xs
xsm
sm
md
lg

‘ซูเปอร์โบว์ล’ ครั้งแรกของใครบางคน / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

เช้าวันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 คอคนชนคนคงจะได้ทราบกันแล้วว่า พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ประกาศศักดาคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล สมัยที่ 6 ในประวัติศาสตร์สำเร็จ หรือเป็นทาง อริโซนา คาร์ดินัลส์ พลิกล็อกกอด "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" เป็นหนแรกของเฟรนไชส์

ทันทีที่ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ผ่านด่าน บัลติมอร์ เรฟเวนส์ คว้าตั๋วมายัง เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม สังเวียนชิงชัยในเมืองแทมปา มลรัฐฟลอริดา ผมคิดไว้ในใจว่า "คนเหล็ก" ซิวแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 43 มาครองได้แน่นอน นอกจากชั้นเชิงที่เหนือกว่า คาร์ดินัลส์ การเข้าชิง 6 สมัยก่อนหน้านี้ สตีลเลอร์ส ได้เฮถึง 5 ครั้ง มีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จสูงถึงร้อยละ 80 เป็นรองแค่ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ที่ทะลุชิง 5 สมัย กวาดชัย 100 เปอร์เซ็นต์

และถ้า สตีลเลอร์ส มีชัยเหนือ คาร์ดินัลส์ จริงเท่ากับว่า "คนเหล็ก" จะทำสถิติเป็นแชมป์แซงหน้าทั้ง ไนเนอร์ส และ ดัลลัส คาวบอยส์ อดีตสองยักษ์ใหญ่ที่ยังรื้อฟื้นความสำเร็จไม่ได้มาตั้งแต่ปี 1995-1996 อย่างไรก็ตาม ใครที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นของ "นกหัวแดง" คงอยากเทใจเชียร์เป็นแน่ ตามสไตล์คนไทยที่ชอบมวยรองด้วยแล้ว นี่ผมยังแอบลุ้นเช่นกันว่าพวกเขาจะทำสำเร็จได้หรือไม่กับโอกาสเข้าชิงครั้งแรก

จริงๆ แล้วหากไล่เรียงหน้าประวัติศาสตร์ NFL กันจริงๆ คาร์ดินัลส์ คว้าแชมป์มาแล้ว 2 สมัยในปี 1925 และ 1947 แต่สมัยโน้นยังไม่มีการรวมลีก "ซูเปอร์โบว์ล" เริ่มนับกันครั้งแรกปี 1967 ก่อนที่ปี 1970 จะรวมลีก AFL กับ NFL อย่างเป็นทางการ ดังนั้นเอาเป็นว่า "นกหัวแดง" บินมาถึงเกมชิงแชมป์เป็นหนแรกก็แล้วกัน

เมื่อเทียบประสบการณ์กันแล้วดูเหมือน สตีลเลอร์ส กินขาดพอสมควร เนื่องจาก คาร์ดินัลส์ มีบุคลากรที่เคยสัมผัสกับเกมชิงแชมป์เช็คได้เพียงแค่ 4 ราย เคน ไวเซนฮันท์ และ รัสส์ กริมม์ ในฐานะทีมงานโค้ชเก่า "คนเหล็ก" ชุดแชมป์เมื่อสามปีก่อน ส่วนผู้เล่นก็มี เคิร์ต วอร์เนอร์ อดีตควอเตอร์แบ็กดีกรีแชมป์กับ เซนต์หลุยส์ แรมส์ (ปี 1999) และ ร็อดดริก ฮูด ตัวคุมปีกเก่า ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ที่เคยชิงซูเปอร์โบว์ล ก่อนปราชัย นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ในปี 2005

ดังนั้นหากจะพูดถึง "ครั้งแรก" ของใครหลายคนคงว่ากันไม่จบสิ้น ดังนั้นผมอยากหยิบยกบุคลากรสำคัญๆ มาพูดถึง เริ่มจากหัวหน้าโค้ช ไมค์ ทอมลิน หลายคนมองประเด็น เคน ไวเซนฮันท์ ต้องการพิสูจน์ฝีมือให้ สตีลเลอร์ส เห็นที่ไม่ยอมส่งไม้ต่อให้ทำงานนายใหญ่แทน บิลล์ คาวเออร์ แต่ ทอมลิน อดีตโค้ชทีมรับ มินเนโซตา ไวกิงส์ ยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า "คนเหล็ก" คิดไม่ผิดเลยกับการดึงเขามาคุมบังเหียน

