“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล แห่งศึกพรีเมียร์ ลีก ส่งผู้เล่นดาวรุ่งเป็นส่วนใหญ่ลงสนามบุกไปพ่ายทีมจากศึกแชมเปียนชิพอย่าง เบิร์นลีย์ 0-2 ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลคาร์ลิง คัพ เช่นเดียวกับ สโต๊ค ซิตี ที่ถูก ดาร์บี เคาท์ตี บุกมาชนะ 0-1 ในการแข่งขันเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอล คาร์ลิง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
เบิร์นลีย์ 2-0 อาร์เซนอล
เบิร์นลีย์ ของกุนซือ โอเวน คอยล์ พลาดการใช้งาน เวด เอลเลียต ปีกตัวเก่งที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บ แต่เกมนี้ยังมี คริส อีเกิลส์ อดีตผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดลงมาทำเกมทางริมเส้น ขณะที่ อาร์เซนอล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ส่งผู้เล่นดาวรุ่งเป็นส่วนใหญ่ แต่ส่ง มิคาเอล ซิลแวสตร์ และ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ สองผู้เล่นชุดใหญ่ของทีมมาช่วยประคองเกม
เริ่มเกมครึ่งแรกมาเพียง 6 นาที เจ้าถิ่นกลายเป็นฝ่ายขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ อีเกิลส์ หลุดเข้าไปเปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษด้านขวา แพเตอร์สัน เข้าชาร์ตบอลก่อนในครั้งแรก แต่ติดเซฟของ ฟาเบียนสกี บอลไม่พ้นอันตรายมาเข้าทาง แม็คโดนัลด์ แปซ้ำเข้าไปอย่างสบายให้ เบิร์นลีย์ นำก่อน 1-0
หลังจากเสียประตู อาร์เซนอล เกือบทำประตูตีเสมอได้อย่างทันควันในนาทีที่ 10 จากจังหวะเปิดบอลยาวมาจากแดนหลัง บอลมาเข้าทาง เบลา โหม่งเสยเช็ดต่อมาให้ เบนด์ทเนอร์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ เจนเซน นายทวารเจ้าถิ่นทำได้อย่างยอดเยี่ยมออกมาปิดมุมป้องกันประตูไว้ได้
เกมดำเนินไปอย่างสนุกตื่นเต้นทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับ โดย เบิร์นลีย์ ทำเกมได้เหนือกว่าทีมเยือนเล็กน้อยและเกือบทำประตูหนีห่างออกไปอีกในนาทีที่ 28 จากการโต้กลับเร็วก่อนที่จังหวะสุดท้ายบอลจะไปถึง แพเตอร์สัน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แต่ ฟาเบียนสกี โชว์ซูเปอร์เซฟเช่นกันใช้ขาป้องกันบอลไว้ได้
เกมมาถึงนาทีที่ 37 เดอะกันเนอร์สมาได้โอกาสลุ้นทำประตูตีเสมออีกครั้งจากการต่อบอลกันขึ้นมาอย่างสวยงามของทีม ก่อนที่ เบนด์ทเนอร์ จะตอกส้นให้ แรนดัลล์ หลุดเข้าไปยิง แต่ลูกยิงไม่ผ่านมือ เจนเซน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นเช่นเดิม
อีกสามนาทีต่อมาทีมเยือนได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะเปิดบอลยาวมาให้ เบนด์ทเนอร์ โหม่งเช็ดต่ออย่างสวยงามให้ เบลา วิ่งเบียดแซงกองหลังเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมามือ เจนเซน อีกครั้ง
