แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านสอนเชิง ฟูแลม สบายเท้า 3-0 ทำคะแนนหนี ลิเวอร์พูล บนตารางพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เพิ่มเป็น 5 แต้ม ขณะที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ไม่เสียประตูในลีกเป็นนัดที่ 14 ติดต่อกัน
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3–0 ฟูแลม
เกมนัดตกค้าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ฟูแลม เจ้าถิ่นได้ เวย์น รูนีย์ หายเจ็บกลับมาเป็นตัวสำรอง ขณะที่ทีมเยือนขาด 2 ตัวหลักอย่าง พอล คอนเชสกี กับ แอนดี จอห์นสัน ทำให้ โซลตาน เกรา ได้ลงมาเป็นตัวสนับสนุนของ บ็อบบี ซาโมรา ที่ถูกวางเป็นหัวหอกตัวเป้า
เปิดฉากมาได้เพียง 7 นาที ปิศาจแดงก็ได้โอกาสทักทาย เมื่อ คริสเตียโน โรนัลโด พักบอลก่อนดีดให้ จอห์น โอเชีย ที่เติมขึ้นมาทางขวาซัดหลุดกรอบออกหลัง ก่อนจะทะลวงตาข่ายขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 12 เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค เปิดลูกเตะมุมย้อนมาหน้าเขตโทษให้ พอล สโคลส์ วอลเลย์เต็มข้อ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ล้มตัวเซฟได้ แต่ก็เอาไม่อยู่ บอลทะลักเข้าประตู
พอเสียประตู เจ้าสัวน้อยก็เริ่มเดินเกมรุกมากขึ้น นาทีที่ 17 จอห์น พันท์ซิล โยนจากกราบขวาให้ ซาโมรา โขกบริเวณจุดโทษ ลูกกระดอนพื้นเฉี่ยวเสาอย่างน่าเสียวไส้ ทว่า ทีมเยือนหวิดเสียเพิ่มอีกลูกจากความผิดพลาดในแนวรับ เมื่อ ชวาร์เซอร์ กับ พันท์ซิล ไปชนกันเอง ทำให้ลูกเปิดของ โรนัลโด หลุดไปถึง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แต่ อารอน ฮิวจ์ส ยังสกัดลูกยิงของศูนย์หน้าบัลแกเรียนบนเส้นประตูไว้ได้
นาทีที่ 24 เบอร์บาตอฟ จ่ายทะลุช่องให้ คาร์ลอส เตเบซ หลุดเข้าไปกดเรียดผ่านมือ ชวาร์เซอร์ ตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ถัดมานาทีเดียว ปาร์ค จี-ซอง หยอดให้ เบอร์บาตอฟ ขึ้นโหม่ง ชวาร์เซอร์ ต้องกระโดดปัดข้ามคาน
กระทั่งครึ่งชั่วโมงแรกสกอร์ก็ไหลเพิ่มเป็น 2-0 จนได้ เมื่อ สโคลส์ เบิ้ลให้ โอเชีย แหย่เท้าเปิดเข้ากลาง บอลทำท่าว่าจะเบา แต่แนวรับ ฟูแลม ไปเกี่ยงกันเล่นบอลเอง ทำให้ถูก เบอร์บาตอฟ เช็กบิลในระยะเผาขนไม่เหลือซาก จากนั้นนาทีที่ 32 เตเบซ ไหลให้ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้าไปจิ้มสวนตัว ชวาร์เซอร์ เฉี่ยวเสาออกหลังแค่นิดเดียว
ท้ายครึ่งแรก สโคลส์ ได้ตั้งป้อมซัดไกลในนาทีที่ 43 ให้ ชวาร์เซอร์ ออกแรงตะครุบถึง 2 ครั้ง จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โรนัลโด เปิดฟรีคิกจากด้านขวาให้ เบอร์บาตอฟ สะบัดศีรษะโหม่งจมตาข่าย แต่ก็เป็นลูกออฟไซด์อีกครั้ง จบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านยังนำอยู่ 2-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 56 แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อบอลกันอย่างไหลลื่นก่อนที่ เบอร์บาตอฟ จะม้วนตัวแล้วซัดให้ ชวาร์เซอร์ พุ่งปัดก่อนบอลจะเสียบสามเหลี่ยม จากนั้น 4 นาที โรนัลโด รับช่วงต่อจาก ปาทริซ เอฟรา แล้วตะบันห่างเป้าหมายไปไกล
