“สิงห์บลูส์” เชลซี กระโดดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังเปิดถ้ำไล่ขย้ำ เบิร์นลีย์ ทีมน้องใหม่ 3-0 ในเกมการแข่งขันคู่หัวค่ำวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 3-0 เบิร์นลีย์
คาร์โล อันเชลอตติ นำทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี เปิดบ้านรับมือ เบิร์นลีย์ โดยเจ้าถิ่นมีการสลับแผงกลางให้ มิคาเอล เอสเซียง เป็นตัวตัดเกม ขณะที่ มิชาเอล บัลลัค กับ เดโก ซูซา ลงมาช่วย แฟรงค์ แลมพาร์ด ปั้นเกม ด้าน โอเวน คอยล์ วางทัพใหญ่มาเยือนกรุงลอนดอน ร็อบบี เบล็ค และ เหว็ด เอลเลียตต์ ขึ้นเกมทางกราบลุ้นเปิดบอลให้ มาร์ติน พาเตอร์สัน กับ สตีเวน เฟล็ทเชอร์ ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันเป็นทาง เชลซี ครองบอลบุกเข้าใส่ นาทีที่ 6 ความผิดพลาดในแผงรับของ เบิร์นลีย์ เกือบทำให้งานเข้าเมื่อ นิโกลาส์ อเนลกา ฉกบอลไปจาก อองเดร บิเคย์ เข้าไปดวลเดี่ยวกับ ไบรอัน แยนเซน แต่กองหน้าเจ้าถิ่นลากไปโดนนายทวารเกี่ยวบอลติดมือ จังหวะสวนกลับของทีมเยือนเล่นเอาแฟนๆ ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เสียวไปเหมือนกัน คริส แม็คคานน์ ลากตะลุยเข้ามาจิ้มด้วยหัวเกือกบอลเหินข้ามคาน
นาทีที่ 10 ความผิดพลาดเสียบอลในแดนตัวเองของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำให้ สตีเวน เฟล็ทเชอร์ ฉกไปปาดเข้ากลางให้ มาร์ติน พาเตอร์สัน ได้ล่อเป้า ปีเตอร์ เช็ก แต่กลับแปบอลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดายที่สุด ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “สิงห์บลูส์” ใกล้เคียงกับการได้โอกาสขึ้นนำอีกครั้ง แลมพ์ จ่ายทะลุช่องให้ มิชาเอล บัลลัค พลิกหนี บิเคย์ แต่อัดบอลไปเข้าอก แยนเซน ที่ออกมาบังทางได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น เชลซี เกือบได้เฮอีกครั้งเมื่อ จอห์น เทอร์รี สอดขึ้นมาแปลูกเปิดเตะมุมเข้ามาของเพื่อนแต่ลูกหนังดันพุ่งไปตรงตัว แยนเซน เสียอีก ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมเริ่มเป็นไปแบบวันเวย์ เจ้าบ้านปูพรมบุกใส่เป็นชุดๆ แต่ไม่สามารถส่งลูกหนังผ่านมือ แยนเซน ไปได้ แต่ช่วงทดเจ็บ “สิงห์บลูส์” มาตะปบนำ 1-0 จนได้ มิคาเอล เอสเซียง แทงบอลยาวให้ ดร็อกบา หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนไหลไปหน้าประตูให้ อเนลกา ชาร์จบอลโดนเสากระดอนเข้าประตูและก็จบ 45 นาทีแรก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง “สิงห์บลูส์” ฉีกหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 47 เมื่อ อเนลกา ป้ายต่อให้ แลมพาร์ด เปิดจากกราบซ้ายเข้ามาให้ บัลลัค ตอร์บิโดโขกบอลจมตาข่าย แถมอีกห้านาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้ใจหนีไปไกลเป็น 3-0 คราวนี้ แอชลีย์ โคล เติมเกมขึ้นมาเล่นชิ่งหนึ่งสองกับ แลมพ์ ก่อนได้จังหวะสับด้วยซ้ายส่งบอลแสกหน้า แยนเซน เข้าไปอย่างสวยงาม ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มเกมกลายเป็นของเจ้าบ้านอย่างเบ็ดเสร็จ เนื่องจาก เบิร์นลีย์ ดูถอดใจไปพอสมควร
นาทีที่ 67 แฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮกันยาวๆ อีกครั้งเมื่อ เอสเซียง เติมขึ้นมาตะบันด้วยซ้ายบอลพุ่งอย่างกับจรวดแต่ แยนเซน พุ่งสุดเหยียดปัดปลายมือออกหลังไปได้ สิบนาทีถัดมา เชลซี ยังเดินเกมเอาใจแฟนๆ เต็มที่ เอสเซียง ได้ยิงอีกครั้งแต่ แยนเซน ไม่พลาด จากลูกเตะมุม บัลลัค ขึ้นมาโขกอีกแต่นายทวารทีมเยือนไม่ยอมเสียประตูที่สี่ ก่อนหมดเวลา 7 นาทีตาข่าย เบิร์นลีย์ ไหวอีกครั้ง อเนลกา หลุดเข้าไปยิงแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน