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 4 นาที เบิร์นลีย์ พลาดโอกาสทำประตูหนีห่างออกไปอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่ แม็คโดนัลด์ ทำเกมอยู่บริเวณนอกกรอบเขตโทษทางด้านขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางมาให้ แม็คคาน ได้ยืนแปแบบโล่งๆคนเดียวแต่เบาเกินไป บอลเข้ามือ ฟาเบียนสกี รับสบายทำให้สุดท้ายจบครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง เบิร์นลีย์ ยังทำเกมได้ดีกว่าและทำประตูหนีห่างทีมเยือนออกไปได้สำเร็จในนาทีที่ 57 จากจังหวะการทุ่มบอลเข้ามาของ อีเกิลส์ ต่อให้ แม็คโดนัลด์ ผู้ซัดประตูแรกเบียดเอาชนะกองหลังทีมเยือน ก่อนจะหลุดเข้าไปปั่นไซด์หนีมือ ฟาเบียนสกี เข้าประตูไปให้เป็นลูกที่สองของตัวเองพร้อมส่งทีมหนีห่าง 2-0 หลังจากนั้นแม้ว่า อาร์เซนอล จะพยายามบุกเพื่อทวงประตูคืนแต่ก็ไม่สามารถยิงบอลผ่านมา เจนเซน นายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปได้ทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที เบิร์นลีย์ เอาชนะไป 2-0
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ปรากฏว่า สโต๊ค ซิตี ทีมจากศึกพรีเมียร์ ลีก อีกทีมก็มีอันต้องตกรอบเช่นกันเมื่อเปิดบ้านพ่ายให้กับ ดาร์บี เคาท์ตี ทีมจากแชมเปียนชิพ 0-1 จากการยิงลูกจุดโทษประตูชัยในนาทีสุดท้ายของ นาธาน เอลลิงตัน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เบิร์นลีย์ : ไบรอัน เจนเซน, ไมเคิล ดัฟฟ์, คลาร์ก คาร์ลิเซิล, สตีเวน คาล์ดเวลล์, สตีเฟน จอร์แดน, แกรแฮม อเล็กซานเดอร์, เควิน แม็คโดนัลด์, คริส แม็คคาน, คริส อีเกิลส์, ร็อบบี แบลค, มาร์ติน แพเตอร์สัน
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี, กาวิน ฮอยต์, มิคาเอล ซิลแวสตร์, พอล โรเจอร์ส, ฟราน เมริดา, แจ็ค วิลเชียร์, เคียแรน กิบบ์ส, มาร์ก แรนดัลล์, แอรอน แรมซีย์, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, คาร์ลอส เบลา
ผลการแข่งขันฟุตบอล คาร์ลิง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
เบิร์นลีย์ 2-0 อาร์เซนอล
เบิร์นลีย์ ของกุนซือ โอเวน คอยล์ พลาดการใช้งาน เวด เอลเลียต ปีกตัวเก่งที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บ แต่เกมนี้ยังมี คริส อีเกิลส์ อดีตผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดลงมาทำเกมทางริมเส้น ขณะที่ อาร์เซนอล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ส่งผู้เล่นดาวรุ่งเป็นส่วนใหญ่ แต่ส่ง มิคาเอล ซิลแวสตร์ และ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ สองผู้เล่นชุดใหญ่ของทีมมาช่วยประคองเกม
เริ่มเกมครึ่งแรกมาเพียง 6 นาที เจ้าถิ่นกลายเป็นฝ่ายขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ อีเกิลส์ หลุดเข้าไปเปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษด้านขวา แพเตอร์สัน เข้าชาร์ตบอลก่อนในครั้งแรก แต่ติดเซฟของ ฟาเบียนสกี บอลไม่พ้นอันตรายมาเข้าทาง แม็คโดนัลด์ แปซ้ำเข้าไปอย่างสบายให้ เบิร์นลีย์ นำก่อน 1-0
หลังจากเสียประตู อาร์เซนอล เกือบทำประตูตีเสมอได้อย่างทันควันในนาทีที่ 10 จากจังหวะเปิดบอลยาวมาจากแดนหลัง บอลมาเข้าทาง เบลา โหม่งเสยเช็ดต่อมาให้ เบนด์ทเนอร์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ เจนเซน นายทวารเจ้าถิ่นทำได้อย่างยอดเยี่ยมออกมาปิดมุมป้องกันประตูไว้ได้