ถึงนาทีที่ 63 ปิศาจแดงก็ทิ้งห่างออกไปเป็น 3-0 เมื่อ ปาร์ค กึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาสอง เวย์น รูนีย์ ที่เพิ่งลงมาแทน เบอร์บาตอฟ จัดการชาร์จเสยตาข่ายเข้าไป ให้หลังมา 4 นาที เจ้าสัวน้อยน่าจะตีไข่แตกได้ ทว่า ลูกยิงของ ซาโมรา ติดไซด์ก้อยถากเสาไกลออกไปแค่คืบ ชนิดที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ได้แต่เป่าปากโล่งอก
ช่วงที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงชนะอย่างง่ายดาย 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 59 คะแนน หนี ลิเวอร์พูล ออกไปเป็น 5 แต้ม พร้อมกับที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ รักษาคลีนชีตในเกมลีกเป็นนัดที่ 14 ติดต่อกัน ทำลายสถิติของ อาเบล เรซิโน อดีตนายทวารแอตเลติโก มาดริด ที่เคยบันทึกไว้ 1,275 นาที
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน โรนัลโด, พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริค, ปาร์ค จี-ซอง, คาร์ลอส เตเบซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ฟูแลม – มาร์ค ชวาร์เซอร์, จอห์น พันท์ซิล, อารอน ฮิวจ์ส, เบรเด ฮันเกแลนด์, โทนี คัลลิโอ, คลินท์ เดมพ์ซีย์, แดนนี เมอร์ฟี, คริส แบร์ด, ไซมอน เดวีส์, โซลตาน เกรา, บ็อบบี ซาโมรา
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3–0 ฟูแลม
เกมนัดตกค้าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ฟูแลม เจ้าถิ่นได้ เวย์น รูนีย์ หายเจ็บกลับมาเป็นตัวสำรอง ขณะที่ทีมเยือนขาด 2 ตัวหลักอย่าง พอล คอนเชสกี กับ แอนดี จอห์นสัน ทำให้ โซลตาน เกรา ได้ลงมาเป็นตัวสนับสนุนของ บ็อบบี ซาโมรา ที่ถูกวางเป็นหัวหอกตัวเป้า
เปิดฉากมาได้เพียง 7 นาที ปิศาจแดงก็ได้โอกาสทักทาย เมื่อ คริสเตียโน โรนัลโด พักบอลก่อนดีดให้ จอห์น โอเชีย ที่เติมขึ้นมาทางขวาซัดหลุดกรอบออกหลัง ก่อนจะทะลวงตาข่ายขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 12 เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค เปิดลูกเตะมุมย้อนมาหน้าเขตโทษให้ พอล สโคลส์ วอลเลย์เต็มข้อ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ล้มตัวเซฟได้ แต่ก็เอาไม่อยู่ บอลทะลักเข้าประตู
พอเสียประตู เจ้าสัวน้อยก็เริ่มเดินเกมรุกมากขึ้น นาทีที่ 17 จอห์น พันท์ซิล โยนจากกราบขวาให้ ซาโมรา โขกบริเวณจุดโทษ ลูกกระดอนพื้นเฉี่ยวเสาอย่างน่าเสียวไส้ ทว่า ทีมเยือนหวิดเสียเพิ่มอีกลูกจากความผิดพลาดในแนวรับ เมื่อ ชวาร์เซอร์ กับ พันท์ซิล ไปชนกันเอง ทำให้ลูกเปิดของ โรนัลโด หลุดไปถึง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แต่ อารอน ฮิวจ์ส ยังสกัดลูกยิงของศูนย์หน้าบัลแกเรียนบนเส้นประตูไว้ได้
