พอล-อองรี มาติเยอ นักเทนนิสมือ 29 ของโลกชาวฝรั่งเศสออกมาตำหนิแฟนเทนนิสชาวบอสเนียว่าใช้ความรุนแรงอีกทั้งยังดื่มสุรากลางคอร์ตเทนนิสสร้างความอัปยศอดสูให้แก่ ออสเตรเลียน โอเพน 2009
เมื่อวันพุธที่ 21 มกราคมที่ผ่านมาแฟนเทนนิสบอสเนียสร้างความวุ่นวายด้วยการขว้างปาสิ่งของและตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายระหว่างแมตช์ชายเดี่ยวรอบ 2 ที่ พอล-อองรี มาติเยอ แพ้ให้กับ อาเมอร์ เดลิช หวดสหรัฐฯเชื้อสายบอสเนียน 2-3 เซต 6-1, 6-3, 3-6, 6-7(3/7), 7-9 ภายในคอร์ต 13 ของเมลเบิร์น ปาร์ค เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ต้องตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยเป็นการใหญ่
ล่าสุดในวันนี้ มาติเยอ ได้ออกมาตำหนิว่าความรุนเเรงของแฟนชาวบอสเนียได้สร้างความอัปยศอดสูให้แก่วงการเทนนิส พร้อมสวดต่อเป็นชุดว่าการนำสุราเข้ามาดื่มในสนามแข่งขันตอนบ่ายโมงตรงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
“ผมละอายแทนทุกคนในวงการเทนนิสที่ได้รับรู้และได้เห็นว่ามีแฟนอันธพาลแบบนี้เล็ดลอดเข้ามาในสนามแข่งขันแกรนด์สแลม” มาติเยอ หัวเสียอย่างหนักพร้อมตำหนิต่อเนื่องว่า "ถ้าอยากฉลองสังสรรค์กัน ทำไมไม่ไปผับไปบาร์ให้มันสิ้นเรื่อง มาดื่มว็อดกาในสนามเทนนิสตอนบ่ายโมงตรงมันใช่เรื่องที่คนเจริญเเล้วเขาทำกันรึเปล่า !"
"เมื่อวานนี้ในเซตที่ 5 ตอนผมขอไปเข้าห้องน้ำ คุณรู้ไหม ? ผมโดนเอาขวดว็อดกาปาใส่ศรีษะ แล้วผมเรียกร้องอะไรจากใครได้ ตำรวจก็จัดการไม่ได้” หวดฝรั่งเศสฉุนจัดทิ้งท้าย
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้(23 ม.ค.) เดลิช หวดเชื้อสายบอสเนีย มีโปรแกรมลงเล่นชายเดี่ยวรอบ 3 พบกับ โนวัค ยอโควิช มือ 3 ของโลกชาวเซอร์เบีย ส่งผลให้ฝ่ายจัดการแข่งขันและตำรวจวิกตอเรียจำเป็นต้องเสริมกำลังป้องกันเหตุไม่คาดฝันเนื่องจากทั้ง เซอร์เบีย และ บอสเนีย เป็นประเทศคู่อาฆาตของกันละกันมายาวนานนับตั้งแต่บอสเนียแยกตัวออกไปในปี 1992