เกมดำเนินไปอย่างสนุกตื่นเต้นทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับ โดย เบิร์นลีย์ ทำเกมได้เหนือกว่าทีมเยือนเล็กน้อยและเกือบทำประตูหนีห่างออกไปอีกในนาทีที่ 28 จากการโต้กลับเร็วก่อนที่จังหวะสุดท้ายบอลจะไปถึง แพเตอร์สัน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แต่ ฟาเบียนสกี โชว์ซูเปอร์เซฟเช่นกันใช้ขาป้องกันบอลไว้ได้
เกมมาถึงนาทีที่ 37 เดอะกันเนอร์สมาได้โอกาสลุ้นทำประตูตีเสมออีกครั้งจากการต่อบอลกันขึ้นมาอย่างสวยงามของทีม ก่อนที่ เบนด์ทเนอร์ จะตอกส้นให้ แรนดัลล์ หลุดเข้าไปยิง แต่ลูกยิงไม่ผ่านมือ เจนเซน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นเช่นเดิม
อีกสามนาทีต่อมาทีมเยือนได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะเปิดบอลยาวมาให้ เบนด์ทเนอร์ โหม่งเช็ดต่ออย่างสวยงามให้ เบลา วิ่งเบียดแซงกองหลังเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมามือ เจนเซน อีกครั้ง
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 4 นาที เบิร์นลีย์ พลาดโอกาสทำประตูหนีห่างออกไปอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่ แม็คโดนัลด์ ทำเกมอยู่บริเวณนอกกรอบเขตโทษทางด้านขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางมาให้ แม็คคาน ได้ยืนแปแบบโล่งๆคนเดียวแต่เบาเกินไป บอลเข้ามือ ฟาเบียนสกี รับสบายทำให้สุดท้ายจบครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง เบิร์นลีย์ ยังทำเกมได้ดีกว่าและทำประตูหนีห่างทีมเยือนออกไปได้สำเร็จในนาทีที่ 57 จากจังหวะการทุ่มบอลเข้ามาของ อีเกิลส์ ต่อให้ แม็คโดนัลด์ ผู้ซัดประตูแรกเบียดเอาชนะกองหลังทีมเยือน ก่อนจะหลุดเข้าไปปั่นไซด์หนีมือ ฟาเบียนสกี เข้าประตูไปให้เป็นลูกที่สองของตัวเองพร้อมส่งทีมหนีห่าง 2-0 หลังจากนั้นแม้ว่า อาร์เซนอล จะพยายามบุกเพื่อทวงประตูคืนแต่ก็ไม่สามารถยิงบอลผ่านมา เจนเซน นายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปได้ทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที เบิร์นลีย์ เอาชนะไป 2-0
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ปรากฏว่า สโต๊ค ซิตี ทีมจากศึกพรีเมียร์ ลีก อีกทีมก็มีอันต้องตกรอบเช่นกันเมื่อเปิดบ้านพ่ายให้กับ ดาร์บี เคาท์ตี ทีมจากแชมเปียนชิพ 0-1 จากการยิงลูกจุดโทษประตูชัยในนาทีสุดท้ายของ นาธาน เอลลิงตัน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เบิร์นลีย์ : ไบรอัน เจนเซน, ไมเคิล ดัฟฟ์, คลาร์ก คาร์ลิเซิล, สตีเวน คาล์ดเวลล์, สตีเฟน จอร์แดน, แกรแฮม อเล็กซานเดอร์, เควิน แม็คโดนัลด์, คริส แม็คคาน, คริส อีเกิลส์, ร็อบบี แบลค, มาร์ติน แพเตอร์สัน
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี, กาวิน ฮอยต์, มิคาเอล ซิลแวสตร์, พอล โรเจอร์ส, ฟราน เมริดา, แจ็ค วิลเชียร์, เคียแรน กิบบ์ส, มาร์ก แรนดัลล์, แอรอน แรมซีย์, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, คาร์ลอส เบลา