กลางปี 2008 การประกาศแขวนแร็กเกตอำลาดับเบิลยูทีเอทัวร์อย่างกระทันหันของ จัสติน เอแนง หวดดุเจ้าของแชมป์ 7 แกรนด์สแลมชาวเบลเยี่ยมส่งผลให้ตำแหน่งจ่าฝูงเทนนิสโลกกลายเป็นของแสลงที่เปลี่ยนมือรวดเร็วจนล่าสุดมาอยู่ที่ เยเลนา แยนโควิช หวดหน้าหมวยจากเซอร์เบียที่เพิ่งคว้าแชมป์สตุตการ์ต กรังด์ปรีซ์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผลพวงจากการเลิกเล่นของเอแนง ซึ่งครองความยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียวมากว่า 2 ปีเต็ม ทำให้กลุ่มนักเทนนิสใน 10 อันดับแรกเกิดภาวะ “คู่คี่สูสี” อย่างไม่เคยมีมาก่อนโดยภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 เดือน ตำแหน่งมือ 1 โลกเปลี่ยนเจ้าของมาแล้ว 4 คน เริ่มตั้งแต่ มาเรีย ชาราโปวา ,เยเลนา แยนโควิช แม้กระทั่ง อนา อิวาโนวิช แชมป์ เฟรนช์ โอเพน และ เซเรนา วิลเลียมส์ แชมป์ ยูเอส โอเพน ซึ่งต่างได้แต้มสะสมคนละ 1,000 คะแนนก็ยังไม่เพียงพอที่จะรักษาสถานะเหนือชั้นไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง
ในยุคที่ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์มีการเพิ่มทัวร์นาเมนต์แข่งขันจนแน่นเอียดตลอด 11 เดือน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักหวดสาวสักคนจะรักษาตำแหน่งมือ 1 โลกไว้ได้นาน 186 สัปดาห์ติดต่อกันเหมือนอย่างในยุคของ สเตฟฟี กราฟ , 80 สัปดาห์ในสมัยของ มาตินา ฮินกิส หรือแม้กระทั่ง 61 สัปดาห์ติดต่อกันแบบที่เอแนงทำไว้
“วันเดอร์เกิร์ล” ที่ผลัดกันขึ้นมาหลังยุคหวดจิ๋วเบลเยี่ยม เจอโปรแกรมโหดเข้าไปเลยต่างประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานกันถ้วนหน้า โดยในรายของ ชาราโปวา แชมป์ออสเตรเลียน โอเพนคนล่าสุด เอ็นหัวไหล่ฉีกขาดรุนแรงจนต้องแถลงปิดเทอมยาวไปแล้ว ส่วนคนเหล็กอย่าง เซเรนา ก็มาเจ็บข้อเท้าประกาศพร้อมจะกลับมาลงเล่นอีกทีในรายการสุดท้ายที่ โดฮา ด้าน อิวาโนวิช เจ็บนิ้วหัวแม่เท้าเรื้อรังจนระยะหลังตกรอบแรกรอบสองมาหลายรายการติดต่อกัน
ทำให้ตอนนี้มีเพียง แยนโควิช เท่านั้นที่ปากบอกว่าเจ็บแต่ยังเดินหน้าล่าความสำเร็จมาครองได้ต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าหลังเฟรนช์ โอเพน เป็นต้นมา“เจเจ” จะมีอาการเจ็บแขนขวาจนต้องพันผ้าบรรเทาอาการปวดลงแข่งให้เห็นอยู่หลายแมตช์ แต่เจ้าของรถพอร์ชที่ได้แชมป์จากเมืองเบียร์เมื่อวันอาทิตย์ก่อนก็คว้าโทรฟี่ดับเบิ้ลยูทีเอได้เป็นรายการที่ 3 ในปีนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ในฤดูกาล 2008 สาวจากกรุงเบลเกรด ไม่สามารถซิวแชมป์แกรนด์สแลมพร้อมเก็บ 1,000 คะแนนเต็มได้เหมือนคนอื่นเขา แต่สาเหตุที่เธอก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 โลกได้ต้องยกเครดิตให้ความขยันล้วนๆ โดยนับแต่ปีใหม่เป็นต้นมา สาวหน้าฝรั่งหน้าหมวย ลงหวดไปแล้ว 22 รายการ เฉลี่ยเดือนละ 2 รายการเศษ ซึ่งเธอก็ทำได้เยี่ยมพิสูจน์จากสถิติคว้าชัยชนะ 59 แมตช์มากกว่าใครในทัวร์
