“สิงห์บลูส์” เชลซี แม้ประสบปัญหาตัวผู้เล่นบาดเจ็บเป็นกระบิ แต่ยังโชว์ทีเด็ดบุกไปขย้ำ “สิงห์แดง” มิดเดิลสโบรช์ ถึงรัง 5-0 ยึดจ่าฝูงศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
มิดเดิลสโบรช์ 0-5 เชลซี
แกเร็ธ เซาธ์เกต นำทัพ “สิงห์แดง” มิดเดิลสโบรช์ เปิดสนามริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “สิงห์บลูส์” เชลซี จ่าฝูง โดยเกมนี้เจ้าถิ่นปรับแท็คติกเล็กน้อยด้วยการดัน เฌเรมี อาลิยาดิแยร์ ขึ้นไปยืนหน้าร่วมกับ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด ทำให้ อฟองโซ อัลเวส ต้องรอโอกาสอยู่ข้างสนาม ด้าน หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ประสบปัญหาในการจัดทีมเยือน เพราะขาดตัวหลักหลายรายทั้ง ปีเตอร์ เช็ก, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, มิชาเอล บัลลัค, โจ โคล รวมถึง ดิดิเยร์ ดร็อกบา แต่ก็ได้ จอห์น เทอร์รี กัปตันทีมหายเจ็บกลับมาค้ำหลัง
เริ่มเกมการแข่งขันผู้มาเยือนได้ลุ้นก่อนทันที แฟรงค์ แลมพาร์ด โยนฟรีคิกให้ อเล็กซ์ ดันขึ้นมาโหม่งข้ามคาน แต่ถึงนาทีที่ 14 “สิงห์บลูส์” ตะปบบนำ 1-0 เมื่อ เวย์น บริดจ์ เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายก่อนโยนข้ามฟากไปเสาสองหลุดให้ ชูเลียโน เบลเล็ตติ ยิงไปติดบล็อกคู่เซ็นเตอร์ มิดเดิลสโบรช์ กระเด้งมาเข้าทาง ซาโลมอน คาลู แปบอลผ่านมือ รอสส์ เทิร์นบูลล์ เข้าไปตุงตาข่าย อีกหกนาทีถัดมา เชลซี มีโอกาสอีกครั้ง ฟลอรองต์ มาลูดา แตะเข้ากลางก่อนแทงทะลุให้ นิโกลาส์ อเนลกา สับด้วยขวาทันทีในกรอบโทษแต่ เทิร์นบูลล์ คุมเสาแรกรับไว้ได้
นาทีที่ 24 ทีมเยือนทิ้งโอกาสนำห่าง มาลูดา กระชากไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบไปเสาสองให้ แลมพาร์ด ยิงจ่อๆ แฉลบบล็อกกองหลังเจ้าถิ่นออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป “สิงห์แดง” พยายามดันเกมขึ้นมาสู้แต่การต่อบอลยังไม่ดีเท่าที่ควร แถมเกือบโดนจังหวะสวนกลับเล่นงาน แต่ มาลูดา ตัดสินใจลากไปยิงหักข้อหลุดกรอบไป โอกาสยังเป็นของผู้มาเยือนจากมหานครลอนดอนแทบจะฝ่ายเดียว มาลูดา รับส้มหล่นบอลกระฉอกมาเข้าทางอัดด้วยซ้ายบอลแฉลบออกหลังไปอีก อย่างไรก็ตาม จบครึ่งแรกรองแชมป์เก่ายังได้เปรียบเรื่องของสกอร์
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง มิดเดิลสโบรช์ ดันเกมรุกสู้ทันทีและก็มีโอกาสส่องให้แฟนๆ ได้ลุ้นแต่ลูกตัดเข้ายิงของ สจวร์ต ดาวนิง เหินข้ามคานไป นาทีที่ 49 เชลซี ทิ้งโอกาสนำห่างอีกครั้งเมื่อ คาร์โล คูดิชินี เปิดเกมเร็วด้วยการขว้างยาวให้ คาลู กระชากหนี โจนาธาน กราวน์ด แต่จังหวะจะยิงในกรอบโทษแบ็กดาวรุ่งเจ้าบ้านแก้ตัวด้วยการแหย่เท้าสกัดบอลออกหลังไปหวุดหวิด แต่อีกสองนาที “สิงห์บลูส์” หนีไป 2-0 จนได้จากการยิงไกลอันสุดสวยของ เบลเล็ตติ
นาทีที่ 53 สกอร์ไหลเป็นน้ำ เชลซี ทิ้งไปไกล 3-0 มาลูดา แปะบอลคืนให้ คาลู อัดบอลแฉลบหน้าอก เดวิด วีเธอร์ เข้าไปตุงตาข่าย จากนั้น แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องแก้ปัญหาเกมรับให้เจ้าถิ่นด้วยการส่ง จอห์น จอห์นสัน ลงมาเล่นเกมรับแทน กราวน์ด ที่ตามเกมของทีมเยือนไม่ค่อยทัน มิดเดิลสโบรช์ พยายามสู้ตามเสียงเชียร์ของแฟนๆ เฌเรมี อาลิยาดิแยร์ หลุดขึ้นไปยิงที่เสาแรกไม่ผ่านเซฟ คูดิชินี เกมเริ่มที่จะเปิด “สิงห์บลูส์” ได้สวนกลับอีกครั้ง โฮเซ โบซิงวา ปาดเข้ากลางให้ เบลเล็ตติ ตวัดยิงอีกครั้งคราวนี้เหินข้ามคานไปไกล
