เอเอฟพี - ศาลสูงสุดญี่ปุ่นพิพากษายืนคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต โทโมมิตสึ นิอิมิ แกนนำลัทธิโลกาวินาศ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการปล่อยก๊าซพิษซารินโจมตีสถานีรถไฟใต้ดินกรุงโตเกียว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บหลายพันคน เมื่อปี 1995
คำพิพากษาหมายความว่า นิอิมิ วัย 45 ปี จะเป็นสมาชิกลัทธิโอมชินริเกียวคนที่ 10 ที่จะถูกลงโทษประหารชีวิต หลังจากยื่นอุทธรณ์มาหมดแล้วกับศาลชั้นต้น ขณะที่ยังมีสมาชิกอีก 3 รายที่กำลังรอคำพิพากษา หลังยื่นอุทธรณ์ไปแล้วเช่นกัน
ศาลสูงสุดในกรุงโตเกียวพิพากษายืนคำตัดสินของศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ซึ่งตัดสินว่า นิอิมิมีความผิด 11 กระทง รวมถึงการโจมตีสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน รวมถึงการฆาตกรรมทหายคนหนึ่ง ภรรยาและลูกของตัวเอง นอกจากนี้ เขายังเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคนอีก 26 คน รวมถึงการฆาตกรรมโดยลัทธิโอมชินริเกียว แม้ว่า ทนายความของเขาจะโต้แย้งว่า เขาทำไปตามคำสั่งของโชโกะ อาซาฮารา ผู้นำลัทธิก็ตาม
การโจมตีสถานีรถไฟใต้ดินโตเกียวผ่านมา 15 ปีแล้ว แต่ นิอิมิ ยังคงบูชาผู้นำลัทธิของเขา โดย เขายังสวดมนต์ในคุก ตามรายงานของสำนักข่าวจิจิเพรส
อาซาฮารา หรือชื่อจริง ชิซูโอะ มัตซูโมโต ก่อตั้งลัทธิโอมชินริเกียวขึ้นในปี 1987 ผสมผสานหลักคำสอนจากศาสนาพุทธและฮินดู มีสาวกนับหมื่นคนทั้งในญี่ปุ่นและรัสเซีย สอนให้ใช้การฝึกจิต การเข้าสมาธิ และโยคะ เพื่อให้ถึงการรู้แจ้ง และยังมีความเชื่อเรื่องวันโลกาวินาศด้วย ขณะที่สาวกเทิดทูนเขาในฐานะเป็นพระเจ้า ปัจจุบันเขาก็กำลังถูกพิจารณาโทษประหารชีวิตเช่นกันจากคดตีโจมตีสถานีรถไฟใต้ดิน รวมถึงอาชกรรมอื่นๆ
ในต้นทศวรรษ 1990 อาซาฮาราได้ออกคำพยากรณ์ว่า จะเกิดภัยพิบัติในญี่ปุ่นและสงครามโลกครั้งที่ 3 เขาหมกมุ่นกับก๊าซพิษซารินที่พวกนาซีคิดค้นขึ้น และยังวิตกจริตว่าศัตรูจะทำร้ายตัวเขาด้วย
ทั้งนี้ โลกรู้จักลัทธิดังกล่าวจากโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นในสถานีรถไฟในกรุงโตเกียวเมื่อปี 1995 ทำให้ญี่ปุ่นต้องแก้กฎหมายเพิ่มอำนาจให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในการตรวจสอบป้องกันและให้อำนาจสั่งเลิก และยุติลัทธิพิธีที่เห็นว่าอันตรายด้วย
และตามปกติแล้ว ญี่ปุ่นจะประหารชีวิตกับนักโทษที่ก่อคดีฆาตกรรมหลายคดีเท่านั้นน และยังไม่ได้จัดการลงโทษประหารผู้ใดเลย นับตั้งแต่รัฐบาลกลางซ้ายเข้ามาบริหารประเทศในเดือนกันยายนที่แล้ว