ชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมดันทีวีกีฬาออกอากาศทางเคเบิล เลียนแบบ “ASTV” พร้อมดึงตัว วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีมานั่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว
เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันพุธที่ 24 ธันวาคม 2551 นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมามอบนโยบายให้แก่บรรดาข้าราชการ และพนักงาน ภายในสังกัด โดยมีผู้บริหารระดับสูง อาทิ ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวง นายปรีดี โชติช่วง-นายทินกร นำบุญจิตต์ รองปลัดกระทรวง รวมถึง นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าให้การต้อนรับ นอกจากนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง คนก่อน ยังเดินทางมาพร้อมกับนายชุมพลอีกด้วย
จากนั้น นายชุมพล ได้เดินทางเข้ามอบนโยบายกับเจ้าหน้าที่ภายในสังกัด ก่อนให้สัมภาษณ์เปิดใจกับบรรดาสื่อมวลชนทั้งสายกีฬาและท่องเที่ยวที่มารอรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก
โดย นายชุมพล กล่าวว่า “ผมจะไม่พยายามทำตัวเป็นผู้รู้เรื่องกีฬา และเรื่องท่องเที่ยว เพราะคงไม่มีใครรู้อะไรไปหมดทุกเรื่อง แต่ผมมาทำงานที่กระทรวงนี้ก็เพื่อมาบริหารคน บริหารงาน บริหารจัดการในทุกๆ ด้าน ไม่มีแบ่งแยกว่าเรื่องกีฬา หรือท่องเที่ยว”
“สำหรับทีมที่ปรึกษาของผมเองนั้น ตอนนี้ได้ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงนี้มาช่วยงาน คือ หลายคนอาจจะบอกว่าเขาติดโทษ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคชาติไทย แต่ผมยืนยันว่า เขาสามารถช่วยงานผมได้เป็นอย่างดี เพราะผมไม่ได้ชวนมารับตำแหน่งทางการเมือง แค่มาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว เพื่อช่วยงานราชการเท่านั่น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมาก”
นอกจากนี้ “รมว.กีฬา” คนใหม่ยังได้กล่าวต่อไปด้วยว่า “โครงการต่างๆ ที่เป็นของรัฐมนตรีคนเก่าผมจะสานงานต่อ เพราะถือเป็นโครงการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทีวีกีฬา, 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ และแผนพัฒนากีฬา 4 ปี”
“ซึ่งทีวีกีฬานั้น เราได้มีการเจรจากับทางทรูวิชันส์ ไว้เรียบร้อยแล้ว ว่า จะได้ออกอากาศ 1 ช่อง นอกจากนี้ ยังมีการคุยกับเคเบิลทีวีไว้ด้วยเช่นกันว่าอยากให้นำทีวีกีฬาไปออกอากาศด้วย เพราะต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้เคเบิลทีวีเป็นที่นิยมมาก สังเกตง่ายๆ จากกรณีพันธมิตรฯ ที่มีประชาชนมาร่วมด้วยจำนวนมาก ก็เพราะเคเบิลทีวีเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย”
ด้านแผนพัฒนากีฬาชาติระยะ 4 ปี ที่มีงบประมาณจำนวน 15,500 ล้านบาท “รมว.ชุมพล” กล่าวว่า “เรื่องนี้จะสานต่อแน่นอน เพราะเป็นแผนหลักในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เรามีการวางแผนพัฒนาเป็นระยะเวลานานๆ แต่ด้วยงบประมาณที่เป็นจำนวนมากคงต้องมีการเบิกจ่ายจากงบกลาง รวมทั้งแบ่งจ่ายจากงบประมาณรายปีด้วย”
ขณะที่ช่วงท้าย นายชุมพล ยอมรับว่า รู้สึกพอใจกับบรรยากาศการต้อนรับที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นอย่างมาก “ผมรู้สึกว่าจะชอบบรรยากาศแบบนี้เสียแล้ว ผมเคยทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงเป็นรองประธานสภา แต่สื่อมวลชนประจำกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาน่ารักกว่าทุกที่ที่เคยทำงานมา”