ครั้งหนึ่ง เยเลน่า ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานในปีแห่งความสำเร็จของตนเองว่า “ฉันไม่เหนื่อยเลยนะ รู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้ลงเล่นมากๆ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการลงไปแข่งขันอย่างสนุกสนาน โดยเล่นในแบบที่ได้ฝึกซ้อมและวางแผนไว้ จากนั้นก็พยายามพัฒนาฝีมือของตัวเองให้เก่งขึ้น โดยไม่ต้องไปสนใจว่าจะได้แต้มเท่าไหร่ จะเป็นมือ 1 ของโลกตอนไหน” เจเจเผยถึงผลพลอยได้ราคาแพงที่ติดมาแบบไม่คาดคิด
แม้ผู้ท้าชิงจะน้อยลงจากการที่ ชาราโปวา และ เซเรนา ควงแขนบาดเจ็บ แต่ก็ใช่ว่า แยนโควิช จะรั้งตำแหน่งมือ 1 โลกไว้ได้จนสิ้นปีแบบสบายอารมณ์ เพราะเวลานี้ ดินารา ซาฟีนา สาวรัสเซียกำลังฟอร์มแรงทำแต้มจี้ติดมาไม่เกิน 500 คะแนนแล้ว โดยดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ 2 รายการนับจากนี้ หากหวดเซิร์บพลาดท่าตกรอบเร็ว ส่วนหวดหมีขาวฟอร์มดีเข้ารอบลึก เราอาจได้เห็นน้องสาวของ มารัต ซาฟิน ผงาดรั้งตำแหน่งมือ 1 ของโลกเป็นคนที่ 5 ในรอบ 4 เดือนเศษก็เป็นได้
นอกจากนี้ เทนนิสรายการ โซนี อิริกสัน แชมเปียนชิฟ ซึ่งจะรวมเอายอดนักเทนนิสมือ 1-8 ของฝ่ายหญิงมาดวลเดือดกันที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ในช่วงต้นเดือนหน้า อาจเป็นจุดพลิกผันสำคัญของ “เจเจ” หากย้อนมองผลงานในปีที่แล้วซึ่งเธอแพ้รวด 3 แมตช์ตกรอบแรกแบบหมดสภาพ
ช่องว่าง 213 คะแนนระหว่าง แยนโควิช มือหนึ่ง และ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ในฐานะนักเทนนิสหมายเลขสองของโลกนั้นว่าไปแล้วเปรียบเสมือนช่องว่างแห่งโอกาสสำหรับนักเทนนิสในระดับท้อป 5 ของดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์ทุกราย เพราะเวลานี้บัลลังก์ราชินีเทนนิสโลก มิใช่สมบัติของใครคนใดคนหนึ่งอีกต่อไปแล้วสาวนักหวดโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่อยู่ในห้าอันดับนำนั้นมีโอกาสแทรกตัวขึ้นมา “เชยชม” สมบัติอันล้ำค่าชิ้นนี้แทบทุกคนเพียงแต่งานหนักที่รออยู่นั้นคือการต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า "เธอ" เป็นตัวจริงด้วยการรักษาตำแหน่งให้อยู่กับตนเองไว้ให้นานที่สุด มิใช่เป็นเพียง “พลุ” สีสวยที่สว่างเพียงวาบเดียวจากนั้นก็จางหายไป