นิโกลาส์ อเนลกา กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเบิ้ลสกอร์ช่วยให้ “สิงห์บลูส์” เชลซี บุกตะปบ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 ทวงจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนมาจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-2 เชลซี
หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี นำทัพ “สิงห์บลุส์” เชลซี บุกเยือน อีวูด ปาร์ค ของ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส โดยทีมเยือนส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามขาดไปเพียง แอชลีย์ โคล จึงให้ทาง เวย์น บริดจ์ ประจำการ ส่วนแนวรุกยังใช้ นิโกลาส์ อเนลกา เป็นหน้าเป้าเนื่องจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา ยังไม่ฟิต ด้าน พอล อินซ์ กุนซือเจ้าบ้านเจอปัญหาแดนหน้าขาดทั้ง โรเก ซานตา ครูซ ที่เจ็บ เบนนี แม็คคาร์ธี ติดโทษแบนต้องห้อย เจสัน โรเบิร์ตส ไว้คนเดียว และก็มี มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน ช่วยปั้นเกมให้
เริ่มเกมการแข่งขันมีฝนเทลงมา และความผิดพลาดในแผงรับที่ส่งบอลคืนหลังไม่ดีเกือบทำให้ แบล็คเบิร์น ต้องเสียจุดโทษ พอล โรบินสัน ตวัดขากวาด นิโกลาส์ อเนลกา ล้มลงไปแต่ คริส ฟอย เมินให้จุดโทษแก่ทีมเยือน จากนั้น เชลซี ครองเกมบุกใส่เป็นชุด โฮเซ โบซิงวา เปิดให้ อเนลกา โขกกดลงพื้น โรบินสัน ต้องใช้เท้าสกัดออกมา นาทีที่ 12 ฟลอรองต์ มาลูดา เปิดฟรีคิกไปเสาสองให้ จอห์น โอบี มิเกล กระโดดเขกบอลชนเสาออกมาอีก
ผ่านครึ่งทางครึ่งแรก ฝนยังเทกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง แฟรงค์ แลมพาร์ด สบโอกาสลองยิงจากกรอบโทษแต่ โรบินสัน ยังปัดบอลพ้นอันตรายไป นาทีถัดมาจังหวะสวนของ “กุหลาบไฟ” ใกล้เคียงกับการได้ประตูนำเป็นที่สุด มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน จ่ายตัดเข้าในให้ คาร์ลอส บียานวยบา ตวัดยิงด้วยซ้าย ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟทุบบอลทิ้งได้ นาทีที่ 32 “สิงห์บลูส์” โต้กลับเกือบได้ผล ซาโลมอน คาลู ไหลให้ อเนลกาส์ ล็อคหลบ ไรอัน นีลเซน ยิงเต็มเท้าแต่ โรบินสัน ยังคงเหนียวหนึบ
หลังจากที่บี้อยู่นานถึงนาทีที่ 39 เชลซี ได้ประตูนำ 1-0 จนได้ เมื่อ คาลู ตัดสินใจตะบันไกลบอลแฉลบมือ อเนลกา เปลี่ยนทางเข้าประตูไปโดยที่ โรบินสัน พยายามยกมือฟ้องผู้ตัดสิน แต่ ฟอย เป่าให้ทีมเยือนได้ประตู ท้ายครึ่งแรกแฟนๆ เจ้าถิ่นร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็น พีเดอร์เซน โดนทาง โบซิงวา เหนี่ยวล้มไปแต่ไม่มีเสียงนกหวีดดังขึ้น จากนั้น แบล็คเบิร์น ต้องเปลี่ยนเอา อารอน โมโคเอนนา ลงมาตัดเกมแดนกลางแทน วินเชนโซ เกรลลา ที่บาดเจ็บ จบ 45 นาทีแรกทีมเยือนถือควาได้เปรียบเอาไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง พอล อินซ์ ปรับหมากให้เจ้าถิ่นทันทีเติม แมตต์ ดาร์บีเชียร์ ไปล่าตาข่ายและถอดกลางอย่าง คีธ แอนดรูว์ส ออกมา จากนั้น แบล็คเบิร์น ก็เปิดฉากลุยใส่ นาทีที่ 53 ก็ได้ลุ้นอีกครั้ง พีเดอร์เซน ชิปบอลเข้าเขตโทษให้ เจสัน โรเบิร์ตส พลิกหลบเข้าไปยิงแต่ เช็ก พุ่งมาใช้ตัวบล็อกเอาไว้ได้ ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เชลซี เน้นการตั้งรับให้เหนียวแน่นเป็นหลักทำให้ “กุหลาบไฟ” ได้ครองบอลค่อนข้างมากแต่จังหวะสุดท้ายยังเจาะเข้าทำได้ไม่ดีพอ ถึงนาทีที่ 68 “สิงห์บลูส์” ฉวยโอกาสหนีห่างเป็น 2-0 แลมพาร์ด สไลด์ต่อให้ อเนลกา หลุดไปชิบผ่าน โรบินสัน เข้าไป
