซ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โจ ฮาร์ท, เนดุม โอนัวฮา, ไมกาห์ ริชาร์ดส, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิล บอลล์, ดาริอุส วาสเซลล์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดีทมาร์ ฮามันน์, เกลซง แฟร์นองเดส, มาร์ติน เปตรอฟ, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
