คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เข้าไปชิงชัยซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 43 ปะทะฝีมือ อริโซนา คาร์ดินัลส์ งานนี้คงต้องมาดูว่า "คนเหล็ก" ในฐานะเต็งแชมป์จะคว้าเกียรติยศสมัยที่ 6 มาครอบครอง หรือปล่อยให้ "นกหัวแดง" สวมวิญญาณ "ซินเดอเรลลา" คว้ารองเท้าแก้วไปเชยชม
ก่อนจะคุยกันถึงเกมชิงแชมป์แห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2008/09 ขอย้อนความไปถึงเกมชิงแชมป์สายที่มีทั้งเรื่องพลิกล็อกและเป็นไปตามคาด เริ่มจากความฮือฮาเล็กๆ เมื่อ คาร์ดินัลส์ หักปากกาเซียนล้ม ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ในการชิงชัยความเป็นหนึ่งของฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) โดยคู่นี้มีการถ่ายทอดสดทางเคเบิลยักษ์ใหญ่บ้านเรา เกมที่ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ ฟีนิกซ์ สเตเดียม เจ้าถิ่นเลือกปิดหลังคาพร้อมขยายความจุของสนามสุดไฮเทคเป็น 7 หมื่นกว่าที่นั่งเพื่อให้แฟนๆ เข้ามากดดันผู้มาเยือนให้มากที่สุด
ในเกมที่คาดว่าจะสกอร์สูง คาร์ดินัลส์ หนึ่งในวิหคทั้งสามมีเกมบุกทางอากาศอันโฉบเฉี่ยว แถมยังได้ อันควาน บอลดิน สลัดอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ามาช่วยงาน เจ้าบ้านทำในสิ่งที่พวกเขาต้องทำนั่นคือชวนอีเกิลส์บู๊ เชื่อเหลือเกินว่าหากรูปเกมออกมาในลักษณะยื้อกันไปมา "นกหัวแดง" โดนส่องร่วงเป็นแน่ แต่เมื่อทุกอย่างเข้าทาง เคิร์ต วอร์เนอร์ ขว้าง 3 ทัชดาวน์ให้ แลร์รี ฟิตเจอรรัลด์ ช่วยให้นำห่าง 24-6 ทว่าลงมาลุยครึ่งหลัง เกมรับทีมเยือนกลับมาเล่นได้สมราคาไล่กดดันจนคาร์ดสเป๋ โดโนแวน แม็คแนบบ์ มีฮึดพาทีมเยือนรัน 19 คะแนนพลิกกลับมานำ ทว่าท้ายที่สุด วอร์เนอร์ ขว้างสั้นให้ ทิม ไฮทาวเวอร์ วิ่งหมุนเข้าเอ็นด์โซนเป็นสกอร์คว้าชัย 32-25
จากสิ่งที่ได้เห็นคงต้องยอมรับเสียทีว่า คาร์ดินัลส์ ไม่ได้ฟลุคเข้ามาดั่งที่หลายคนรวมถึงตัวผมเองเคยปรามาสลูกทีมของ เคน ไวเซนฮันท์ เอาไว้ นอกจากฝีมือแล้ว คาร์ดส ดูมีโชคเพราะถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขาต้องเผชิญหน้า นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ที่ไจแอนท์ส สเตเดียม สนามที่มีกระแสลมผันผวนตลอดเวลา โอกาสที่ "นกหัวแดง" จะโบยบินลดน้อยไปแน่นอน ดังนั้นต้องขอบใจ อีเกิลส์ ที่ช่วยจิกแชมป์เก่าให้ม้วยไปก่อน
ส่วนเกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีการถ่ายทอดสดกลับมายังเมืองไทย แต่ก็เป็นไปตามคาด สตีลเลอร์ส ใช้ความได้เปรียบจากการเล่นที่ไฮน์ซ ฟิลด์ สังเวียนอันเย็นยะเยือกย้ำชัย บัลติมอร์ เรฟเวนส์ อริร่วมกลุ่มเหนือเป็นคำรบที่สามในฤดูกาลนี้ อันที่จริงเกมที่ทำท่าจะขาดแต่ วิลลี แม็คเกฮี วิ่งสองสกอร์ช่วยทีมเยือนไล่จี้ 14-16 แต่แล้ว โจ แฟล็กโก ควอเตอร์แบ็กรุคกีก็แสดงให้เห็นถึงการขาดประสบการณ์ เสียอินเทอร์เซปต์ให้ ทรอย โพลามาลู ชิงไปวิ่งย้อนทัชดาวน์ปิดกล่อง 23-14
