เหล่าบรรดาแฟนบอลชาวเมืองผู้ดีของ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกอาการโมโหต่อนโยบายการจำหน่ายตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันของทีมโปรดที่เอารัดเอาเปรียบเกินไป และเตรียมยื่นเรื่องร้องต่อ สํานักงานส่งเสริมการค้าอย่างเป็นธรรม (Office of Fair Trading หรือ OFT) เพื่อให้เข้ามาสอบสวนเอาผิดฝ่ายบริหารของทีม
แรกเริ่มเดิมที แมนฯ ยูไนเต็ด มีนโยบายที่บังคับให้แฟนบอลผู้ถือตั๋วปี ซึ่งมีราว 57,000 คน จำเป็นต้องซื้อตั๋วเข้าชมเกมฟุตบอลถ้วยทั้งเอฟเอ คัพ, คาร์ลิง คัพ และ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ทุกนัดที่ทีมมีคิวลงเตะในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยอัตโนมัติ
ส่วนปัญหาความไม่พอใจของเหล่าสาวกผีแดงในคราวนี้เกิดขึ้นจากการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้หักเงินจากบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตของเหล่าสมาชิกเพื่อเป็นค่าบัตรเข้าชมเกมยุโรปกับ อินเตอร์ มิลาน เป็นจำนวน 50 ปอนด์ (ประมาณ 2,600 บาท) มาตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ทั้งที่เกมข้างต้นกว่าจะลงสนามฟาดแข่งกันจริงก็ในวันที่ 11 มีนาคม หรืออีกกว่า 50 วัน ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงเรียกเก็บเงินเร็วกว่าปกติ ทั้งที่เหลือเวลาอีกหลายสัปดาห์ เพราะแฟนบอลบางส่วนอาจมีเงินในบัญชีไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลบัตรเข้าชมลีกปกติหรือการนำไปใช้จ่ายในทางอื่น
ความไม่ประสบอารมณ์อีกอย่าง คือ การที่ “ผีแดง” นำตั๋วเข้าชมเกมฟุตบอล คาร์ลิง คัพ นัดชิงชนะเลิศ กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ณ สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 1 มีนาคม แบ่งไปให้กับกลุ่มแฟนบอลนักท่องเที่ยวอันเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของกลุ่มผู้ถือตัวปีที่นอกจากจะเหลือส่วนแบ่งน้อยลงแล้วยังต้องมาลุ้นวัดดวงจากการจับสลากอีก
แฟนบอลบางส่วน อย่างเช่น The Manchester United Supporters Trust (MUST) ออกมาโวยวายต่อการกระทำของสโมสร ว่า “มันเป็นตัวอย่างอันชัดเจนของ ยูไนเต็ด ที่เอาเปรียบเหล่าแฟนบอลและมันเกิดเป็นคำถามว่าเหตุใดพวกเขาจึงยื่นมือมาล้วงเงินจากเรามากนักและเราจะรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งเรื่องไปยัง OFT”
อย่างไรก็ตาม โฆษกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว ว่า การหักเงินสำหรับตั๋วเข้าชมเกมกับ อินเตอร์ มีความถูกต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในข้อตกลงการซื้อตั๋วปี ขณะที่บัตรนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลคาร์ลิง คัพ ก็ตัดส่วนแบ่งมาให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวเพียงแค่ 200 ใบ จาก 31,000 ใบ ที่ทีมได้รับเท่านั้นและมันเป็นข้อตกลงที่ทางสโมสรมีร่วมกับบริษัทคู่ค้ามานานกว่า 10 ปี