นาทีที่ 24 เบอร์บาตอฟ จ่ายทะลุช่องให้ คาร์ลอส เตเบซ หลุดเข้าไปกดเรียดผ่านมือ ชวาร์เซอร์ ตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ถัดมานาทีเดียว ปาร์ค จี-ซอง หยอดให้ เบอร์บาตอฟ ขึ้นโหม่ง ชวาร์เซอร์ ต้องกระโดดปัดข้ามคาน
กระทั่งครึ่งชั่วโมงแรกสกอร์ก็ไหลเพิ่มเป็น 2-0 จนได้ เมื่อ สโคลส์ เบิ้ลให้ โอเชีย แหย่เท้าเปิดเข้ากลาง บอลทำท่าว่าจะเบา แต่แนวรับ ฟูแลม ไปเกี่ยงกันเล่นบอลเอง ทำให้ถูก เบอร์บาตอฟ เช็กบิลในระยะเผาขนไม่เหลือซาก จากนั้นนาทีที่ 32 เตเบซ ไหลให้ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้าไปจิ้มสวนตัว ชวาร์เซอร์ เฉี่ยวเสาออกหลังแค่นิดเดียว
ท้ายครึ่งแรก สโคลส์ ได้ตั้งป้อมซัดไกลในนาทีที่ 43 ให้ ชวาร์เซอร์ ออกแรงตะครุบถึง 2 ครั้ง จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โรนัลโด เปิดฟรีคิกจากด้านขวาให้ เบอร์บาตอฟ สะบัดศีรษะโหม่งจมตาข่าย แต่ก็เป็นลูกออฟไซด์อีกครั้ง จบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านยังนำอยู่ 2-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 56 แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อบอลกันอย่างไหลลื่นก่อนที่ เบอร์บาตอฟ จะม้วนตัวแล้วซัดให้ ชวาร์เซอร์ พุ่งปัดก่อนบอลจะเสียบสามเหลี่ยม จากนั้น 4 นาที โรนัลโด รับช่วงต่อจาก ปาทริซ เอฟรา แล้วตะบันห่างเป้าหมายไปไกล
ถึงนาทีที่ 63 ปิศาจแดงก็ทิ้งห่างออกไปเป็น 3-0 เมื่อ ปาร์ค กึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาสอง เวย์น รูนีย์ ที่เพิ่งลงมาแทน เบอร์บาตอฟ จัดการชาร์จเสยตาข่ายเข้าไป ให้หลังมา 4 นาที เจ้าสัวน้อยน่าจะตีไข่แตกได้ ทว่า ลูกยิงของ ซาโมรา ติดไซด์ก้อยถากเสาไกลออกไปแค่คืบ ชนิดที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ได้แต่เป่าปากโล่งอก
ช่วงที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงชนะอย่างง่ายดาย 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 59 คะแนน หนี ลิเวอร์พูล ออกไปเป็น 5 แต้ม พร้อมกับที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ รักษาคลีนชีตในเกมลีกเป็นนัดที่ 14 ติดต่อกัน ทำลายสถิติของ อาเบล เรซิโน อดีตนายทวารแอตเลติโก มาดริด ที่เคยบันทึกไว้ 1,275 นาที
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน โรนัลโด, พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริค, ปาร์ค จี-ซอง, คาร์ลอส เตเบซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ฟูแลม – มาร์ค ชวาร์เซอร์, จอห์น พันท์ซิล, อารอน ฮิวจ์ส, เบรเด ฮันเกแลนด์, โทนี คัลลิโอ, คลินท์ เดมพ์ซีย์, แดนนี เมอร์ฟี, คริส แบร์ด, ไซมอน เดวีส์, โซลตาน เกรา, บ็อบบี ซาโมรา
