ถึงครา “นางฟ้า” ตกสวรรค์?

ASTVผู้จัดการรายวัน- หลังสร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์ วิมเบิลดัน 2004 ด้วยวัยเพียง 17 ปี มาเรีย ชาราโปวา นักเทนนิสสาวสวยชาวรัสเซีย ก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจของแฟนสักหลาดทั่วโลกมาโดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทว่าสไตล์การเล่นที่เน้นเกมเสิร์ฟดุดัน และ ลูกยิงวินเนอร์อันหนักหน่วงส่งผลให้ร่างกายของ มาเรีย เริ่มรับไม่ไหว และแสดงออกอย่างชัดเจนหลังเกิดอาการเจ็บหลังในปี 2005 ก่อนจะขยายผลต่อที่หัวไหล่ในปี 2007 และปี 2008 อาการยังไม่ทุเลาหากแต่กำเริบหนักถึงขนาดเส้นเอ็นขาด ทำให้มาเรีย ต้องพักแข่งขันเกือบปี

ฤดูกาล 2009 มาเรีย กลับมาลงสนามพร้อมกับสภาพร่างกายที่เธอให้สัมภาษณ์ว่า “พร้อมแล้วสำหรับการลงสนามแข่ง” หากแต่ฟอร์มเมื่อครั้งเป็นแชมป์แกรนด์สแลม 3 สมัยกลับเลือนหายไปหลังเธอพ่ายมือรองบ่อนขาดลอยในรอบก่อนรองชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพน และรอบ 2 วิมเบิลดัน

นับถึงเวลานี้ มาเรีย ห่างหายจากตำแหน่งแชมป์ ดับเบิลยูทีเอ ไปนาน 1 ปี 4 เดือนหลังจากคว้าแชมป์ล่าสุดได้ในรายการ บอช แอนด์ ลอมบ์ แชมป์เปียนชิป ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2008 โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเธอเพิ่งหวนคืนสนามเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายรายการคอร์ตดิน วอร์ซอว์ โอเพน และ เฟรนช์ โอเพน ก่อนพลาดท่าพ่าย จิเซลา ดูลโก จากอาร์เจนตินา ตกรอบ 2 วิมเบิลดัน บน "คอร์ตหญ้า" ซึ่งถือเป็นพื้นสนามที่หวดสาวรัสเซียทำผลงานได้ดีที่สุดนับตั้งแต่เล่นอาชีพจากสถิติชนะ 47 และแพ้ 8 แมตช์ คิดเป็น 85 เปอร์เซนต์

โดย ชาราโปวา ทิ้งความผิดหวังไว้ที่ ออล อิงแลนด์ และเดินทางกลับไปยังเมือง ฟินิกซ์ สหรัฐอเมริกา เพื่อเรียกความฟิตให้พร้อมสำหรับฤดูกาล ฮาร์ดคอร์ต ซึ่งกำลังจะมาถึง โดยเน้นปรับวงสวิงลูกเสิร์ฟให้สั้นลงคล้ายกับท่าเสิร์ฟของ แอนดี รอดดิก และ กาแอล มงฟีล์ส เพื่อลดแรงกระแทกบริเวณหัวไหล่ ซึ่งเธอออกมาเผยว่า "หัวไหล่ของฉันกลับมาสมบูรณ์ดีแล้ว หลังกลับไปซ้อมเสิร์ฟที่ ฟินิกซ์ เชื่อว่าจากนี้เปอร์เซนต์การเสิร์ฟจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ จนกลับมาอยู่ในฟอร์มเดิมซึ่งเคยช่วยฉันคว้าแชมป์หลายต่อหลายรายการ โดยส่วนตัวเชื่อว่าการปรับสไตล์การเสิร์ฟจะช่วยให้ตนเองเล่นเทนนิสได้ยาวนานขึ้นโดยไม่มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่มารบกวนอีก"

อย่างไรก็ดี สไตล์การเสิร์ฟไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้ มาเรีย มีอาการบาดเจ็บไหล่ขวาอย่างต่อเนื่องตามความเห็นของ ริชาร์ด ปาเกลียโร เกจิเทนนิสจากเว็บไซต์ เทนนิส วีก ซึ่งออกโรงเตือน อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกให้คำนึงถึง “ข้อจำกัด” ทางร่างกายเนื่องด้วยเทคนิคการยิงบอล "แฟลต" (บอลพุ่ง) และแรงแทบทุกลูก ของ ชาราโปวา หากความฟิตและความมั่นใจไม่เพียงพอแล้วจะกลายเป็น "ดาบสองคม" กลับมาทำร้ายตัวเธอเองให้มีเปอร์เซนต์ของการตีเสียเอง (Unforced Error) เพิ่มสูงขึ้น

นอกจาก การใช้ร่างกายแบบสิ้นเปลืองจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนสายเทนนิสแล้ว ภาพลักษณ์ "เซเลบริตี" ของ มาเรีย ยังตกเป็นข้อถกเถียงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเจ้าตัวซึ่งมีอาชีพนักเทนนิสต้องเจียดเวลาซ้อมและพักผ่อนรับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้านานาชนิด อาทิ โรเล็กซ์ , ไนกี , ทิฟฟานี ฯ โดยกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา "เจ้าแม่แฟชัน" ไปที่ ห้าง “ลิเบอร์ตี” กรุงลอนดอน เพื่อแสดงแบบเสื้อของโซนี อีริคสัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง อีกทั้งในเวลาเดียวกันยังเขียนบทความข้ามทวีปให้กับนิตยสาร อีเอสพีเอ็น ทั้งที่ แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน เตรียมเปิดฉากแข่งขันในอีก 3 วันถัดมา

ล่าสุด มาเรีย กลับมาลงสนามในการแข่งขันเทนนิส "แบงค์ ออฟ เดอะ เวสต์ คลาสสิก" ซึ่งผลการแข่งขันในรอบแรก “นางฟ้าชาราโปว่า” มีชัยเหนือ ไอ ซูกิยามา 2-1 เซต หากแต่บทพิสูจน์ว่า อดีตแชมป์แกรนด์สแลม 3 สมัยจะกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในวงการเทนนิสหญิงได้อีกครั้งได้หรือไม่นั้นต้องรอดูผลงานในสแลมส่งท้ายปี “ยูเอส โอเพน” ณ สังเวียน ฟลัชชิง เมโดว์ส ซึ่ง มาเรีย ในฐานะแชมป์เก่าปี 2006 ออกมาประกาศแล้วว่าจะกลับไปลงแข่งขันด้วยสภาพร่างกายและจิตใจ “พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์”