ดูเหมือนอะไรก็จะหยุด เชลซี ไม่ได้เสียแล้ว อเนลกา ชิ่งเร็วให้ คาลู เปิดบอลให้ แลมพาร์ด พุ่งโหม่งลูกหนังผ่านมือ เทิร์นบูลล์ เข้าไปเป็น 4-0 ในนาทีที่ 63 เซาธ์เกต มาแก้เกมเอาเมื่อสายส่ง ดิดิเยร์ ดิการ์ และ อฟองโซ อัลเวส ลงมาเล่นแทน โมฮาเหม็ด ชอว์กี และ อดัม จอห์นสัน ด้าน หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ปรับหมากบ้างส่ง เปาโล แฟร์เรรา มาเล่นเกมรับแทน บริดจ์ ซึ่งนัดนี้ทำหน้าที่แทน แอชลีย์ โคล ได้ค่อนข้างดี
แต่อีกสี่นาทีถัดมา เชลซี สวนกลับและก็ส่งผลนำไปไกล 5-0 อเนลกา ยิงบริเวณกรอบโทษ เทิร์นบูลล์ รับบอลกระฉอกไปชนเสา มาลูดา อาศัยความปราดเปรียวซ้ำบอลจ่อๆ ไม่เหลือ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย ตาข่ายเจ้าถิ่นสะเทือนอีกครั้งแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธง อเนลกา ล้ำหน้าเสียก่อน ท้ายเกม “สิงห์แดง” พยายามทวงหาประตูตีไข่แตกแต่ไม่สำเร็จเมื่อครบ 90 นาที ซึ่งจากชัยชนะถล่มทลายทำให้ “สิงห์บลูส์” ยึดจ่าฝูงไว้ต่อไปด้วยการมีเพิ่มเป็น 20 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด ขณะที่ มิดเดิลสโบรช์ มีอยู่ 9 แต้มดังเดิม หล่นมาอยู่ที่อันดับ 13
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
มิดเดิลสโบรช์ : รอสส์ เทิร์นบูลล์ , แอนดรูว์ เทย์เลอร์ , เดวิด วีเธอร์ , คริส ริกกอตต์ , โจนาธาน กราวน์ด , อดัม จอห์นสัน , โมฮาเหม็ด ชอว์กี , แกรี โอนีล , สจวร์ต ดาวนิง , เฌเรมี อาลิยาดิแยร์ , อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด
เชลซี : คาร์โล คูดิชินี , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , เวย์น บริดจ์ , ชูเลียโน เบลเล็ตติ , แฟรงค์ แลมพาร์ด , จอห์น โอบี มิเกล , ซาโลมอน คาลู , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
มิดเดิลสโบรช์ 0-5 เชลซี
[0-1 : ซาโลมอน คาลู (น.14) , 0-2 : ชูเลียโน เบลเล็ตติ (น.51) , 0-3 : ซาโลมอน คาลู (น.53) , 0-4 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.63) , 0-5 : ฟลอรองต์ มาลูดา (น.67)]
อาร์เซนอล 3-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : ลีออน ออสแมน (น.9) , 1-1 : ซาเมียร์ นาสรี (น.48) , 2-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.70) , 3-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.90)]
แอสตัน วิลลา 0-0 ปอร์ทสมัธ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ฟูแลม 0-0 ซันเดอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล 3-2 วีแกน แอธเลติก
[0-1 : อาเมอร์ ซากิ (น.29) , 1-1 : เดิร์ค เคาท์ (น.37) , 1-2 : อาเมอร์ ซากิ (น.45) , 2-2 : อัลเบิร์ต ริเอรา (น.80) , 3-2 : เดิร์ก เคาท์ (น.85)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : เวย์น รูนีย์ (น.56) , 2-0 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.69) , 3-0 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.71) , 4-0 : หลุยส์ นานี (น.90)]