การมาเจอกันของ สตีลเลอร์ส กับ คาร์ดินัลส์ ตามชื่อชั้นแล้วถือว่าค่อนข้างห่างพอสมควรถ้าเปรียบวงการลูกหนังอาจเหมือนการเผชิญหน้ากันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ มิลล์วอลล์ ในเอฟเอ คัพ รอบชิงสัก 5 ปีก่อน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทรับพนันถูกกฎหมายในลาสเวกัสต่างยกให้ "คนเหล็ก" ซึ่งเข้าชิงเป็นสมัยที่ 7 เรียกได้ว่าประสบการณ์เกมใหญ่ล้นเหลือเป็นต่อ "นกหัวแดง" ที่เพิ่งเข้าซูเปอร์โบว์ลเป็นหนแรก สุดกู่ 6.5 คะแนน สกอร์สูงต่ำอยู่ที่ 47
แม้หลายครั้งเราได้เห็นทีมรองบ่อนสู้แบบถวายหัวได้อย่างสูสี แต่หลายคราผลการแข่งขันก็ออกมาตามคาดทีมเต็งเข้าวิน อย่างไรก็ตาม หาใช่ คาร์ดินัลส์ ไม่มีช่องทางแห่งชัยชนะเลย ถ้าลูกทีมของ ไวเซนฮันท์ ยังเดินเกมบุกทำคะแนนเป็นกอบเป็นกำดั่งสามเกมที่ผ่านมาถล่มใส่ แอตแลนตา ฟอลคอนส์, แคโรไลนา แพนเธอร์ส และ อีเกิลส์ ถึงหลัก 30 แต้ม โอกาสของพวกเขายังมี เนื่องจากผมก็ไม่มั่นใจว่า สตีลเลอร์ส จะเปิดโหมดทำคะแนนสูงผิดธรรมชาติของพวกเขาได้หรือไม่
เมื่อมอง คาร์ดินัลส์ ในยุคนี้ทำเอาผมนึกย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อนตอนเห็น อินเดียนาโปลิส โคลต์ส คว้าซูเปอร์โบว์ลมาครอง เกมบุกทางอากาศอันร้อนแรงภายใต้การนำของ เพย์ตัน แมนนิง คล้ายคลึงกับ คาร์ดินัลส์ ชั่วโมงนี้ไม่ผิดเพี้ยน ถ้า วอร์เนอร์ ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์แชมป์กับ เซนต์หลุยส์ แรมส์ มาแล้วเมื่อปี 1999 ยังบอมบ์ระเบิดระเบ้อ ฟิตเจอรัลด์ รับบอลติดหนึบ เอ็ดเจอรีน เจมส์ และ ไฮทาวเวอร์ สลับวิ่งได้อย่างสมดุล ไวเซนฮันท์ คงสะใจไม่น้อยหลัง สตีลเลอร์ส เคยเมินมอบโอกาสคุมบังเหียนให้เขาเมื่อสองปีก่อน
แต่ถ้า "คนเหล็ก" ใช้เกมรับอันดับ 1 ค้ำยัน คาร์ดินัลส์ จนไปไม่เป็นคงเข้าทาง ไมค์ ทอมลิน ที่เตรียมใช้ วิลลี พาร์เกอร์ ลงมานวดทีมรับซึ่งไม่แกร่งนักของคาร์ดส เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ มีโอกาสขว้างบอลสวยๆ ให้ ซานโตนิโอ โฮล์มส เหมือนกับชิงแชมป์สาย หรือปล่อยทีเด็ดให้ ไฮน์ส วอร์ด หากเป็นเช่นนั้น สตีลเลอร์ส จะประกาศศักดาเป็นแชมป์มากที่สุดแซงหน้าทั้ง ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส และ ดัลลัส คาวบอยส์ โดยปริยาย ซึ่งอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนั้นคำตอบอยู่ที่ เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม ในแทมปา เช้าวันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เข้าไปชิงชัยซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 43 ปะทะฝีมือ อริโซนา คาร์ดินัลส์ งานนี้คงต้องมาดูว่า "คนเหล็ก" ในฐานะเต็งแชมป์จะคว้าเกียรติยศสมัยที่ 6 มาครอบครอง หรือปล่อยให้ "นกหัวแดง" สวมวิญญาณ "ซินเดอเรลลา" คว้ารองเท้าแก้วไปเชยชม