ท้ายเกม “สิงห์บลูส์” เกือบได้ประตูฝังชัยแบบราบคาบ เมื่อ ซาโลมอน คาลู หลุดเข้าไปปาดบอลกำลังจะไหลเข้าเสาไกลแต่ ไทโรน เมียร์ส ตามไปเคลียร์ได้บนเส้นพอดี อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที เชลซี ทำสถิติเก็บชัยชนะ 4 เกมรวด มี 12 คะแนนเต็ม กระโดดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ขณะที่ เบิร์นลีย์ หล่นไปอยู่ที่ 9 มี 6 แต้มเหมือนเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โชเซ โบซิงวา , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , จอห์น เทอร์รี , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , เดโก ซูซา , แฟรงค์ แลมพาร์ด , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
เบิร์นลีย์ : ไบรอัน แยนเซน , ไทโรน เมียร์ส , คลาร์ก คาร์ไลส์ , อองเดร บิเคย์ , สตีเฟน จอร์แดน , ร็อบบี เบล็ค , เกรแฮม อเล็กซานเดอร์ , คริส แม็คคานน์ , เหว็ด เอลเลียตต์ , มาร์ติน พาเตอร์สัน , สตีเวน เฟล็ทเชอร์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
เชลซี 3-0 เบิร์นลีย์
[1-0 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.45) , 2-0 : มิชาเอล บัลลัค (น.47) , 3-0 : แอชลีย์ โคล (น.52)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 ลิเวอร์พูล
[1-0 : เควิน เดวิส (น.33) , 1-1 : เกล็น จอห์นสัน (น.41) , 2-1 : ทาเมียร์ โคเฮน (น.47) , 2-2 : เฟร์นานโด ตอร์เรส (น.56) , 2-3 : สตีเวน เจอร์ราร์ด (น.83)]
สโตค ซิตี 1-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เดฟ คิตสัน (น.42)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.72) , 1-1 : ลี โบว์เยอร์ (น.75) , 2-1 : อารอน เลนนอน (น.90)]
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 ฮัลล์ ซิตี
[0-1 : โจวานนี (น.3) , 1-1 : ริชาร์ด สเตียร์แมน (น.46)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 อาร์เซนอล
[0-1 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.40) , 1-1 : เวย์น รูนีย์ (จุดโทษ น.59) , 2-1 : อาบู ดิยาบี (ทำเข้าประตูตัวเอง น.64)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 3-0 เบิร์นลีย์
คาร์โล อันเชลอตติ นำทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี เปิดบ้านรับมือ เบิร์นลีย์ โดยเจ้าถิ่นมีการสลับแผงกลางให้ มิคาเอล เอสเซียง เป็นตัวตัดเกม ขณะที่ มิชาเอล บัลลัค กับ เดโก ซูซา ลงมาช่วย แฟรงค์ แลมพาร์ด ปั้นเกม ด้าน โอเวน คอยล์ วางทัพใหญ่มาเยือนกรุงลอนดอน ร็อบบี เบล็ค และ เหว็ด เอลเลียตต์ ขึ้นเกมทางกราบลุ้นเปิดบอลให้ มาร์ติน พาเตอร์สัน กับ สตีเวน เฟล็ทเชอร์ ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันเป็นทาง เชลซี ครองบอลบุกเข้าใส่ นาทีที่ 6 ความผิดพลาดในแผงรับของ เบิร์นลีย์ เกือบทำให้งานเข้าเมื่อ นิโกลาส์ อเนลกา ฉกบอลไปจาก อองเดร บิเคย์ เข้าไปดวลเดี่ยวกับ ไบรอัน แยนเซน แต่กองหน้าเจ้าถิ่นลากไปโดนนายทวารเกี่ยวบอลติดมือ จังหวะสวนกลับของทีมเยือนเล่นเอาแฟนๆ ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เสียวไปเหมือนกัน คริส แม็คคานน์ ลากตะลุยเข้ามาจิ้มด้วยหัวเกือกบอลเหินข้ามคาน
นาทีที่ 10 ความผิดพลาดเสียบอลในแดนตัวเองของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำให้ สตีเวน เฟล็ทเชอร์ ฉกไปปาดเข้ากลางให้ มาร์ติน พาเตอร์สัน ได้ล่อเป้า ปีเตอร์ เช็ก แต่กลับแปบอลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดายที่สุด ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “สิงห์บลูส์” ใกล้เคียงกับการได้โอกาสขึ้นนำอีกครั้ง แลมพ์ จ่ายทะลุช่องให้ มิชาเอล บัลลัค พลิกหนี บิเคย์ แต่อัดบอลไปเข้าอก แยนเซน ที่ออกมาบังทางได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น เชลซี เกือบได้เฮอีกครั้งเมื่อ จอห์น เทอร์รี สอดขึ้นมาแปลูกเปิดเตะมุมเข้ามาของเพื่อนแต่ลูกหนังดันพุ่งไปตรงตัว แยนเซน