หลังจากใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเอาชนะ ดินารา ซาฟีนา คว้าแชมป์แกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น เป็นสมัยที่ 4 ชื่อของ “เซเรนา วิลเลียมส์”ก็ทะยานขึ้นมือ 1 ของโลกเป็นคำรบ 3 นับเป็นการกลับคืนสู่บัลลังก์ที่สร้างความหวาดหวั่นให้กับคู่แข่งในดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์เป็นอย่างยิ่ง และถ้านำฟอร์มการเล่นในรอบชิงชนะเลิศของ สแลมออสซี 2009 พร้อมประสบการณ์บนคอร์ตเทนนิสที่มากกว่าหนึ่งทศวรรษ รวมด้วยความกระหายต่อชัยชนะ ต้องยอมรับว่าเวลานี้ เซเรน่า ยังคงเป็นแรกเก็ตสาวที่ "ไร้เทียมทาน" และ 10 สแลมสมบูรณ์แบบของเธอเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เท่านั้น
ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงกว่า 40 องศาฯ ของรอด เลเวอร์ อารีนา การชิงชัยสแลมแรกของปีในรอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยวระหว่าง ดินาร่า ซาฟิน่า และ เซเรนา วิลเลี่ยมส์ นั้นเปรียบเสมือนโชว์เดี่ยวของลูกสาวคนสุดท้องแห่งตระกูลวิลเลี่ยมส์ ด้วยฟอร์มอันสมบูรณ์แบบเก็บเเต้มจากเสิร์ฟแรกถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ยิงวินเนอร์ได้ 23 ลูกเสียเองแค่ 7 ลูกเบรกเกมเสิร์ฟคู่แข่งได้ถึง 5 เกมติดต่อกันคว้าชัย 2 เซตรวดสกอร์ 6-0 และ 6-3 ทำเอา ซาฟีนา ดีกรีรองแชมป์ เฟรนช์ โอเพนและโอลิมปิก ปักกิ่ง กลายเป็นเด็กน้อยหมดทางสู้ นับเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า
เซเรนา ในวัย 27 ปียังคงดุดันและกระหายในชัยชนะไม่ต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนที่สามารถพลิกล็อกเอาชนะ มาร์ตินา ฮินกิส ตำนานชาวสวิส 2 เซตรวดคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพน มาครองได้เป็นสมัยแรก
"นี่คือหนึ่งในฟอร์มสุดยอดที่สุดเท่าที่ฉันเคยทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม เหลือเชื่อมากที่สามารถยกระดับการเล่นของตนเองขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้อีกครั้งหลังห่างหายมานานหลายปี"
เซรานา ซึ่งคว้าแชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการติดต่อกันได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีต่อจากแชมป์ยูเอส โอเพ่น 2002 และออสเตรเลียน โอเพน 2003 เผยความประทับใจ
หลังผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน เซเรนา ได้กลายเป็นนักเทนนิสสาวที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะความสามารถในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์เพลี่ยงพล้ำนับว่าพัฒนาขึ้นมาได้อย่างโดดเด่นพิสูจน์ได้จากการแข่งขันรอบ 8 คนสุดท้าย “แกรนด์สแลมแห่งเอเชีย/แปซิฟิก” ที่ผ่านมา ซึ่งเธอพลิกจากการเสียเซตแรกไปก่อน 5-7 และตามหลังถึง 3-5 เกมในเซตที่ 2 กลับมาเอาชนะ ซเวตลานา คุซเนตโซวา อดีตแชมป์ ยูเอส โอเพนปี 2004 จากรัสเซีย 2-1 เซตผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาปราบ เอเลนา เดเมนเทียวา เหรียญทองโอลิมปิก จนเป็นสามารถชูถ้วยแชมป์ “ดาฟน์ อักเฮิร์สต์” ขึ้นเหนือศีรษะได้ในที่สุด
