xs
xsm
sm
md
lg

10 แข้ง “บูมเมอแรง” ออกไปแล้วก็กลับมา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟาวเลอร์ (ซ้าย)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จัดการคว้านักเตะเก่าที่เคยย้ายออกไปแล้วกลับมาถึง 2 คน คือ เจอร์เมน เดโฟ และ ปาสกัล ชิมบงดา ในช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคมนี้ “Mgr Sport” จึงหยิบยกสกู๊ปจากสำนักข่าว “เดลี มิร์เรอร์” (Daily Mirror) ที่รวบรวม 10 นักเตะที่ย้ายกลับรังเก่ามาฝากกัน

1.จูเลียน ดิคส์ - เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด (1988-93 และ 1994-99)
กองหลังหน้าตาโรคจิตถูก แกรม ซูเนสส์ ซื้อมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 1993 ก่อนย้ายกลับแถบตะวันออกของลอนดอนในปีถัดมา แม้จะไม่ประสบความสำเร็จใน แอนฟิลด์ แต่เป็นนักเตะคนสุดท้ายที่ยิงประตูต่อหน้าสแตนด์ สปิออน ค็อป ก่อนกลับมาพา เวสต์ แฮม คว้าอันดับ 10 ใน พรีเมียร์ชิป เมื่อเขายิงไปได้ถึง 10 ประตู

2.เอียน รัช - ลิเวอร์พูล (1980-87 และ 1988-96)
ดาวยิงหน้าติดหนวดยิงประตูอย่างถล่มถลายใน แอนฟิลด์ ก่อนย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ในปี 1987 ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 147 ล้านบาท) แต่ล้มเหลวไม่เป็นท่าใน ตูริน ก่อนจะกลับมาพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์มากมาย และเป็นหนึ่งในนักเตะที่คว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายเมื่อสมัยเป็นดิวิชัน 1 ในฤดูกาล 1989-90

3.สตีฟ สตอนตัน - ลิเวอร์พูล (1986-91 และ 1998-2000) และ แอสตัน วิลลา (1991-98 และ 2000-03)
อดีตกองหลังทีมชาติไอร์แลนด์ ที่ติดธงมากที่สุด รวมถึงเป็นอดีตกุนซือ “ยักษ์เขียว” ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกกับ ลิเวอร์พูล ในปี 1990 รวมถึง เอฟเอ คัพ ในปีก่อนหน้านั้น จากนั้นจึงย้ายไปอยู่กับ แอสตัน วิลลา พาทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ สองสมัยในปี 1994 และ 1996

4.แฟรงค์ แม็คอเวนนี - เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด (1985-87 และ 1989-92) และ กลาสโกว์ เซลติก (1987-89 และ 1993-94)
อดีตกองหน้าทีมชาติสกอตแลนด์ ภายใต้การคุมทัพของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยเป็นคู่กองหน้ากับ โทนี ค็อตตี ในทีม เวสต์แฮม พาทีมจบอันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์คือที่ 3 ยิงถึง 26 ประตูเป็นรองแค่ แกรี ลินิเกอร์ ในยุคนั้น จากนั้นย้ายไปอยู่กับ เซลติก เมื่อปี 1987 พาทีมคว้าทั้งแชมป์ลีกและบอลถ้วย

5.มาร์ก ฮิวจ์ส - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1980-86 และ 1988-95)
หอกที่มีลีลาการจบสกอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดคนหนึ่ง ถูก บาร์เซโลนา ซื้อไปในราคา 2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 98 ล้านบาท) หวังว่าจะไปได้สวยในการเล่นคู่กับ ลินิเกอร์ แต่ล้มเหลวก่อนถูกปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิค ยืมตัว จากนั้น เฟอร์กูสัน ก็ควักเงินเป็นสถิติสโมสร 1.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 88 ล้านบาท) ซื้อกลับมาในช่วง 2 ปีจากนั้น

6.ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ - นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (1983-87 และ 1993-97)
เบียร์ดสลีย์ สร้างชื่อกับ นิวคาสเซิล ก่อนย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะกลับมาอยู่ในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค อีกครั้งในปี 1993 เพื่อร่วมงานกับเพื่อนร่วมทีมเก่าที่ผันตัวเองมาเป็นกุนซือก็คือ เควิน คีแกน ถือเป็นมิดฟิลด์จอมถล่มประตู เพราะยิงให้ "สาลิกาดง" 2 ช่วงเวลารวม 117 ประตูจาก 321 นัด

7.แกรม เลอ โซ - เชลซี (1987-93 และ 1997-2003)
อดีตแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของ อังกฤษ โดดเด่นในการเติมขึ้นมาเปิดบอลและยิงประตู ย้ายออกจาก เชลซี ไปคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป กับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส จากนั้นจึงถูกซื้อกลับมายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 1997 ด้วยราคา 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 245 ล้านบาท) ซื้อถือเป็นแนวรับที่แพงมากในเวลานั้น

8.เดวิด แบ็ตตี - ลีดส์ ยูไนเต็ด (1987-93 และ 1998-2004)
กองกลางพันธุ์ดุที่เคยจะต่อยกับเพื่อนร่วมทีมเดียวกันมาแล้ว สร้างชื่อกับ ลีดส์ ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กลับมาอยู่ในถิ่น เอลแลนด์ โรด อีกครั้งในช่วงรุ่งเรืองเมื่อผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ก่อนจะล่มสลายตกชั้นนักเตะกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง

9.ร็อบบี ฟาวเลอร์ - ลิเวอร์พูล (1993-2001 และ 2006-07)
ดาวยิง “สเกาเซอร์” ที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล รักมากที่สุดคนหนึ่ง ย้ายทีมท่ามกลางความช็อกไปอยู่กับ ลีดส์ ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 539 ล้านบาท) ก่อนระหกระเหินไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี จากนั้นหอกฉายา “เดอะ ก็อด” จึงกลับมายัง แอนฟิลด์ ในยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ

10.ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ - แมนเชสเตอร์ ซิตี (1999-2005 และ 2008-ปัจจุบัน)
ปีกร่างเล็กระเบิดฟอร์มสุดยอดกับ แมนฯซิตี ก่อนย้ายไปอยู่กับ เชลซี แต่เหมือนเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองเมื่อไม่ค่อยมีโอกาสลงสนามในช่วง 3 ปีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้หลุดจากทีมชาติอังกฤษ ก่อนกลับมาอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” อีกครั้งที่ฟันกำไรจากการขายและซื้อกลับไปเบาะๆ 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 784 ล้านบาท)
มาร์ค ฮิวจ์ส
เบียร์ดสลีย์
กำลังโหลดความคิดเห็น