เสียอีก ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมเริ่มเป็นไปแบบวันเวย์ เจ้าบ้านปูพรมบุกใส่เป็นชุดๆ แต่ไม่สามารถส่งลูกหนังผ่านมือ แยนเซน ไปได้ แต่ช่วงทดเจ็บ “สิงห์บลูส์” มาตะปบนำ 1-0 จนได้ มิคาเอล เอสเซียง แทงบอลยาวให้ ดร็อกบา หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนไหลไปหน้าประตูให้ อเนลกา ชาร์จบอลโดนเสากระดอนเข้าประตูและก็จบ 45 นาทีแรก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง “สิงห์บลูส์” ฉีกหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 47 เมื่อ อเนลกา ป้ายต่อให้ แลมพาร์ด เปิดจากกราบซ้ายเข้ามาให้ บัลลัค ตอร์บิโดโขกบอลจมตาข่าย แถมอีกห้านาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้ใจหนีไปไกลเป็น 3-0 คราวนี้ แอชลีย์ โคล เติมเกมขึ้นมาเล่นชิ่งหนึ่งสองกับ แลมพ์ ก่อนได้จังหวะสับด้วยซ้ายส่งบอลแสกหน้า แยนเซน เข้าไปอย่างสวยงาม ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มเกมกลายเป็นของเจ้าบ้านอย่างเบ็ดเสร็จ เนื่องจาก เบิร์นลีย์ ดูถอดใจไปพอสมควร
นาทีที่ 67 แฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮกันยาวๆ อีกครั้งเมื่อ เอสเซียง เติมขึ้นมาตะบันด้วยซ้ายบอลพุ่งอย่างกับจรวดแต่ แยนเซน พุ่งสุดเหยียดปัดปลายมือออกหลังไปได้ สิบนาทีถัดมา เชลซี ยังเดินเกมเอาใจแฟนๆ เต็มที่ เอสเซียง ได้ยิงอีกครั้งแต่ แยนเซน ไม่พลาด จากลูกเตะมุม บัลลัค ขึ้นมาโขกอีกแต่นายทวารทีมเยือนไม่ยอมเสียประตูที่สี่ ก่อนหมดเวลา 7 นาทีตาข่าย เบิร์นลีย์ ไหวอีกครั้ง อเนลกา หลุดเข้าไปยิงแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน
ท้ายเกม “สิงห์บลูส์” เกือบได้ประตูฝังชัยแบบราบคาบ เมื่อ ซาโลมอน คาลู หลุดเข้าไปปาดบอลกำลังจะไหลเข้าเสาไกลแต่ ไทโรน เมียร์ส ตามไปเคลียร์ได้บนเส้นพอดี อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที เชลซี ทำสถิติเก็บชัยชนะ 4 เกมรวด มี 12 คะแนนเต็ม กระโดดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ขณะที่ เบิร์นลีย์ หล่นไปอยู่ที่ 9 มี 6 แต้มเหมือนเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โชเซ โบซิงวา , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , จอห์น เทอร์รี , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , เดโก ซูซา , แฟรงค์ แลมพาร์ด , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
เบิร์นลีย์ : ไบรอัน แยนเซน , ไทโรน เมียร์ส , คลาร์ก คาร์ไลส์ , อองเดร บิเคย์ , สตีเฟน จอร์แดน , ร็อบบี เบล็ค , เกรแฮม อเล็กซานเดอร์ , คริส แม็คคานน์ , เหว็ด เอลเลียตต์ , มาร์ติน พาเตอร์สัน , สตีเวน เฟล็ทเชอร์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
เชลซี 3-0 เบิร์นลีย์
[1-0 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.45) , 2-0 : มิชาเอล บัลลัค (น.47) , 3-0 : แอชลีย์ โคล (น.52)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 ลิเวอร์พูล
[1-0 : เควิน เดวิส (น.33) , 1-1 : เกล็น จอห์นสัน (น.41) , 2-1 : ทาเมียร์ โคเฮน (น.47) , 2-2 : เฟร์นานโด ตอร์เรส (น.56) , 2-3 : สตีเวน เจอร์ราร์ด (น.83)]
สโตค ซิตี 1-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เดฟ คิตสัน (น.42)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.72) , 1-1 : ลี โบว์เยอร์ (น.75) , 2-1 : อารอน เลนนอน (น.90)]
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 ฮัลล์ ซิตี
[0-1 : โจวานนี (น.3) , 1-1 : ริชาร์ด สเตียร์แมน (น.46)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 อาร์เซนอล
[0-1 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.40) , 1-1 : เวย์น รูนีย์ (จุดโทษ น.59) , 2-1 : อาบู ดิยาบี (ทำเข้าประตูตัวเอง น.64)]