เมื่อครั้งอดีต เปเล และ ดิเอโก มาราโดนา คือสองนักเตะที่ต่างได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในโลก แต่จนแล้วจนรอดในที่สุดก็ไม่อาจหาคำตอบได้ว่าใครกันแน่ที่คู่ควรกับคำว่า "เบอร์ 1" เฉกเช่นเดียวกับในปัจจุบันที่ยังถกเถียงกันว่า กากา, คริสเตียโน โรนัลโด เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรปและโลกคนล่าสุด รวมถึง ลิโอเนล เมสซี ใครกันที่สมควรจะเป็นยอดนักเตะแห่งยุคนี้
อย่างไรก็ตามต้องบอกว่า กากา ก้าวล้ำคู่แข่งทั้งสองคนไปแล้วกับข้อเสนอซื้อตัว 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,900 ล้านบาท) จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เหมือนเป็นการตอกย้ำความยอดเยี่ยมของแนวรุก เอซี มิลาน ซึ่งในท้ายที่สุดเจ้าตัวบอกปัดที่จะย้ายทีม ทำให้สถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก 46 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,254 ล้านบาท) ของ ซีเนอดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์ชาวฝรั่งเศส เมื่อปี 2001 ยังคงยืนยงอยู่ต่อไป
แต่ด้วยเหตุผลอันใดเล่าที่ทำให้ แมนฯซิตี ยอมควักเงินสูงถึงขนาดนี้เพื่อแลกตัว กากา ชนิดที่ว่าหากเกิดขึ้นจริงไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะหาใครมาทำลายสถิตินี้ได้ ซึ่งคำว่า "เพียบพร้อม" ใน 5 ข้อต่อไปนี้ของดาวเตะหมายเลข 22 ในสีเสื้อ "ปีศาจแดงดำ" ที่หาไม่ได้ทั้งหมดในตัวของ โรนัลโด ปีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เมสซี ตัวรุกร่างเล็กของ บาร์เซโลนา น่าจะบอกทุกอย่างได้ดีที่สุด
1.ได้รับการยกย่อง
เปเล นักเตะระดับตำนานที่พา บราซิล คว้าแชมป์โลก 3 สมัย ออกมายกย่อง กากา รุ่นน้องบราซิเลียน ว่าเก่งที่สุดในโลกด้วยความสามารถที่ยากจะหาใครเทียบได้ โดยให้เหตุผลว่า โรนัลโด ลีลาการเล่นยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ แถมไม่เคยพิสูจน์ตัวเองในระดับชาติกับโปรตุเกส มากเท่าที่ควร ส่วน เมสซี นั้นยิ่งตามหลังทั้งสองคนนี้อยู่หลายก้าว เนื่องจากยังไม่มีเกียรติยศส่วนตัวใดๆ มาประดับบารมีเลย
2.ทักษะลูกหนัง
กากา จัดเป็นนักเตะในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ที่ครบเครื่องมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตูจากระยะไกลและใกล้ การไปกับลูกฟุตบอลที่เร็วอย่างเหลือเชื่อ การจ่ายบอลอันคมกริบอย่างในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงเมื่อปี 2005 ที่ป้อนให้ เฮอร์นัน เครสโป ยิงประตู ลิเวอร์พูล นอกจากนี้ยังมีฟรีคิกที่หวังผลได้
ที่ผ่านมา กากา ยิงประตูสวยๆ จากการเข้าทำที่เยี่ยมยอดมากมาย แต่ที่ติดตาทุกคนมากที่สุดคงเป็นการทะลวงแนวรับ แมนฯยูไนเต็ด 3 คน ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2007 เข้าไปยิงผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ชนิดที่ว่าหลอกจน ปาทริช เอฟรา ชนกับ กาเบรียล ไฮน์เซ จนหัวทิ่มหัวตำ รวมถึงประตูโซโลเดี่ยวเข้าไปยิง อาร์เจนตินา คู่รักคู่แค้นตลอดกาล
3.พระเจ้าอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
เมื่อตอนอายุ 18 ปี กากา เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรงในสระว่ายน้ำชนิดที่ว่าเป็นตายเท่ากัน แถมเสี่ยงที่จะเป็นอัมพาตเนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณสันหลัง แต่ถึงกระนั้นก็ตามเขาสามารถกลับมาโลดแล่นบนสนามฟุตบอลได้อย่างปกติ ทำให้เจ้าตัวเชื่อว่าเป็นเพราะพระเจ้า จากนั้นท่าดีใจประจำตัวตอนยิงประตูได้ก็เป็นการชี้นิ้วขึ้นบนท้องฟ้า
นอกจากนี้ กากา ยังใส่เสื้อยืดที่มีข้อความว่า "I Belong to Jesus" (ตัวผมเป็นของพระเจ้า) เอาไว้ตลอดเวลาตอนลงสนามในแมตช์สำคัญๆ และมักจะเปิดให้เห็นอย่างตอนช่วย บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 และตอนพา มิลาน คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต เมื่อปี 2004 รวมถึงเอาชนะ ลิเวอร์พูล ซิวแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2007
4.ประสบความสำเร็จล้นเหลือ
กากา ย้ายจาก เซา เปาโล มาร่วมทัพ มิลาน เมื่อปี 2003 จากนั้นก็คว้าแชมป์ทุกรายการกับสโมสรดังแห่งอิตาลี ไม่ว่าจะเป็น สคูเด็ตโต ปี 2004, อิตาเลียน ซูเปอร์ คัพ ปี 2004 ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ปี 2007 รวมถึง ยูฟา ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟา คลับ เวิลด์ คลับ ปี 2007 โดยเฉพาะรายการสุดท้ายเจ้าตัวคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์มาครองได้ด้วย
ในระดับชาติคว้าแชมป์โลกกับ บราซิล ในปี 2002 แม้จะได้เล่นแค่ 25 นาทีก็ตาม ทางด้านเกียรติยศส่วนตัวก็คว้ามาแล้วทั้งนักเตะยอดเยี่ยมของสหพันธ์นักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ หรือ ฟิฟโปร ปี 2007 รวมถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2007 ของยุโรป หรือว่า บัลลงดอร์
5.หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลก
นิตยสาร "ไทม์" (Time) ของสหรัฐอเมริกา จัดอันดับ 100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดบนโลกใบนี้เมื่อปี 2008 ซึ่งก็มีนักฟุตบอลเพียงไม่กี่คนที่เคยติดอันดับ หนึ่งในนั้นมีชื่อของ ริคาร์โด อิเซคสัน ดอส ซานโต๊ส เลเต หรือว่า กากา รวมอยู่ด้วย