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายเจ้าบ้านทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง ร็อบบี ฟาวเลอร์ ศูนย์หน้าตัวเก๋ามาเล่นแทน โรเบิร์ตส แต่รูปเกมไม่ดีขึ้นแทบเกือบโดน “สิงห์บลูส์” เล่นงานอีกแต่ลูกดีดของ เดโก ซูซา หลุดสามเหลี่ยมไปนิดเดียว อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที เชลซี ประคองตัวคว้าชัยกลับบ้านมีเพิ่มเป็น 29 คะแนนจากการลงสนาม 12 นัด แซงทาง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ด้วยประตูได้-เสียที่ดีกว่า ขณะที่ แบล็คเบิร์น มีอยู่ 13 แต้มรั้งอันดับ 14 ดังเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , แดนนี ซิมป์สัน , ไรอัน นีลเซน , ซูรับ คิซานิชวิลี , มาร์ติน โอลส์สัน , มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน , วินเชนโซ เกรลลา , คีธ แอนดรูว์ส , คาร์ลอส บียานวยบา , สตีเฟน วอร์น็อค , เจสัน โรเบิร์ตส
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , เวย์น บริดจ์ , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , เดโก ซูซา , ซาโลมอน คาลู , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่อื่นประจำคืนวันอาทิตย์
แอสตัน วิลลา 1-2 มิดเดิลสโบรช์
[0-1 : ตุกาย ซานลี (น.34) , 1-1 : สตีฟ ซิดเวลล์ (น.37) , 1-2 : ตุนกาย ซานลี (น.88)]
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-2 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
[1-0 : โรบินโญ (น.15) , 1-1 : ดาร์เรน เบนท์ (น.29) , 1-2 : ดาร์เรน เบนท์ (น.64)]
ฟูแลม 2-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : แอนดี จอห์นสัน (น.23) , 1-1 : โชลา อเมโอบี (น.57) , 2-1 : แดนนี เมอร์ฟี (จุดโทษ น.65)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-2 เชลซี
หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี นำทัพ “สิงห์บลุส์” เชลซี บุกเยือน อีวูด ปาร์ค ของ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส โดยทีมเยือนส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามขาดไปเพียง แอชลีย์ โคล จึงให้ทาง เวย์น บริดจ์ ประจำการ ส่วนแนวรุกยังใช้ นิโกลาส์ อเนลกา เป็นหน้าเป้าเนื่องจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา ยังไม่ฟิต ด้าน พอล อินซ์ กุนซือเจ้าบ้านเจอปัญหาแดนหน้าขาดทั้ง โรเก ซานตา ครูซ ที่เจ็บ เบนนี แม็คคาร์ธี ติดโทษแบนต้องห้อย เจสัน โรเบิร์ตส ไว้คนเดียว และก็มี มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน ช่วยปั้นเกมให้
เริ่มเกมการแข่งขันมีฝนเทลงมา และความผิดพลาดในแผงรับที่ส่งบอลคืนหลังไม่ดีเกือบทำให้ แบล็คเบิร์น ต้องเสียจุดโทษ พอล โรบินสัน ตวัดขากวาด นิโกลาส์ อเนลกา ล้มลงไปแต่ คริส ฟอย เมินให้จุดโทษแก่ทีมเยือน จากนั้น เชลซี ครองเกมบุกใส่เป็นชุด โฮเซ โบซิงวา เปิดให้ อเนลกา โขกกดลงพื้น โรบินสัน ต้องใช้เท้าสกัดออกมา นาทีที่ 12 ฟลอรองต์ มาลูดา เปิดฟรีคิกไปเสาสองให้ จอห์น โอบี มิเกล กระโดดเขกบอลชนเสาออกมาอีก
