เทนนิส ยูเอส โอเพ่น ครั้งที่ 127 แกรนด์สแลมรายการสุดท้ายของปีได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นอีกครั้งเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยการเบียดแย่งแชมป์ทั้งชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยวที่สังเวียน ฟลัชชิง เมโดวส์ กลางมหานครนิวยอร์กในครั้งนี้น่าจะสูสีและเปิดกว้างมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา หลังจากเหล่าผู้เล่นได้ลงอุ่นเครื่องบนพื้นฮาร์ดคอร์ต ผ่านรายการน้อยใหญ่ใน ยูเอส โอเพ่น ซีรีย์ หรือแม้กระทั่งโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนมากว่า 6 สัปดาห์
ทางฝั่งฟากเทนนิสชายเวลานี้คงไม่มีใครมั่นใจเกิน ราฟาเอล นาดาล หวดดุแดนกระทิงที่ได้รับการวางมือให้เป็น “มือ 1” ลงแข่งรายการระดับท็อปเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยแม้ นาดาล วัย 22 ปี จะมีผลงานใน ยูเอส โอเพ่น เรียกได้ว่าเข้าขั้นบู่ จากผลงาน 5 ปีเข้าลึกสุดแค่รอบ 8 คนสุดท้ายเมื่อ 2 ปีก่อน แต่จากตำแหน่งมือ 1 โลกรวมทั้งฟอร์มร้อนแรงเป็นไฟกวาดชัยมา 8 รายการในปีนี้ โดยเฉพาะแชมป์โอลิมปิกเกมส์รายการล่าสุด ซึ่งใช้พื้นคอร์ตเร็ว “เดโกเทิร์ฟ” แบบเดียวกับใน ยูเอส โอเพน ทำให้เชื่อแน่ว่า “เอล ราฟา”มีโอกาสคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 3 ติดต่อกันหลังจากควบแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น และ วิมเบิลดันมาแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หนุ่มกล้ามโต จำเป็นต้องข้ามกำแพงรอบ 8 คนสุดท้ายที่อาจจะเจอกับ เจมส์ เบลก ขวัญใจเจ้าถิ่น หรือแม้กระทั่ง ดาวิด นัลบาเดียน มือ 7 ของรายการไปให้ได้ก่อน
ด้านโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ คงไม่ค่อยชินกับตำแหน่งมือวางอันดับ 2 หนแรกในรอบ 18 แกรนด์ สแลมหลังสุดตลอด 4 ปีเต็ม อีกทั้งยังเสียขวัญมาจากความพ่ายแพ้ต่อ เจมส์ เบลก หวดอเมริกันเป็นครั้งแรกในชีวิตตกรอบ 8 คนสุดท้ายโอลิมปิกมาหมาดๆ แต่การเป็นแชมป์เก่าที่นี่ 4 สมัยก็ยังพอการันตีได้ว่า ใครจะมาประมาท “เฟดเอ็กซ์ในยามตกอับ” แบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน โดยระยะเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ เฟดเดอเรอร์ วัย 27 ปี จำเป็นจะต้องเรียกฟอร์มเก่งใน ยูเอส โอเพน เพื่อสานภารกิจกอบกู้ฤดูกาลนี้กลับคืนมาให้ได้
โดยก่อนที่ หนุ่มบาเซิล จะบรรลุเป้าหมายในการแก้แค้น นาดาล ในรอบชิงชนะเลิศ เขาจำต้องผ่านโนวัค ยอโควิช มือ 3 ของโลกจากเซอร์เบียที่อาจมีเส้นทางไปบรรจบพบกันในรอบตัดเชือกให้ได้ก่อน ซึ่งนั่นจะเป็นการรีแมตช์รอบชิงชนะเลิศปีที่แล้ว ซึ่ง เฟดเดอเรอร์ สอนเชิง ยอโควิช ที่ตอนนั้นยังไม่เก๋ามาแล้ว 3 เซตรวด
สำหรับนักเทนนิสที่น่าจับตามองคนอื่นๆในปีนี้ คนแรกคงหนีไม่พ้นแอนดี รอดดิก แชมป์เก่ารายการนี้ในปี 2003 ที่เจ้าตัวถึงขนาดสละสิทธิ์ในโอลิมปิกเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ ส่วนอีกคนหนึ่งที่น่าเฝ้าดูฟอร์มกันตั้งแต่รอบแรกเห็นจะเป็น ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร ดาวรุ่งสูง 198 เซนติเมตรวัย 19 ปีจากอาร์เจนตินา ที่ก่อนมานิวยอร์กกวาดแชมป์มา 4 รายการในรอบ 35 วัน