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
มิดเดิลสโบรช์ 0-5 เชลซี
แกเร็ธ เซาธ์เกต นำทัพ “สิงห์แดง” มิดเดิลสโบรช์ เปิดสนามริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “สิงห์บลูส์” เชลซี จ่าฝูง โดยเกมนี้เจ้าถิ่นปรับแท็คติกเล็กน้อยด้วยการดัน เฌเรมี อาลิยาดิแยร์ ขึ้นไปยืนหน้าร่วมกับ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด ทำให้ อฟองโซ อัลเวส ต้องรอโอกาสอยู่ข้างสนาม ด้าน หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ประสบปัญหาในการจัดทีมเยือน เพราะขาดตัวหลักหลายรายทั้ง ปีเตอร์ เช็ก, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, มิชาเอล บัลลัค, โจ โคล รวมถึง ดิดิเยร์ ดร็อกบา แต่ก็ได้ จอห์น เทอร์รี กัปตันทีมหายเจ็บกลับมาค้ำหลัง
เริ่มเกมการแข่งขันผู้มาเยือนได้ลุ้นก่อนทันที แฟรงค์ แลมพาร์ด โยนฟรีคิกให้ อเล็กซ์ ดันขึ้นมาโหม่งข้ามคาน แต่ถึงนาทีที่ 14 “สิงห์บลูส์” ตะปบบนำ 1-0 เมื่อ เวย์น บริดจ์ เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายก่อนโยนข้ามฟากไปเสาสองหลุดให้ ชูเลียโน เบลเล็ตติ ยิงไปติดบล็อกคู่เซ็นเตอร์ มิดเดิลสโบรช์ กระเด้งมาเข้าทาง ซาโลมอน คาลู แปบอลผ่านมือ รอสส์ เทิร์นบูลล์ เข้าไปตุงตาข่าย อีกหกนาทีถัดมา เชลซี มีโอกาสอีกครั้ง ฟลอรองต์ มาลูดา แตะเข้ากลางก่อนแทงทะลุให้ นิโกลาส์ อเนลกา สับด้วยขวาทันทีในกรอบโทษแต่ เทิร์นบูลล์ คุมเสาแรกรับไว้ได้
นาทีที่ 24 ทีมเยือนทิ้งโอกาสนำห่าง มาลูดา กระชากไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบไปเสาสองให้ แลมพาร์ด ยิงจ่อๆ แฉลบบล็อกกองหลังเจ้าถิ่นออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป “สิงห์แดง” พยายามดันเกมขึ้นมาสู้แต่การต่อบอลยังไม่ดีเท่าที่ควร แถมเกือบโดนจังหวะสวนกลับเล่นงาน แต่ มาลูดา ตัดสินใจลากไปยิงหักข้อหลุดกรอบไป โอกาสยังเป็นของผู้มาเยือนจากมหานครลอนดอนแทบจะฝ่ายเดียว มาลูดา รับส้มหล่นบอลกระฉอกมาเข้าทางอัดด้วยซ้ายบอลแฉลบออกหลังไปอีก อย่างไรก็ตาม จบครึ่งแรกรองแชมป์เก่ายังได้เปรียบเรื่องของสกอร์
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง มิดเดิลสโบรช์ ดันเกมรุกสู้ทันทีและก็มีโอกาสส่องให้แฟนๆ ได้ลุ้นแต่ลูกตัดเข้ายิงของ สจวร์ต ดาวนิง เหินข้ามคานไป นาทีที่ 49 เชลซี ทิ้งโอกาสนำห่างอีกครั้งเมื่อ คาร์โล คูดิชินี เปิดเกมเร็วด้วยการขว้างยาวให้ คาลู กระชากหนี โจนาธาน กราวน์ด แต่จังหวะจะยิงในกรอบโทษแบ็กดาวรุ่งเจ้าบ้านแก้ตัวด้วยการแหย่เท้าสกัดบอลออกหลังไปหวุดหวิด แต่อีกสองนาที “สิงห์บลูส์” หนีไป 2-0 จนได้จากการยิงไกลอันสุดสวยของ เบลเล็ตติ
นาทีที่ 53 สกอร์ไหลเป็นน้ำ เชลซี ทิ้งไปไกล 3-0 มาลูดา แปะบอลคืนให้ คาลู อัดบอลแฉลบหน้าอก เดวิด วีเธอร์ เข้าไปตุงตาข่าย จากนั้น แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องแก้ปัญหาเกมรับให้เจ้าถิ่นด้วยการส่ง จอห์น จอห์นสัน ลงมาเล่นเกมรับแทน กราวน์ด ที่ตามเกมของทีมเยือนไม่ค่อยทัน มิดเดิลสโบรช์ พยายามสู้ตามเสียงเชียร์ของแฟนๆ เฌเรมี อาลิยาดิแยร์ หลุดขึ้นไปยิงที่เสาแรกไม่ผ่านเซฟ คูดิชินี เกมเริ่มที่จะเปิด “สิงห์บลูส์” ได้สวนกลับอีกครั้ง โฮเซ โบซิงวา ปาดเข้ากลางให้ เบลเล็ตติ ตวัดยิงอีกครั้งคราวนี้เหินข้ามคานไปไกล
