xs
xsm
sm
md
lg

เอ็นบีเอ ‘เลย์ ออฟ’ / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เปิดฉากฤดูกาลใหม่ 2008/09 ได้ไม่ทันไร เดวิด สเติร์น ประธานลีกดำเนินการลดรายจ่ายขององค์กรด้วยการสั่งเลิกจ้าง (lay off) พนักงาน 80 ตำแหน่งงาน หรือคิดเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ สืบเนื่องจากทานทนต่อภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ไหว ล่าสุด "พิษการเลิกจ้าง" ลามมาถึง "หัวหน้าโค้ช" แต่หาใช่ตอบสนองการรัดเข็มขัดแต่อย่างใด

นับตั้งแต่ศึกยัดห่วงถล่มโลกรูดม่านอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม นับนิ้วได้ไม่ถึงสามเดือนดี ปรากฏว่ามีโค้ชในลีกตกงานแล้ว 6 รายด้วยกันจากทั้งหมด 30 ทีม และสถิติการเลิกจ้างงานคงไม่หยุดอยู่เท่านี้

โดยโค้ชซึ่งได้รับเกียรติถูกปลดออกจากงานเป็นคนแรกของปีได้แก่ พี.เจ. คาร์เลสซิโม หลังจากมีแนวโน้มไม่สามารถขุน โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ หรือ ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิกส์ (เดิม) ให้พัฒนาไปจากเดิม ดังนั้น เคลย์ เบนเนตต์ เจ้าของทีมจอมทุ่มจะเสียเวลาอยู่ใยจึงรีบตัดสายสัมพันธ์ทันทีตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน หลังหัวหน้าโค้ชวัย 59 ปีพาทีมสตาร์ทชนะแค่ 1 แพ้ 12 เกม ปัจจุบัน ธันเดอร์ ผลงานภายใต้การดูแล สกอตต์ บรูกส์ กุนซือชั่วคราวยังดำดิ่ง สถิติฮวบเป็น 2-23 เกม แย่ที่สุดในลีก แซม เพรสที ผู้จัดการทั่วไปคงต้องเร่งสัมภาษณ์งานหัวเรือใหม่กันหน่อยแล้ว ถ้าขืนเฟรนไชส์ยังสาละวันเตี้ยลงหวยอาจเด้งมาใส่ตัวเอง

นอกจาก คาร์เลสซิโม โค้ชที่ไม่รอดสันดอนตามคาดได้แก่ เอ็ดดี จอร์แดน (วอชิงตัน วิซาร์ดส), แรนดี วิทท์แมน (มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส) และล่าสุด เรจจี เธอุส ที่เพิ่งโดน ซาคราเมนโต คิงส์ เตะออกจากต้นสังกัดไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม โดยทั้งสามรายผมค่อนข้างเห็นใจ จอร์แดน ที่ทำงานกับ "พ่อมด" มาตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04 ใช้เวลาลองผิดลองถูกแค่ปีเดียวก็สามารถพาเฟรนไชส์ไม่ใหญ่ไม่โตเข้าเพลย์ออฟ 4 ปีติด ทะลุถึงรอบตัดเชือกคอนเฟอเรนซ์ ซีซั่น 2004/05 ด้วยซ้ำ

ทว่าฤดูกาลนี้ จอร์แดน รับมือกับสถานการณ์ตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง กิลเบิร์ต อารีนาส และ เบรนแดน เฮย์วูด บาดเจ็บไม่ไหว แครอน บัตเลอร์, แอนทอว์น จาไมสัน และ เดชอว์น สตีเวนสัน แบกนักบาสฯ ดาวรุ่งขี่ขึ้นหลังไปไม่ได้ทุกเกม วิซาร์ดส สตาร์ทแค่ 1-10 เกม จอร์แดน จึงต้องรับผิดชอบไป อย่างไรก็ตาม โค้ชวัย 53 ปี อาจได้คืนวงการในเร็ววันนี้ เมื่อมีรายงานว่า ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ที่แยกทางกับ มัวริซ ชีคส์ อาจส่งเทียบเชิญไป เพราะ เอ็ด สเตฟานสกี ประธานทีมเคยทำงานร่วมกับโค้ชผิวสีมาก่อนครั้งอยู่กับ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์