ข้ามมาที่ฝ่ายหญิง ยูเอส โอเพน 2008 น่าจะเปิดกว้างสำหรับสาวๆทุกคน หลังจาก มาเรีย ชาราโปวา แชมป์ปี 2006 ดันมาเจ็บไหล่ต้องถอนตัวไป อีกทั้งแชมป์เก่าคนเก่งอย่าง จัสติน เอแนง ประกาศเลิกเล่นแบบฟ้าผ่าไปเมื่อกลางปี ซึ่งจากการห่างหายไปของ เอแนง ว่าไปแล้วผลประโยชน์ส่วนใหญ่น่าจะตกอยู่ที่ 2 พี่น้อง วีนัส และ เซเรนา วิลเลียมส์ ที่เมื่อปีกลายต่างแพ้หวดจิ๋วจากเบลเยี่ยมมาด้วยกันทั้งคู่ โดยในปีนี้จับตาดูศึกสายเลือดวิลเลียมส์ครั้งที่ 17 อาจจะเกิดขึ้นในรอบก่อนรองชนะเลิศก็เป็นได้
สำหรับ อนา อิวาโนวิช มือ 1 และ เยเลนา แยนโควิช มือ 2 ของโลก น่าจะเป็นตัวเต็งหิ้วถ้วยแชมป์สัญชาติอเมริกันกลับแผ่นดินเซิร์บไปได้เช่นกัน ติดอยู่เพียงแค่สภาพร่างกายที่ค่อนข้างบอบช้ำด้วยกันทั้งคู่ รวมทั้งสถิติเก่าๆที่ “อนา” มาเล่น 3 ครั้งยังไม่เคยผ่านรอบ 4 ส่วน“เจเจ” ยังไม่เคยเข้าชิงฯแกรนด์ สแลมเลยแม้แต่ครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามในยุคที่สาวรัสเซียเป็นใหญ่ติดท็อปเทนถึง 5 คน พวกเธอก็ย่อมเป็นตัวเต็งในแกรนด์สแลม ด้วยเช่นกัน โดย ซเวตลานา คุซเนตโซวา มือ 3 ของโลกรองแชมป์เมื่อปีที่แล้วและแชมป์เก่าปี 2004 เป็นหวดแดนหมีขาวที่มีภาษีดีที่สุด ตามมาด้วย 3 สาวเหรียญรางวัลโอลิมปิกอย่าง เยเลนา เดเมนเทียวา , ดินารา ซาฟีนา และ เวรา ซโวนาเรวา สำหรับ ซาฟีนา มือ 6 ของรายการซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของ มารัต ซาฟิน แชมป์ชายเดี่ยวรายการนี้เมื่อปี 2001 มีสิทธิ์ทะลุเข้าไปทำศึก “บิ้กแมตช์” กับ อนา อิวาโนวิช ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ทางด้านคนไทยคงต้องตามเชียร์ “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ มือ 39 ของโลกที่มีโปรแกรมลงพบกับ มาเรียนา ดูเก มารีโน มือ 124 ของโลกจากโคลัมเบียในรอบแรก ซึ่งแม้ว่า แทมมี่ จะโชว์ฟอร์มในยูเอส โอเพ่น ไม่ค่อยดีตลอด 10 ปีที่ลงแข่งยังไม่เคยผ่านรอบ 16 คนสุดท้ายไปได้ แต่จากผลงานในปีนี้ที่ผ่านเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายวิมเบิลดันเป็นครั้งแรก ทำให้อดีตมือ 19 ของโลกชาวไทยมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาก โดยหาก แทมมี่ สามารถผ่าน สาวน้อยมารีโนในรอบแรกได้ เธอจะมีโอกาสไปปะทะกับ อักเนียสกา รัดวานสกา มือ 10 ของโลกจากโปแลนด์ ในรอบ 2 ซึ่งถ้าผ่านไปได้อีก แทมมี่ในวัย 31 ปีก็มีแต่กำไรกับกำไรเท่านั้น
แม้บ้านเราจะได้ชมการแข่งขันกันค่อนข้างดึกเนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งของสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ตรงข้ามซีกโลก แต่ด้วยความที่ ยูเอส โอเพนเป็นแกรนด์ สแลมรายการใหญ่ปิดท้ายปี ซึ่งแชมป์ประเภทเดี่ยวจะได้เงินรางวัลไปถึง 1,500,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 50 ล้านบาททำให้ ทัวร์นาเมนต์นี้ยังคงมีเสน่ห์และน่าติดตาม
สำหรับแฟนๆเทนนิสชาวไทยคงต้องเกาะติดกันหน่อยว่า ราฟาเอล นาดาล จะปล้นแชมป์แกรนด์สแลมฮาร์ตคอร์ตจาก โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ ได้อีกหรือไม่ หลังจากพิชิตมาแล้วทั้งบนคอร์ตดินที่ เฟรนช์ โอเพน และคอร์ตหญ้าที่ วิมเบิลดัน ขณะที่ทางฝั่งหญิงตามเชียร์ แทมมี่ แล้ว ยังมีการแย่งบัลลังก์มือ1โลกระหว่าง 2 สาวเซิร์บ ,ฟอร์มสุดยอดของกองทัพหวดรัสเซีย รวมทั้งการกลับมาทวงแชมป์บนแผ่นดินเกิดอีกครั้งของ 2 พี่น้องตระกูลวิลเลียมส์ให้ลุ้นกัน
