xs
xsm
sm
md
lg

‘รูนีย์’ ซัดชัยผี 10 คนล่มเรือใบ-ไก่พ่ายทอฟฟีคาถิ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวย์น รูนีย์ ซัดประตูชัยช่วยให้ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกหลอน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดาร์บีแมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งทีมเยือนเหลือ 10 คนจาการที่ คริสเตียโน โรนัลโด โดนไล่ออกจากสนาม

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วิดิช เล่นเอา โรบินโญ ล้มไปวัดพื้น
มาร์ค ฮิวจ์ส นำพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี เปิดสนาม ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ทำศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บีแมตช์ กับ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเจ้าถิ่นมีข่าวดีได้ โรบินโญ ฟิตกลับมาประสานงานแดนหน้าร่วมกับ ดาริอุส วาสเซลล์ และ เบนจานี เอ็มวารูวารี ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทัพให้ทีมเยือนสมบูรณ์ไม่น้อยได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ สลัดอาการเจ็บล่าตาข่ายร่วมกับ เวย์น รูนีย์ ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด ลงกระชากลากเลื้อยเหมือนเดิม
เฟอร์ดินานด์ ยินดีกับ รูนีย์
เริ่มเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายครองเกมได้ก่อน นาทีที่ 8 เกมรุกอันวูบวาบเกือบได้เฮ ปาร์ค จี ซอง เปิดจากด้านข้างให้ เวย์น รูนีย์ ตวัดยิงจังหวะเดียว โจ ฮาร์ท รับซองแตกหน้าประตูตัวเองยังดีที่ปฏิกิริยาเร็วแตะบอลทิ้งได้ทันก่อนที่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จะได้ซ้ำจ่อๆ เกมยังเป็นของผู้มาเยือน ห้านาทีถัดมา รูนีย์ เปิดลูกเตะมุมให้ คริสเตียโน โรนัลโด กระโดดขวิดบอลข้ามคานไปแบบได้ลุ้น

ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก เกมบุกทางริมเส้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังยอดเยี่ยม ราฟาเอล เติมเกมบุกขึ้นมาทางขวาก่อนโยนให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ขวิดบอลกำลังจะเสียบเสาสองแต่ ฮาร์ท บินปัดออกไปได้สวย เกมยังเป็นไปแบบวันเวย์ นาทีที่ 25 ปาทริซ เอฟรา เติมขึ้นมาจ่ายเข้ากลางให้ รูนีย์ แต่โดนเคลียร์ออกมาเข้าทางแบ็กทีมชาติฝรั่งเศสตะบันทันทีด้วยความแต่บอลเหินข้ามข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น

ครึ่งชั่วโมง แมนฯ ซิตี เพิ่งมีโอกาสลุ้นประตูและเกือบได้เฮเมื่อ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาชกลูกฟรีคิกของเจ้าถิ่นไม่ดี กระเด้งไปเข้าทางให้ สตีเฟน ไอร์แลนด์ ตวัดยิงบอลกระแทกเสาออกไป แต่ถึงนาทีที่ 42 “ผีแดง” ได้ประตูนำ 1-0 ไมเคิล คาร์ริค ยิงบอลให้ ฮาร์ท เซฟออกมาเข้าทางให้ รูนีย์ แปเหน่งๆ ไม่เหลือ และก็เป็นประตูที่ 100 ของกองหน้าทีมชาติอังกฤษในการเตะอาชีพ จบ 45 นาทีแรกทีมเยือนรักษาสกอร์นำไว้ได้
ไอร์แลนด์ แย่งโหม่ง เฟล็ทเชอร์
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง มาร์ค ฮิวจ์ส ขยับแก้เกมให้ แมนฯ ซิตี ทันทีด้วยการใส่ ปาโบล ซาบาเลตา และ เอลาโน ลงมาเล่นแทน ดาริอุส วาสเซลล์ กับ ดีทมาร์ ฮามันน์ และก็เดินหน้าลุยทันที นาทีที่ 50 แว็งซองต์ กอมปานี ซึ่งถูกดันขึ้นมาเล่นกองกลางเติมขึ้นมาอัดเต็มเท้าบอลไซด์ออกเสาไป เกมแลกกันอย่างสนุก เจ้าถิ่นได้โอกาสอีกครั้ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ลากขึ้นมาจากแดนตัวเองก่อนแทงให้ เบนจานี เอ็มวารูวารี สะบัดข้อยิงเร็วแต่บอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมค่อนข้างเปิดทีเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด สวนขึ้นมาอีกครั้ง รูนีย์ สบโอกาสแทงบอลให้ ปาร์ค จี ซอง แต่โดน ไมกาห์ ริชาร์ดส สไลด์ทิ้งไปได้ทัน นาทีที่ 68 ทีมเยือนต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ โรนัลโด เจตนาใช้มือตบบอลในจังหวะขึ้นโหม่งลูกฟรีคิก ทำให้ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ชักใบเหลือง-แดงไล่ซูเปอร์สตาร์ “ผีแดง” ออกจากสนามไป

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ริชาร์ดส บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ฮิวจ์ส ยอมเสี่ยงใส่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งเป็นกองหน้าลงมาเล่นแทน แม้ตัวผู้เล่นมากกว่าแต่ แมนฯ ซิตี ยังเดินเกมกดดันได้ไม่มากนัก เฟอร์กี้ ปรับทัพให้ทีมเยือนบ้างใส่ ไรอัน กิกส์ มาไล่บอลแทน เบอร์บาตอฟ ที่หมดแรง ท้ายเกม ริชาร์ด ดันน์ ได้ยิงเหน่งๆ แต่ติดเซฟ ฟาน เดอร์ ซาร์ จากจังหวะสวนกลับ รูนีย์ ยิงบอลโด่งหวังให้เข้าประตูแต่ ฮาร์ท ที่เติมขึ้นไปวิ่งกลับมาปัดบอลออกมาได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยมีเพิ่มเป็น 28 คะแนนจากการลงสนาม 14 นัด อยู่อันดับ 3 ดังเดิม แต่ไล่จี้ “สิงห์บลูส์” เชลซี จ่าฝูงเหลือแค่ 5 แต้มแถมแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ แมนฯ ซิตี มีอยู่ 17 แต้ม รั้งอันดับ 14 จากการลงเล่น 15 นัด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ไมกาห์ ริชาร์ดส , ริชาร์ด ดันน์ , แว็งซองต์ กอมปานี , ฮาเบียร์ การ์ริโด , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , ดีทมาร์ ฮามันน์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , ดาริอุส วาสเซลล์ , เบนจานี เอ็มวารูวารี , โรบินโญ

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , ราฟาเอล , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , คริสเตียโน โรนัลโด , ไมเคิล คาร์ริค , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ปาร์ค จี ซอง , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , เวย์น รูนีย์
 
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
 
แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : เวย์น รูนีย์ (น.42)]
 
ปอร์ทสมัธ 3-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.49) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.53) , 2-1 : แมตต์ ดาร์บีเชียร์ (น.62) , 2-2 : ตูกาย เคริโมกลู (น.67) , 3-2 : ฌอน เดวิส (น.79)]
 
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : สตีเวน พีนาร์ (น.51)]
 
เชลซี 1-2 อาร์เซนอล
[1-0 : โยฮัน ฌูรู (ทำเข้าประตูตัวเอง น.31) , 1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.59) , 1-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.62)]
กำลังโหลดความคิดเห็น