ว่ากันถึง ซิกเซอร์ส ทีมซึ่งหลายคนรวมถึงตัวผมเองเชื่อว่าน่าจะเป็นม้ามืดของฝั่งตะวันออกได้ไม่ยาก เนื่องจากเซ็นฟรีเอเย่นต์หัวแถวของลีกอย่าง เอลตัน แบรนด์ เข้ามาเสริมงาน อังเดร อิกัวดาลา ที่ขยายสัญญากันสำเร็จ อีกทั้งตัวผู้เล่นหาใช่ขี้ริ้วขี้เหร่ การสตาร์ท 9-14 เกมยังพอทน แต่แนวโน้มความพ่ายแพ้ 8 จาก 10 เกมหลังสุด ทำให้ สเตฟานสกี ใจร้อนสั่งปลดโค้ชที่เพิ่งพาทีมเข้าเพลย์ออฟได้อีกครั้งเมื่อฤดูกาลก่อน หลังหมดยุคของ "ดิ แอนเซอร์ส" อัลเลน ไอเวอร์สัน ออกจากตำแหน่งไป จากการอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้เล่น หลายคนรับทราบถึงความคาดหวังที่สูงของบอร์ดบริหาร วิถีทางแห่งความเป็นมืออาชีพจึงเล่นตลกกับ ชีคส์

เช่นเดียวกับ แซม มิทเชลล์ ซึ่งโดน โตรอนโต แร็พเตอร์ส ปลดออกจากตำแหน่งแบบสายฟ้าแลบเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม ทั้งที่ลีกเพิ่งประลองความแม่นกันไปเพียง 17 เกม (สถิติ 8-9) ชื่อของ มิทเชลล์ ค่อนข้างสะกิดหูผม เพราะย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2006/07 โค้ชไฟแรงวัย 45 ปี ได้รับเกียรติให้ซิวรางวัล "โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี" มาประดับบารมี จากผลงานการพา "ไดโนเสาร์" สัมผัสบรรยากาศในโพสต์ซีซั่นอีกครั้ง ด้วยสถิติชนะมากที่สุดในประวัติศาสตร์เฟรนไชส์ 47 เกม (ในฤดูกาลปกติ 82 เกม) เทียบเท่าซีซั่น 2000/01 ครั้งยังมี "แอร์ แคนาดา" วินซ์ คาร์เตอร์ เป็นตัวชูโรง

เมื่อความคาดหวังสูงขึ้นเป็นทวีคูณ กอปรกับการที่ แร็พเตอร์ส มีผู้เล่นฝีมือดีครบครันทั้ง คริส บอช, เจอร์เมน โอนีล, เจสัน คาโปโน, โฮเซ กัลเดรอน หรือ อันเดรีย บาร์ญานี ดูเหมือนการเล่นในรอบแรกของเพลย์ออฟถือเป็นมาตรฐานที่ต่ำไปเสียแล้วสำหรับ ไบรอัน โคลันเจโล ผู้จัดการทั่วไปซึ่งได้รับคำบัญชาจากกลุ่มเจ้าของทีมมาอีกที

เห็นการตัดสินใจที่ว่องไวและเฉียบขาดของหลายทีมใน NBA แล้วอดเสียวแทนโค้ชหลายๆ คนไม่ได้ เอ้า!! จิม โอไบรอัน(อินเดียนา เพเซอร์ส), ดอน เนลสัน (โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส) หรือ ไมค์ ดันลีวี ซีเนียร์ (แอลเอ คลิปเปอร์ส) เร่งเครื่องทำผลงานกันหน่อย เพราะดูเหมือนตอนนี้ เอเวอรี จอห์นสัน, ฟลิป ซอนเดอร์ส หรือแม้แต่ ไอเซย์ โธมัส ชักคันไม้คันมืออยากกลับมาคุมบังเหียนแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น