ซึ่งถ้า ทอมลิน พาต้นสังกัดปักธงชัยกลางสังเวียนศึกได้ เขาจะกลายเป็นหัวหน้าโค้ชอายุน้อยที่สุด (36 ปี) ที่พาทีมเป็นแชมป์ เป็นเฮดโค้ชผิวสีคนที่สองต่อจาก โทนี ดันจี ที่ครองซูเปอร์โบว์ล คงไม่มีอะไรสวยหรูไปกว่านี้แล้วสำหรับโค้ชประสบการณ์เพียงสามปี ในทางตรงกันข้ามหากโชคชะตาเลือกข้าง ไวเซนฮันท์ ความสำเร็จที่ทำขึ้นมาด้วยมือตนเองย่อมน่าภาคภูมิใจกว่าเป็นไหนๆ ส่วนคนที่น่าจะเจ็บกระดองใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น แดน รูนีย์ เจ้าของทีม "คนเหล็ก" ซึ่งมีของดีในมือแท้ๆ แต่กลับไม่ให้โอกาส

ขณะที่ผู้เล่นที่เข้าชิงซูเปอร์โบว์ลหนแรก ผมอยากคีย์ไปที่ แลร์รี ฟิตซ์เจอรัลด์ อดีตดราฟท์อันดับ 3 รอบแรกของปี 2004 ที่ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองไม่นานก็จ่อความสำเร็จเข้าไปทุกขณะ ด้วยวัยเพญจเพสและสภาพร่างกายที่ได้สัดส่วน ปีกนอกรายนี้ถูกยกให้เป็นมือดีที่สุดของ NFL ณ เวลานี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหากไร้มือเหนียวหนึบ รับไป 1,431 หลา 12 ทัชดาวน์ในฤดูกาลปกติ คว้าบอลเข้าเอ็นด์โซนอีก 419 หลา 5 ทัชดาวน์ในโพสต์ซีซั่น "นกหัวแดง" คงไม่บินมาไกลถึงแทมปาเป็นแน่ หากจังหวะประจวบเหมาะ ฟิตซ์เจอรัลด์ อาจเบิ้ลรางวัลอันทรงเกียรติทั้งซูเปอร์โบว์ล และ MVP (ผู้เล่นทรงคุณค่า) ไปในคราวเดียวกันก็เป็นได้

สำหรับคนสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือ เบน แกรม ที่กลายเป็น "ออสเตรเลียน รูลส์ ฟุตบอล" คนแรกในประวัติศาสตร์ซูเปอร์โบว์ล หนุ่มชาวออสซีเข้าลีกมาอยู่กับ นิวยอร์ก เจ็ตส์ ด้วยวัย 31 ปีเมื่อสี่ปีก่อน ช่วงซัมเมอร์เพิ่งโดนเขี่ยจาก นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส แต่ คาร์ดินัลส์ เห็นทีเด็ดจึงเซ็นสัญญามาพันท์บอล ด้วยเอกลักษณ์ของรักบีสไตล์ออสเตรเลียนที่เตะฟรีคิกกันเป็นว่าเล่น จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม แกรม เตะพันท์เฉลี่ยได้ระยะ 43.5 หลา มีส่วนผลักดันให้คู่แข่งต้องบุกใส่ต้นสังกัดในระยะไม่ถนัดถนี่

แม้ อเมริกัน ฟุตบอล ไม่เป็นที่นิยมในดินแดนจิงโจ้จะด้วยความเป็นชาตินิยมหรืออะไรก็ตามที แต่เชื่อเหลือเกินว่าช่วง 10.30 น.ที่ออสเตรเลีย คงมีแฟนๆ ลูกหนำเลี้ยบไม่น้อยเปิดโทรทัศน์ให้กำลังใจเพื่อนร่วมชาติ เชียร์ให้ แกรม ทำผลงานสุดยอดพา คาร์ดินัลส์ พลิกคว้าชัยเหนือ สตีลเลอร์ส ซึ่งคงต้องมาติดตามดูกันว่าครั้งแรกของใครบางคนจะจบลงด้วยรอยยิ้มหรือคราบน้ำตา
กำลังโหลดความคิดเห็น