หลังขึ้นเป็นจ่าฝูงได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง พลัน หงส์แดง แห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ ก็มีอันต้องถลาลงมาอยู่อันดับสองตามระเบียบ เมื่อทีมคู่แค้นข้ามศตวรรษอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกไปย่ำเวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีชัยไปแบบชิลล์ๆ 1-0 เก็บสามแต้มเข้าตารางขึ้นนำเป็นจ่าฝูงต่อไป หากย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1892 สโมสร ลิเวอร์พูล คว้าเกียรติยศยิ่งใหญ่มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ดิวิชัน 1 ถึง 18 สมัย แชมป์สโมสรยุโรป 5 สมัย รวมถึงแชมป์เอฟเอคัพ 7 สมัย ทว่าปัจจุบันสิ่งที่ "เดอะ คอป" ทั่วโลกต่างใจจดจ่อคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสมัยที่ 19 กับการรอคอยยาวนานถึงเกือบ 19 ปี ยังมีเกจิลูกหนังอีกจำนวนหนึ่งแสดงความกังวลว่า โอกาสคว้าแชมป์ลีกของพลพรรคหงส์แดงยังไม่ใช่เรื่องที่น่าจะคาดหวังได้ในฤดูกาลนี้ ด้วยเหตุผลที่มีน้ำหนักและมองเห็นได้ชัดเจนจากผลงานในปัจจุบัน
1. ทัศนคติของ ราฟาเอล เบนิเตซ
ด้วยการยึดแนวทางการทำทีมสไตล์บอลถ้วย ทำให้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ "เอล ราฟา" เน้นเก็บผลการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้จากผลเสมอในเกมลีกถึง 9 นัด ส่งผลให้ จอห์น อัลดริดจ์ อดีตลูกหม้อของทีมยังออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเรื่องดังกล่าวอาจบั่นทอนโอกาสลุ้นแชมป์ของทีมรักลงไป
"ผมรู้สึกสับสนกับการจัดการตัวผู้เล่นของ เบนิเตซ เป็นอันมาก ที่มักจะถอด สตีเวน เจอร์ราร์ด หรือ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ซึ่งเป็นตัวอันตรายของทีมออกในช่วงเวลาก่อนจบเกมการแข่งขันช่วง 10 นาทีสุดท้าย จากนั้นคู่แข่งจะดาหน้าบุกใส่ เพราะไม่ต้องกังวลกับเกมโต้กลับของ ลิเวอร์พูล จนส่งผลให้ทีมโดนตีเสมอ นั่นเป็นความผิดพลาดที่เขาไม่เคยยอมรับมัน หากต้องการลุ้นแชมป์กับ ยูไนเต็ด คงเหนื่อยแน่" อัลโด กล่าว
2. อะไหล่ไม่เพียงพอ
จากการที่ ลิเวอร์พูล มีแกนหลักเป็น 2 ประสานที่หวังผลได้เพียง เจอร์ราร์ด และ ตอร์เรส เท่านั้น ทำให้ อลัน เคนเนดี อดีตแบ็กซ้ายจอมเก๋าของทีมแสดงความกังวลว่า เบนิเตซ จะหาใครมาแทนที่ทั้งคู่ หากเกิดอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะในรายของ “สตีวีจี” พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าช่วงสถานการณ์ลุ้นแชมป์แบบนี้ ทำไม "เอล ราฟา" จึงกล้าปล่อยตัว ร็อบบี คีน ออกไป
"แน่นอนว่าที่ผ่านมา สตีเวน ทำผลงานได้อย่างดี แต่ เบนิเตซ ควรรู้ดีว่าเขาต้องมีกำลังสำรองที่จะทดแทนการขาดหายไปของกัปตันทีม หรือ ตอร์เรส ด้วยการเก็บ คีน เอาไว้ แต่ที่เราเห็นกันคือเขาทำสิ่งที่ตรงกันข้าม และเมื่อถึงเวลานี้ เราจะหาใครมาแทน สตีเวน"
3. การเมืองในสโมสร
ไม่เพียงแต่เรื่องในสนามเท่านั้นที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องนำทัพ "หงส์แดง" ฝ่าฟันไป ยังมีเรื่องราวนอกสนามอันน่าเหนื่อยใจแทน เมื่อ ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ สองเจ้าของทีมร่วมชาวอเมริกันที่มีรายงานว่าต่างฝ่ายต่างนำหุ้นที่ตัวเองมีอยู่ไปเร่ขายให้กับกลุ่มบรรดาเศรษฐีอาหรับ โดยไม่ใส่ใจอนาคตของกุนซือชาวสเปนที่เหลือสัญญาแค่จบฤดูกาลหน้าเท่านั้น
โดย "คิงเคนนี" เคนนี ดัลกลิช อดีตผู้เล่น และผู้จัดการทีมของหงส์แดง กล่าวว่า "ในฐานะมืออาชีพ หลายคนอาจจะบอกว่าเรื่องราวนอกสนามไม่มีผล แต่สิ่งที่ทุกคนกังวลคือ ใครจะอดใจไม่คิดได้ว่าสโมสรของเราจะมีเจ้าของเป็นใครอีก หลังเรามีเจ้าของเป็นชาวอเมริกัน จากนั้นจะเป็นอาหรับหรือว่าเป็นใคร รวมถึงปัญหาเรื่องอนาคตของ ราฟา ที่มีสัญญากับทีมถึงแค่จบฤดูกาลหน้า ผมได้แต่หวังว่าลิเวอร์พูลมีสมาธิมากพอที่จะไม่สนใจเรื่องเหล่านี้"
4. ขาดประสบการณ์
นับตั้งแต่ "เอลบอส" เข้ามารับงานในแอนฟิลด์ ตั้งแต่ปี 2004 ก็ดูเหมือนว่าโอกาสในการลุ้นแชมป์ลีกของ ลิเวอร์พูล เพิ่งจะโผล่มาเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2008 นี่เอง ทว่าเมื่อ "หงส์แดง" ต้องมาเจอกับสถานการณ์ลุ้นแชมป์แบบจริงจังกลับฟอร์มเป๋ไปดื้อๆ โดยไม่ชนะเลยในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ในเวลาเดียวกัน “ริโอ เฟอร์ดินานด์” ปราการหลัง "ปิศาจแดง" ออกมายืนยันความเป็นเลิศของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เจ้านายตัวเองว่ามีความเก๋าเกม และเยี่ยมยุทธ์ในสงครามประสาทโดยกล่าวว่า ราฟาเอล เบนิเตซ พลาดเสียแล้ว ที่ออกมาเล่นสงครามประสาทกับ เฟอร์กี เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาใครเขาก็รู้กันทั่วว่า เฟอร์กี้ไม่เคยแพ้ใครในเรื่องนี้"
แค่เพียงปัญหาภายในสโมสรข้างต้นนั้นก็ทำให้ หงส์แดง ลุ้นแชมป์ยากเต็มที แต่ยังมีปัจจัยภายนอกที่ลูกทีมของ “เอลบอส” มีคู่แข่งอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งฟอร์มไม่มีตกด้วยแล้ว ทำให้เหล่า เดอะ ค็อป อดหวั่นใจไม่ได้ว่า โอกาสลุ้นคืนบัลลังก์ของเหล่า “เดอะ คอป” ในฤดูกาลนี้อาจเป็นเพียงแค่ “อิมพอสซิเบิล ดรีม” และต้องร้องเพลง “รอ” แทน “You will never walk alone” กันต่อไป