“สแลมออสซี่” จุดเปลี่ยนสักหลาดโลก

ศึกดวลลูกสักหลาด "ออสเตรเลียน โอเพน" แกรนด์สแลมแห่งทวีปดาวน์อันเดอร์โคจรกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งระหว่างวันที่ 19 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งนอกจากจะมีเงินรางวัลล่อใจสำหรับตำแหน่งแชมป์ประเภทเดี่ยวถึง 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 57 ล้านบาทแล้ว สแลมประเดิมศักราชรายการนี้ยังเป็นกุญแจดอกสำคัญเพื่อไขไปสู่ความสำเร็จในปี 2009 พร้อมจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการเทนนิสอีกด้วย

เริ่มจากประเภทชายเดี่ยว โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักหวดชาวสวิสเซอร์แลนด์ไม่ได้มาเยือน เมลเบิร์น พาร์ค ในฐานะมือ 1 ของโลกเหมือน 5 ปีที่ผ่านมาแต่ล่าสุดถือว่าคืนฟอร์มได้สำเร็จหลังคว้าแชมป์เทนนิสอุ่นเครื่อง คูยอง คลาสสิค อีกทั้งสภาพร่างกายก็กลับมาฟิตเต็มร้อยเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกับเส้นทางรอบเมนดรอว์ซึ่งค่อนข้างสะดวกโยธินกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมาแล้ว เกจิหลายสำนักต่างไม่ลังเลที่จะยกให้ แชมป์เก่า 3 สมัยเป็นเต็งหนึ่งมีสิทธิที่จะคว้าแชมป์พร้อมทำสถิติซิวแกรนด์สแลม 14 สมัยเทียบเท่า พีต เเซมพราส ตำนานชาวอเมริกัน

ทางด้านราฟาเอล นาดาล พิสูจน์ชัดแล้วว่าไม่ได้มีดีเฉพาะคอร์ตดินหลังประกาศศักดาโค่น "เฟดเอ็กซ์" บนคอร์ตหญ้าคว้าแชมป์วิมเบิลดัน 2008 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ทว่าในแกรนด์สแลมฮาร์ดคอร์ต "เอล ราฟา" ยังไม่เคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้เลย โดยผลงานสแลมออสซี่ เมื่อปีที่แล้ว นาดาล พลิกล็อกพ่ายให้กับ โจ-วิลฟรีด ซองกา ม้ามืดจากฝรั่งเศสตกรอบตัดเชือก ก่อนที่ปลายปีจะมาจอดป้ายที่รอบรองชนะเลิศ ยูเอส โอเพนหลังพลาดท่าแพ้ แอนดี เมอร์เรย์ จากสกอตแลนด์ใน 4 เซต แต่หลังจากครองบัลลังก์มือ 1 โลกมาเกือบ 5 เดือนนาดาลที่แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้างแต่ประสบการณ์ที่มากขึ้นพร้อมกับวัย สแลม ออสซี่ ปีนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับกระทิงหนุ่มจากสเปนที่จะทำลาย อาถรรพ์

นอกจากสองเทพแห่งวงการสักหลาดโลกแล้วเสือหนุ่มอย่างแอนดี เมอร์เรย์ ในวัย 21 ปีที่ยกระดับฝีมือขึ้นมาเป็นหนึ่งในจตุรเทพเต็มตัวหลังคว้ารองแชมป์ยูเอส โอเพนขยับอันดับขึ้นมาเป็นมือ 4 ของโลกพร้อมต่อยอดความร้อนแรงมาถึงต้นปี 2009 เอาชนะทั้ง เฟเดอเรอร์ และ นาดาล คว้าแชมป์รายการพิเศษ แคปิตาลา เวิลด์ แชมป์เปียนชิป ที่อาบูดาบี ก่อนข้ามทะเลทรายมา ดูไบ ป้องกันแชมป์ กาตาร์ เอ็กซอน โมบิล

จากฟอร์มสุดยอดดังกล่าวทำให้บ่อนรับพนันถูกกฎหมายในอังกฤษพร้อมใจกันยกให้ เมอร์เรย์ เป็นเต็งหนึ่งที่จะชูถ้วยแชมป์กลาง รอด เลเวอร์ อารีนา ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แสดงความมั่นใจด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "ผมไม่ได้สนใจกับตำแหน่งตัวเต็ง รู้แค่ว่าตนเองแข็งแกร่งขึ้นมากทั้งกายใจและจะลงเล่นด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมเหมือนตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา"