ก่อนจะคุยกันถึงเกมชิงแชมป์แห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2008/09 ขอย้อนความไปถึงเกมชิงแชมป์สายที่มีทั้งเรื่องพลิกล็อกและเป็นไปตามคาด เริ่มจากความฮือฮาเล็กๆ เมื่อ คาร์ดินัลส์ หักปากกาเซียนล้ม ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ในการชิงชัยความเป็นหนึ่งของฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) โดยคู่นี้มีการถ่ายทอดสดทางเคเบิลยักษ์ใหญ่บ้านเรา เกมที่ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ ฟีนิกซ์ สเตเดียม เจ้าถิ่นเลือกปิดหลังคาพร้อมขยายความจุของสนามสุดไฮเทคเป็น 7 หมื่นกว่าที่นั่งเพื่อให้แฟนๆ เข้ามากดดันผู้มาเยือนให้มากที่สุด
ในเกมที่คาดว่าจะสกอร์สูง คาร์ดินัลส์ หนึ่งในวิหคทั้งสามมีเกมบุกทางอากาศอันโฉบเฉี่ยว แถมยังได้ อันควาน บอลดิน สลัดอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ามาช่วยงาน เจ้าบ้านทำในสิ่งที่พวกเขาต้องทำนั่นคือชวนอีเกิลส์บู๊ เชื่อเหลือเกินว่าหากรูปเกมออกมาในลักษณะยื้อกันไปมา "นกหัวแดง" โดนส่องร่วงเป็นแน่ แต่เมื่อทุกอย่างเข้าทาง เคิร์ต วอร์เนอร์ ขว้าง 3 ทัชดาวน์ให้ แลร์รี ฟิตเจอรรัลด์ ช่วยให้นำห่าง 24-6 ทว่าลงมาลุยครึ่งหลัง เกมรับทีมเยือนกลับมาเล่นได้สมราคาไล่กดดันจนคาร์ดสเป๋ โดโนแวน แม็คแนบบ์ มีฮึดพาทีมเยือนรัน 19 คะแนนพลิกกลับมานำ ทว่าท้ายที่สุด วอร์เนอร์ ขว้างสั้นให้ ทิม ไฮทาวเวอร์ วิ่งหมุนเข้าเอ็นด์โซนเป็นสกอร์คว้าชัย 32-25
จากสิ่งที่ได้เห็นคงต้องยอมรับเสียทีว่า คาร์ดินัลส์ ไม่ได้ฟลุคเข้ามาดั่งที่หลายคนรวมถึงตัวผมเองเคยปรามาสลูกทีมของ เคน ไวเซนฮันท์ เอาไว้ นอกจากฝีมือแล้ว คาร์ดส ดูมีโชคเพราะถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขาต้องเผชิญหน้า นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ที่ไจแอนท์ส สเตเดียม สนามที่มีกระแสลมผันผวนตลอดเวลา โอกาสที่ "นกหัวแดง" จะโบยบินลดน้อยไปแน่นอน ดังนั้นต้องขอบใจ อีเกิลส์ ที่ช่วยจิกแชมป์เก่าให้ม้วยไปก่อน
ส่วนเกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีการถ่ายทอดสดกลับมายังเมืองไทย แต่ก็เป็นไปตามคาด สตีลเลอร์ส ใช้ความได้เปรียบจากการเล่นที่ไฮน์ซ ฟิลด์ สังเวียนอันเย็นยะเยือกย้ำชัย บัลติมอร์ เรฟเวนส์ อริร่วมกลุ่มเหนือเป็นคำรบที่สามในฤดูกาลนี้ อันที่จริงเกมที่ทำท่าจะขาดแต่ วิลลี แม็คเกฮี วิ่งสองสกอร์ช่วยทีมเยือนไล่จี้ 14-16 แต่แล้ว โจ แฟล็กโก ควอเตอร์แบ็กรุคกีก็แสดงให้เห็นถึงการขาดประสบการณ์ เสียอินเทอร์เซปต์ให้ ทรอย โพลามาลู ชิงไปวิ่งย้อนทัชดาวน์ปิดกล่อง 23-14
