อาเมอร์ เดลิช นักหวดลูกสักหลาดชาวอเมริกันที่เกิดในบอสเนีย ไม่อยากเห็นสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในเทนนิสออสเตรเลียน โอเพน หลังจากบรรดากองเชียร์ชาวเซิร์บ, โครแอต และบอสเนียน เปิดฉากสาดสงครามน้ำลายส่อมีเรื่องกัน
ศึกเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพน แกรนด์สแลมรายการแรกของปี 2009 ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเดือดระอุพอสมควร โดยแมตช์ที่ มาริน ซิลิช (มือ 19 ,โครเอเชีย) เอาชนะ ยานโก ทิปซาเรวิช (เซอร์เบีย) 3-1 เซต 6-2, 6-3, 4-6, 6-3 ปรากฏว่าแฟนเทนนิสของทั้งสองฝั่งทำสงครามน้ำลายใส่กันร้อนถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ในแมตช์ที่ อาเมอร์ เดลิช พิชิตชัยเหนือ ปอล-อองรี มาติเยอ (มือ 28 , ฝรั่งเศส) 3-2 เซต 1-6, 3-6, 6-3, 7-6(7/3), 9-7 เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องตรึงสถานการณ์เอาไว้เนื่องจากไม่แน่ใจว่าแฟนๆ ทั้งชาวเซิร์บและโครแอตจะมีปฏิกิริยาอะไรรุนแรงกับบรรดากองเชียร์ชาวบอสเนียนหรือไม่
ภายหลังการแข่งขัน เดลิช ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงวิตก เพราะรอบสามต้องเข้าไปเจอกับ โนวัค ยอโควิช มือวางอันดับ 3 ของโลกชาวเซิร์บ “เรื่องที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ผมจะพยายามบอกกับแฟนๆ เราไม่ต้องการให้เรื่องขายหน้าประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ผมหวังว่า โนวัค จะพูดบางสิ่งบางอย่างกับแฟนๆ ชาวเซิร์บเช่นกัน เราอยากให้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง มันไม่ใช่ความผิดของผม และก็ไม่ใช่ความผิดของ โนวัค เช่นกัน”
ด้าน ทิปซาเรวิช กล่าวบ้าง “เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่ผมคาดไว้แล้ว นี่เป็นแมตช์ที่ดุเดือดเอาจริงเอาจัง กองเชียร์ชาวเซิร์บและโครแอตต่างตะโกนร้องเพลงที่ไม่เหมาะสมนัก อาจมีคำหยาบคายใส่ผู้เล่น แต่ก็ยังดีที่ไม่มีเสียงปรบมือระหว่างการเสิร์ฟครั้งแรกและหนที่สอง ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในแต้มสำคัญ เมื่อจบแมตช์ผมเดินไปคุยกับ ซิลิช ที่หน้าเนต เขาพูดขึ้นว่าไม่รู้ผมคิดอย่างไร แต่สำหรับตัวเขาแล้วถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควรกับการต้องเล่นเทนนิสในสถานการณ์แบบนี้”
ศึกเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพน แกรนด์สแลมรายการแรกของปี 2009 ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเดือดระอุพอสมควร โดยแมตช์ที่ มาริน ซิลิช (มือ 19 ,โครเอเชีย) เอาชนะ ยานโก ทิปซาเรวิช (เซอร์เบีย) 3-1 เซต 6-2, 6-3, 4-6, 6-3 ปรากฏว่าแฟนเทนนิสของทั้งสองฝั่งทำสงครามน้ำลายใส่กันร้อนถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ในแมตช์ที่ อาเมอร์ เดลิช พิชิตชัยเหนือ ปอล-อองรี มาติเยอ (มือ 28 , ฝรั่งเศส) 3-2 เซต 1-6, 3-6, 6-3, 7-6(7/3), 9-7 เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องตรึงสถานการณ์เอาไว้เนื่องจากไม่แน่ใจว่าแฟนๆ ทั้งชาวเซิร์บและโครแอตจะมีปฏิกิริยาอะไรรุนแรงกับบรรดากองเชียร์ชาวบอสเนียนหรือไม่
ภายหลังการแข่งขัน เดลิช ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงวิตก เพราะรอบสามต้องเข้าไปเจอกับ โนวัค ยอโควิช มือวางอันดับ 3 ของโลกชาวเซิร์บ “เรื่องที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ผมจะพยายามบอกกับแฟนๆ เราไม่ต้องการให้เรื่องขายหน้าประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ผมหวังว่า โนวัค จะพูดบางสิ่งบางอย่างกับแฟนๆ ชาวเซิร์บเช่นกัน เราอยากให้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง มันไม่ใช่ความผิดของผม และก็ไม่ใช่ความผิดของ โนวัค เช่นกัน”
ด้าน ทิปซาเรวิช กล่าวบ้าง “เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่ผมคาดไว้แล้ว นี่เป็นแมตช์ที่ดุเดือดเอาจริงเอาจัง กองเชียร์ชาวเซิร์บและโครแอตต่างตะโกนร้องเพลงที่ไม่เหมาะสมนัก อาจมีคำหยาบคายใส่ผู้เล่น แต่ก็ยังดีที่ไม่มีเสียงปรบมือระหว่างการเสิร์ฟครั้งแรกและหนที่สอง ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในแต้มสำคัญ เมื่อจบแมตช์ผมเดินไปคุยกับ ซิลิช ที่หน้าเนต เขาพูดขึ้นว่าไม่รู้ผมคิดอย่างไร แต่สำหรับตัวเขาแล้วถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควรกับการต้องเล่นเทนนิสในสถานการณ์แบบนี้”