ผ่านครึ่งทางครึ่งแรก ฝนยังเทกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง แฟรงค์ แลมพาร์ด สบโอกาสลองยิงจากกรอบโทษแต่ โรบินสัน ยังปัดบอลพ้นอันตรายไป นาทีถัดมาจังหวะสวนของ “กุหลาบไฟ” ใกล้เคียงกับการได้ประตูนำเป็นที่สุด มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน จ่ายตัดเข้าในให้ คาร์ลอส บียานวยบา ตวัดยิงด้วยซ้าย ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟทุบบอลทิ้งได้ นาทีที่ 32 “สิงห์บลูส์” โต้กลับเกือบได้ผล ซาโลมอน คาลู ไหลให้ อเนลกาส์ ล็อคหลบ ไรอัน นีลเซน ยิงเต็มเท้าแต่ โรบินสัน ยังคงเหนียวหนึบ
หลังจากที่บี้อยู่นานถึงนาทีที่ 39 เชลซี ได้ประตูนำ 1-0 จนได้ เมื่อ คาลู ตัดสินใจตะบันไกลบอลแฉลบมือ อเนลกา เปลี่ยนทางเข้าประตูไปโดยที่ โรบินสัน พยายามยกมือฟ้องผู้ตัดสิน แต่ ฟอย เป่าให้ทีมเยือนได้ประตู ท้ายครึ่งแรกแฟนๆ เจ้าถิ่นร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็น พีเดอร์เซน โดนทาง โบซิงวา เหนี่ยวล้มไปแต่ไม่มีเสียงนกหวีดดังขึ้น จากนั้น แบล็คเบิร์น ต้องเปลี่ยนเอา อารอน โมโคเอนนา ลงมาตัดเกมแดนกลางแทน วินเชนโซ เกรลลา ที่บาดเจ็บ จบ 45 นาทีแรกทีมเยือนถือควาได้เปรียบเอาไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง พอล อินซ์ ปรับหมากให้เจ้าถิ่นทันทีเติม แมตต์ ดาร์บีเชียร์ ไปล่าตาข่ายและถอดกลางอย่าง คีธ แอนดรูว์ส ออกมา จากนั้น แบล็คเบิร์น ก็เปิดฉากลุยใส่ นาทีที่ 53 ก็ได้ลุ้นอีกครั้ง พีเดอร์เซน ชิปบอลเข้าเขตโทษให้ เจสัน โรเบิร์ตส พลิกหลบเข้าไปยิงแต่ เช็ก พุ่งมาใช้ตัวบล็อกเอาไว้ได้ ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เชลซี เน้นการตั้งรับให้เหนียวแน่นเป็นหลักทำให้ “กุหลาบไฟ” ได้ครองบอลค่อนข้างมากแต่จังหวะสุดท้ายยังเจาะเข้าทำได้ไม่ดีพอ ถึงนาทีที่ 68 “สิงห์บลูส์” ฉวยโอกาสหนีห่างเป็น 2-0 แลมพาร์ด สไลด์ต่อให้ อเนลกา หลุดไปชิบผ่าน โรบินสัน เข้าไป
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายเจ้าบ้านทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง ร็อบบี ฟาวเลอร์ ศูนย์หน้าตัวเก๋ามาเล่นแทน โรเบิร์ตส แต่รูปเกมไม่ดีขึ้นแทบเกือบโดน “สิงห์บลูส์” เล่นงานอีกแต่ลูกดีดของ เดโก ซูซา หลุดสามเหลี่ยมไปนิดเดียว อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที เชลซี ประคองตัวคว้าชัยกลับบ้านมีเพิ่มเป็น 29 คะแนนจากการลงสนาม 12 นัด แซงทาง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ด้วยประตูได้-เสียที่ดีกว่า ขณะที่ แบล็คเบิร์น มีอยู่ 13 แต้มรั้งอันดับ 14 ดังเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , แดนนี ซิมป์สัน , ไรอัน นีลเซน , ซูรับ คิซานิชวิลี , มาร์ติน โอลส์สัน , มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน , วินเชนโซ เกรลลา , คีธ แอนดรูว์ส , คาร์ลอส บียานวยบา , สตีเฟน วอร์น็อค , เจสัน โรเบิร์ตส
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , เวย์น บริดจ์ , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , เดโก ซูซา , ซาโลมอน คาลู , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่อื่นประจำคืนวันอาทิตย์
แอสตัน วิลลา 1-2 มิดเดิลสโบรช์
[0-1 : ตุกาย ซานลี (น.34) , 1-1 : สตีฟ ซิดเวลล์ (น.37) , 1-2 : ตุนกาย ซานลี (น.88)]
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-2 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
[1-0 : โรบินโญ (น.15) , 1-1 : ดาร์เรน เบนท์ (น.29) , 1-2 : ดาร์เรน เบนท์ (น.64)]
ฟูแลม 2-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : แอนดี จอห์นสัน (น.23) , 1-1 : โชลา อเมโอบี (น.57) , 2-1 : แดนนี เมอร์ฟี (จุดโทษ น.65)]