ดูเหมือนอะไรก็จะหยุด เชลซี ไม่ได้เสียแล้ว อเนลกา ชิ่งเร็วให้ คาลู เปิดบอลให้ แลมพาร์ด พุ่งโหม่งลูกหนังผ่านมือ เทิร์นบูลล์ เข้าไปเป็น 4-0 ในนาทีที่ 63 เซาธ์เกต มาแก้เกมเอาเมื่อสายส่ง ดิดิเยร์ ดิการ์ และ อฟองโซ อัลเวส ลงมาเล่นแทน โมฮาเหม็ด ชอว์กี และ อดัม จอห์นสัน ด้าน หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ปรับหมากบ้างส่ง เปาโล แฟร์เรรา มาเล่นเกมรับแทน บริดจ์ ซึ่งนัดนี้ทำหน้าที่แทน แอชลีย์ โคล ได้ค่อนข้างดี
แต่อีกสี่นาทีถัดมา เชลซี สวนกลับและก็ส่งผลนำไปไกล 5-0 อเนลกา ยิงบริเวณกรอบโทษ เทิร์นบูลล์ รับบอลกระฉอกไปชนเสา มาลูดา อาศัยความปราดเปรียวซ้ำบอลจ่อๆ ไม่เหลือ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย ตาข่ายเจ้าถิ่นสะเทือนอีกครั้งแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธง อเนลกา ล้ำหน้าเสียก่อน ท้ายเกม “สิงห์แดง” พยายามทวงหาประตูตีไข่แตกแต่ไม่สำเร็จเมื่อครบ 90 นาที ซึ่งจากชัยชนะถล่มทลายทำให้ “สิงห์บลูส์” ยึดจ่าฝูงไว้ต่อไปด้วยการมีเพิ่มเป็น 20 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด ขณะที่ มิดเดิลสโบรช์ มีอยู่ 9 แต้มดังเดิม หล่นมาอยู่ที่อันดับ 13
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
มิดเดิลสโบรช์ : รอสส์ เทิร์นบูลล์ , แอนดรูว์ เทย์เลอร์ , เดวิด วีเธอร์ , คริส ริกกอตต์ , โจนาธาน กราวน์ด , อดัม จอห์นสัน , โมฮาเหม็ด ชอว์กี , แกรี โอนีล , สจวร์ต ดาวนิง , เฌเรมี อาลิยาดิแยร์ , อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด
เชลซี : คาร์โล คูดิชินี , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , เวย์น บริดจ์ , ชูเลียโน เบลเล็ตติ , แฟรงค์ แลมพาร์ด , จอห์น โอบี มิเกล , ซาโลมอน คาลู , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
มิดเดิลสโบรช์ 0-5 เชลซี
[0-1 : ซาโลมอน คาลู (น.14) , 0-2 : ชูเลียโน เบลเล็ตติ (น.51) , 0-3 : ซาโลมอน คาลู (น.53) , 0-4 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.63) , 0-5 : ฟลอรองต์ มาลูดา (น.67)]
อาร์เซนอล 3-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : ลีออน ออสแมน (น.9) , 1-1 : ซาเมียร์ นาสรี (น.48) , 2-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.70) , 3-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.90)]
แอสตัน วิลลา 0-0 ปอร์ทสมัธ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ฟูแลม 0-0 ซันเดอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล 3-2 วีแกน แอธเลติก
[0-1 : อาเมอร์ ซากิ (น.29) , 1-1 : เดิร์ค เคาท์ (น.37) , 1-2 : อาเมอร์ ซากิ (น.45) , 2-2 : อัลเบิร์ต ริเอรา (น.80) , 3-2 : เดิร์ก เคาท์ (น.85)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : เวย์น รูนีย์ (น.56) , 2-0 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.69) , 3-0 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.71) , 4-0 : หลุยส์ นานี (น.90)]