นอกจากต้องชมเชยสภาพร่างกายและแผนการเล่นอันยอดเยี่ยมแล้ว จิตใจอันมุ่งมั่นก็ยอดหญิงวัย 27 ปี ก็น่าตื่นตาไม่น้อย และคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ เทรซี ออสติน อดีตมือ 1 โลกและแชมป์หญิงเดี่ยว ยูเอส โอเพ่น 2 สมัย ถึงกับออกปากชมเมื่อได้เห็นลีลาการซ้อมของเธอแลพี่สาว
"ขนาดเป็นการซ้อม เซเรนา ยังหวดบอลด้วยความรุนเเรงไม่มียั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกรีเทิร์นเสิร์ฟนับว่าสมบูรณ์แบบที่สุด มันเป็นส่วนผสมของความแม่นยำผนวกกับพลังมหาศาล ไม่ว่า วีนัส จะเสิร์ฟแรงแค่ไหน น้องสาวของเธอไม่เคยหวั่นมีแต่จะตะโกนขอให้เสิร์ฟมากขึ้นและแรงขึ้นอีก"
สำหรับรอบชิงชนะเลิศปี 2009 ผู้ชนะอย่าง เซเรนา เหนือชั้นจน ซาฟีนา ซึ่งในเวลานี้เป็นมือ 2 ของโลกไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทำได้เพียงก้าวออกมากล่าวต่อผู้ชมกว่า 15,000 คนภายในรอด เลเวอร์ อารีนา ว่า"ขอโทษจริงๆที่ทำให้เกมจบลงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เซเรนา เล่นได้ดีเหลือเกิน วันนี้ฉันรู้สึกเหมือนตนเองเป็นเพียงเด็กเก็บบอลเท่านั้น"
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เซเรนา จะหลงไปอยู่ในโลกของแฟชั่นและบันเทิงมาพักใหญ่จนผลงานในวงการสักหลาดตกต่ำลงไป แต่หลังจากพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดันเมื่อปีที่แล้วต่อ วีนัส วิลเลียมส์ รวมทั้งได้ฟังคำเตือนจากคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ ริชาร์ด วิลเลียมส์ และแม่เลี้ยงแสนดี โอราชีน ไพรซ์ ส่งผลให้เธอเริ่มกลับมามีสมาธิบนเส้นทางที่เหมะสมอีกครั้ง ประจวบเหมาะพอดีกับการประกาศเลิกเล่นก่อนวัยอันควรของ คิม ไคลจ์สเตอร์ และ จัสติน เอแนง "สองก้างชิ้นโต" สัญชาติเบลเยียม
เวลานี้ทางเดินของ เซเรนา สะดวกขึ้นอีกเมื่อ มาเรีย ชาราโปวา แชมป์แกรนด์สแลม 3 สมัยซึ่งดูเหมือนจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดได้รับบาดเจ็บหัวไหล่เรื้อรัง ขณะที่ “สองสาวเซิร์บ” เยเลนา แยนโควิช กับ อนา อิวาโนวิช นั้นกระดูกยังไม่แกร่งพอเห็นได้จากผลงานใน ออสเตรเลียน โอเพน ฉบับ "เตาไฟ" ที่ผ่านมา ส่วนเอเลนา เดเมนเทียวา กับ ดินารา ซาฟีนา ความฟิตดีฝีมือเยี่ยมแต่ก็ยังห่างชั้น
แชมป์แกรนด์สแลม 10 สมัยตลอดห้วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมาเป็นเหมือนใบประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพให้ เซเรนา วิลเลียมส์ ขึ้นไปเทียบชั้น มาร์ตินา นาฟราติโลวา และ สเตฟฟี กราฟ ในทำเนียบแร็กเก็ตหญิงที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ หากแต่ตัวเธอยังมองว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นดังบทสัมภาษณ์ที่ได้กล่าวไว้ ณ กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
“เป้าหมายของฉันต่อจากนี้คือการทำผลงานให้ดีที่สุด มีหลายคนพูดถึง “เซเรน่า สแลม”ผลงานในช่วงคาบเกี่ยวปี 2002-03 หากฤดูกาลนี้ฉันกลับมาทำได้อีกครั้งก็คงเป็นเรื่องไม่น้อย เพราะมันหมายถึงการคว้าแชมป์เมเจอร์ได้มากกว่าหนึ่ง หรือสองรายการในรอบปี และถ้าทำได้ถึงสามสแลมหรือครบทั้งสี่รายการ ก็นับว่านี่คือย่างก้าวแห่งความยิ่งใหญ่ในชีวิตนักเทนนิสอาชีพของฉันเลยทีเดียว”
