ในช่วงเวลาที่ “เสือเจ็บ” อย่างไทเกอร์ วู้ดส์ โปรหมายเลขหนึ่งโลกพักรักษาอาการบาดเจ็บหัวเข่าภายหลังคว้าแชมป์เมเจอร์รายการ ยูเอส โอเพ่น จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า วู้ดส์ จะกลับมาโชว์วงสวิงได้อีกครั้งเมื่อ ซึ่งการหยุดพักยาวเช่นนี้ของนักกอล์ฟอาชีพส่งผลอย่างยิ่งต่อคะแนนสะสมและอันดับโลก สำหรับวู้ดส์ ในระยะสั้นคงไม่ส่งผลสักเท่าใดแต่ถ้ากลับมาแล้วฟอร์มไม่ดีในฤดูกาล 2009 โอกาสที่จะเสียตำแหน่งมือหนึ่งโลกให้กับเหล่าโปรที่จ้องตามันในอันดับรองลงมาก็มีอยู่ไม่น้อย
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ "แคนาดา เนชันแนล โพสท์" ออกมาวิเคราะห์ในฤดูกาล 2009 หลังจบการแข่งขัน เดอะ มาสเตอร์เดือนเมษายน “พญาเสือ” มีโอกาสเสียบัลลังก์มือหนึ่งที่ครองติดต่อกันมานานกว่า 185 สัปดาห์ (นับถึง 21 ธ.ค.) หากเขาทำผลงานได้ไม่ดีพอเมือเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่สำคัญการไม่ลงแข่งขันถึงครึ่งฤดูกาลทำให้วู้ดส์ เสียคะแนน 1.1 เปอร์เซนต์หรือประมาณ 0.34 แต้มทุกสัปดาห์ อันมีผลทำให้โปรหมายเลขหนึ่งโลกเหลือคะแนนประมาณ 10.50 แต้มก่อนลงแข่งเมเจอร์แรกของปีที่สนามออกัสตา ซึ่งถ้าเป็นไปตามการวิเคราะห์บรรทัดต่อจากนี้คือเหล่าโปรที่มีโอกาสขึ้นมาเป็นมือหนึ่งโลกแทน “ไทเกอร์ วู้ดส์” ทันที
1. เซอร์จิโอ การ์เซีย (โอกาส 90 เปอร์เซนต์) โปรชาวสเปนผู้นี้ถูกให้สมญานามที่เจ้าตัวคงไม่ปรารถนาเท่าใดคือ “นักกอล์ฟดีที่สุดที่ไม่เคยคว้าแชมป์เมเจอร์” แต่ผลงานเมื่อปีที่ผ่านมาทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์รายการสำคัญอย่าง เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิป ศึกดวลวงสวิงที่ถูกยกให้เป็นเมเจอร์รายการที่ 5 อย่างไม่เป็นทางการ
แม้ต่อมาจะถูกปรามาสจากนักวิจารณ์ด้วยปัญหาเดิมของนักหวดวัย 28 ปีรายนี้คืออาการแผ่วปลายจนทำให้ชวดคว้าแชมป์ในการแข่งรอบสุดท้ายอย่างน่าเสียดายถึง 3 รายการคือ พีจีเอ แชมเปียนชิป, บาร์เคลย์ส แชมเปียนชิป และ เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิป หากแต่ช่วงท้ายปีกลับมา "การ์เซีย" คว้าแชมป์สองรายการคือ คาสติลโญ มาสเตอร์ ในประเทศบ้านเกิด และ เอชเอสบีซี แชมเปียนส์ 2008 ที่ประเทศจีน ส่งผลให้ทะยานจากอันดับ 12 ของโลกเมื่อต้นปีขึ้นมารั้งอันดับสอง 2 ด้วยคะแนนเฉลี่ย 8.10 แต้ม
2. พาเดร็ก แฮร์ริงตัน (โอกาส 75 เปอร์เซนต์) โปรชาวไอร์แลนด์ถูกขนานนามให้เป็น “มิสเตอร์เมเจอร์” จากผลงานการคว้าแชมป์เมเจอร์ 2 รายการในปีที่ผ่านมาคือการป้องกันแชมป์ ดิ โอเพน ณ สนามรอยัล เบิร์กเดล ก่อนที่อีกสามสัปดาห์ถัดมาจะคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิป พร้อมถูกบันทึกว่าเป็นเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 3 จาก 6 รายการหลังสุด รวมถึงเป็นนักหวดจากยุโรปคนแรกที่คว้าแชมป์เมเจอร์สองรายการข้างต้นได้ในปีเดียวกัน