หากทำสำเร็จตามเป้า เมอร์เรย์ จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสจากสหราชอาณาจักรคนแรกในรอบ 73 ปีที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาครองต่อจากที่ เฟรด เพอร์รี เคยทำไว้ในปี 1936 ตรงกันข้ามกับ โนวัค ยอโควิช "แชมป์เก่า" ถูกมองว่าไม่น่าจะป้องกันแชมป์เอาไว้ได้หลังตัดสินใจเปลี่ยนยี่ห้อแร็กเกตกะทันหันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนอันเป็นผลให้ฟอร์มแกว่งชนะได้ 3 แมตช์แต่ก็แพ้ไปแล้ว 2 แมตช์

ข้ามฟากมาทางฝ่ายหญิง การถอนตัวของ มาเรีย ชาราโปวา แชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วซึ่งไม่ฟิตสมบูรณ์หลังเจ็บไหล่พักยาวมานาน 5 เดือนส่งผลให้การลุ้นแชมป์ในปีนี้เปิดกว้างกว่าหลายๆ ครั้ง ดังคำกล่าวของ เอเลนา เดเมนเทียวา มือ 4 ของโลกซึ่งคว้าแชมป์มา 2 รายการติดต่อกันใน 2 สัปดาห์แรกของปี 2009 "สถานการณ์ตอนนี้แปลกมากๆ เมื่อมือ 1 ของโลกอย่าง เยเลนา แยนโควิช กลับไม่ได้เป็นเต็งหนึ่ง ส่วนแชมป์เก่าก็มาลงแข่งไม่ได้ทำให้นักเทนนิส 5-6 คนมีโอกาสมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นตัวฉัน ซาฟีนา พี่น้องวิลเลียมส์ และ สองสาวเซอร์เบีย "

แต่สำหรับสื่อสายเทนนิสทั่วโลกมองตรงกันว่า "คู่พี่น้องวิลเลียมส์" มีโอกาสดีกว่านักเทนนิสสาวรายอื่นๆยามต้องลงแข่งท่ามกลางสภาพอากาศร้อนระอุกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะ เซเรนา แชมป์เก่ารายการนี้ 3 สมัยในปี 2003,2005 และ 2007 ออกมาข่มขวัญคู่แข่งไว้ล่วงหน้าว่า "ไม่ว่าจะมีอันดับโลกเท่าใด ฉันก็ยังมั่นใจทุกครั้งเมื่อลงแข่งที่เมลเบิร์น"

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมิอาจประมาทสองสาวเซิร์บอย่าง อนา อิวาโนวิช รองแชมป์เก่า และ เยเลนา แยนโควิช มือ 1 โลกคนปัจจุบันได้ โดยเฉพาะรายหลังนอกจากจะพกความมั่นใจจากตำแหน่งแชมป์ 4 รายการและชนะ 65 แมตช์มากที่สุดในทัวร์ตลอดปี 2008 แล้ว เธอน่าจะมีแรงผลักดันมากขึ้นในสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ หลังต้องทนฟังคำสบประมาทว่าเป็น "มือ 1 ของโลกไร้แชมป์แกรนด์สแลม" มานานหลายเดือน

จากรายชื่อยอดนักเทนนิสที่กล่าวมาข้างต้นน่าจะกรุยทางผ่านเข้าไปเล่นสัปดาห์ที่ 2 ได้ค่อนข้างแน่ แต่ใครจะเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ได้ก่อนคงต้องอาศัยจังหวะและโอกาส ซึ่งหากแชมป์เป็นของ เฟดเอ็กซ์ เขาก็เหมาะสมที่จะถูกยกให้เป็นตำนานสักหลาดเทียบเท่า พีต แซมพราส ด้าน นาดาล รอพิสูจน์ความเป็น “มือ 1 โลก”บนทุกพื้นสนามเช่นเดียวกับ เมอร์เรย์ มีภาระเปลี่ยนความฝันของชาวสหราชอาณาจักรให้เป็นความจริง ขณะที่ เซเรนา หากคว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยที่ 4 โอกาสที่เธอจะแย่งตำแหน่งมือ 1 โลกมาจาก แยนโควิช ในเวลาอันใกล้จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นทวีคูณทันที