การมาเจอกันของ สตีลเลอร์ส กับ คาร์ดินัลส์ ตามชื่อชั้นแล้วถือว่าค่อนข้างห่างพอสมควรถ้าเปรียบวงการลูกหนังอาจเหมือนการเผชิญหน้ากันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ มิลล์วอลล์ ในเอฟเอ คัพ รอบชิงสัก 5 ปีก่อน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทรับพนันถูกกฎหมายในลาสเวกัสต่างยกให้ "คนเหล็ก" ซึ่งเข้าชิงเป็นสมัยที่ 7 เรียกได้ว่าประสบการณ์เกมใหญ่ล้นเหลือเป็นต่อ "นกหัวแดง" ที่เพิ่งเข้าซูเปอร์โบว์ลเป็นหนแรก สุดกู่ 6.5 คะแนน สกอร์สูงต่ำอยู่ที่ 47
แม้หลายครั้งเราได้เห็นทีมรองบ่อนสู้แบบถวายหัวได้อย่างสูสี แต่หลายคราผลการแข่งขันก็ออกมาตามคาดทีมเต็งเข้าวิน อย่างไรก็ตาม หาใช่ คาร์ดินัลส์ ไม่มีช่องทางแห่งชัยชนะเลย ถ้าลูกทีมของ ไวเซนฮันท์ ยังเดินเกมบุกทำคะแนนเป็นกอบเป็นกำดั่งสามเกมที่ผ่านมาถล่มใส่ แอตแลนตา ฟอลคอนส์, แคโรไลนา แพนเธอร์ส และ อีเกิลส์ ถึงหลัก 30 แต้ม โอกาสของพวกเขายังมี เนื่องจากผมก็ไม่มั่นใจว่า สตีลเลอร์ส จะเปิดโหมดทำคะแนนสูงผิดธรรมชาติของพวกเขาได้หรือไม่
เมื่อมอง คาร์ดินัลส์ ในยุคนี้ทำเอาผมนึกย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อนตอนเห็น อินเดียนาโปลิส โคลต์ส คว้าซูเปอร์โบว์ลมาครอง เกมบุกทางอากาศอันร้อนแรงภายใต้การนำของ เพย์ตัน แมนนิง คล้ายคลึงกับ คาร์ดินัลส์ ชั่วโมงนี้ไม่ผิดเพี้ยน ถ้า วอร์เนอร์ ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์แชมป์กับ เซนต์หลุยส์ แรมส์ มาแล้วเมื่อปี 1999 ยังบอมบ์ระเบิดระเบ้อ ฟิตเจอรัลด์ รับบอลติดหนึบ เอ็ดเจอรีน เจมส์ และ ไฮทาวเวอร์ สลับวิ่งได้อย่างสมดุล ไวเซนฮันท์ คงสะใจไม่น้อยหลัง สตีลเลอร์ส เคยเมินมอบโอกาสคุมบังเหียนให้เขาเมื่อสองปีก่อน
แต่ถ้า "คนเหล็ก" ใช้เกมรับอันดับ 1 ค้ำยัน คาร์ดินัลส์ จนไปไม่เป็นคงเข้าทาง ไมค์ ทอมลิน ที่เตรียมใช้ วิลลี พาร์เกอร์ ลงมานวดทีมรับซึ่งไม่แกร่งนักของคาร์ดส เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ มีโอกาสขว้างบอลสวยๆ ให้ ซานโตนิโอ โฮล์มส เหมือนกับชิงแชมป์สาย หรือปล่อยทีเด็ดให้ ไฮน์ส วอร์ด หากเป็นเช่นนั้น สตีลเลอร์ส จะประกาศศักดาเป็นแชมป์มากที่สุดแซงหน้าทั้ง ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส และ ดัลลัส คาวบอยส์ โดยปริยาย ซึ่งอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนั้นคำตอบอยู่ที่ เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม ในแทมปา เช้าวันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์