จากผลงานยอดเยี่ยมข้างต้นนอกจากทำให้โปรวัย 37 ปีรายนี้ขยับจากอันดับ 8 ขึ้นมารั้งอยู่ที่ 4 ของโลกด้วยคะแนนเฉลี่ย 6.95 และส่งให้เขากลายเป็นนักกอล์ฟชาวยุโรปคนแรกที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูเอส พีจีเอทัวร์ นับแต่ก่อตั้งรางวัลเมื่อปี 1990
3. ฟิล มิคเคลสัน (โอกาส 60 เปอร์เซนต์) โปรชาวสหรัฐฯเริ่มต้นปีด้วยการเป็นมือ 2 ของโลกและถูกจับตามองว่าจะไปได้สวยในปีนี้เมื่อไม่มี ไทเกอร์ วูดส์ เป็นก้างขวางคอ แต่ มิคเคลสัน ก็คว้าแชมป์มาได้เพียง 2 รายการคือ นอร์เธิร์น ทรัสต์ โอเพน และ คราวน์ พลาซา อินเตอร์เนชันแนล จากการลงแข่งทั้งสิ้น 21 รายการแต่ก็ยังน่าดีใจที่โปรสิงห์อีซ้ายรายนี้จบ 10 อันดับแรกได้ถึง 8 รายการหากคะแนนเฉลี่ยอันดับโลกตกจาก 8.55 แต้มมาอยู่ที่ 7.02 แต้ม พร้อมหล่นมาเป็นมือวางอันดับ 3 ของโลก
ส่วนสาเหตุที่ทำให้โอกาสการก้าวขึ้นไปเป็นมือ 1 โลกนั้นดูเหมือนว่าโปรสหรัฐฯวัย 38 ปีจะเป็นรอง พาเดร็ก แฮร์ริงตัน แม้จะมีอันดับโลกสูงกว่า เพราะเสียเครดิตเล็กน้อยจากการเสียแชมป์เมเจอร์สองรายการสุดท้ายให้แก่โปรชาวไอริช
4. วีเจย์ ซิงห์ (โอกาส 45 เปอร์เซ็นต์) โปรชาวฟิจิ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่สามารถขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกเหนือกว่า ไทเกอร์ วูดส์ ได้เมื่อปี 2004 หากแต่ช่วงระหว่างปี 2005-2007 ผลงานกลับร่วงลงอย่างน่าใจหายหากแต่ปีนี้ "ซิงห์" กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์เป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือนจากรายการ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป บริดจ์สโตน อินวิเตชันแนล ต่อมาจากผลงานการคว้าแชมป์รายการ เดอะ บาร์เคลย์ส แชมเปียนชิป และ ดอยท์ช แบงค์ แชมเปียนชิป สองรายการในซีรีย์ เฟดเอ็กซ์ คัพ คว้าเงินโบนัสพิเศษอีก 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 350 ล้านบาท) รวมถึงล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังคว้าแชมป์รายการเชฟรอน เวิลด์ ชาลเลนจ์ ทำให้ทะยานจากอันดับที่ 10 เมื่อต้นปีขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของโลกด้วยคะแนนเฉลี่ย 6.64 แต้ม
จากบทวิเคราะห์ของสื่อในต่างประเทศจะเห็นได้ว่าหากวู้ดส์ ลงสู่สนามในปีหน้าเขาจะต้องพบกับความท้าทายเพื่อรักษาตำแหน่งหมายเลขหนึ่งโลกของตนเอง ขณะที่"พญาเสือ" ก็ยังไม่ทิ้งงานใหญ่ในการเก็บแชมป์เมเจอร์ให้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าสถิติของ "หมีทองคำ" แจ็ก นิกคลอส (18 ครั้ง) หากประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วเชื่อว่าวงการกอล์ฟในฤดูกาล 2009 คือห้วงเวลาที่ต้องติดตามชนิดไม่กระพริบตาเลยทีเดียว
