คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก หลังเสร็จศึกซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายท่านที่เป็นคอคนชนคนเหมือนผมคงเร่งวันเร่งคืนให้เกมกีฬาแห่งพละกำลังและมันสมอง ฤดูกาลใหม่ (2008/09) กลับมาประชันกันให้เร็วที่สุด ทว่ามาถึงวันนี้ อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ผ่านพ้นสัปดาห์ที่ 10 ไปเป็นที่เรียบร้อย เหลืออีกแค่ 7 สัปดาห์ฤดูกาลปกติก็จะปิดฉากลง ก่อนเข้าสู่โพสต์ซีซั่นกันต่อไป
เป็นธรรมเนียมปกติหลังผ่านครึ่งทางของ NFL สื่อมะกันหลายสำนักมักรวบรวมเอาหลากหลายเรื่องราวมาวิเคราะห์กันว่า สิ่งที่พวกเขาทำนายทายทักก่อนเปิดซีซั่นมีอะไรที่เป็นไปตามคาด หรือเหนือสิ่งที่ได้ฟันธงกันไว้หรือไม่ มาวันนี้ผมเลยถือโอกาสขออนุญาตประมวลทีมที่เล่นได้น่าประทับใจ รวมถึง หลายเฟรนไชส์ที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง ออกไปทางความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อยคงไม่ว่ากัน
เริ่มกันที่ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ทีมซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะก้าวผ่าน "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ขึ้นไปคว้า "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" มานอนกอดเมื่อช่วงต้นปี มาฤดูกาลนี้การขึ้นไปเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์ยากยิ่งกว่าสำหรับทีมของ ทอม คอฟลิน เนื่องจาก ไมเคิล สเตรแฮน พี่ใหญ่ในเกมรับประกาศรีไทร์ แถม โอซี ยูเมนโยรา ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ตัวแกร่งยังมาเจ็บเข่ารุนแรงจนต้องปิดเทอมยาวไปอีก ทำให้ "ยักษ์ใหญ่" ถูกยกให้มีโอกาสเป็นแชมป์รองจาก แพทริออตส์, ดัลลัส คาวบอยส์ หรือว่า อินเดียนาโปลิส โคลต์ส
แต่ถึงวันนี้ อีลาย แมนนิง พาทีมมีสถิติชนะ 8 แพ้แค่เกมเดียว นำกลุ่มเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก ด้วยการปราบเพื่อนร่วมดิวิชั่นทั้ง วอชิงตัน เรดสกินส์, คาวบอยส์ และล่าสุด ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ นอกจากผลงานของ แมนนิงผู้น้อง ผมอยากให้เครดิต แบรนดอน จาค็อบส์ ที่โชว์การวิ่งอันทรงพลังช่วยเปิดทางเกมการขว้างได้อย่างเห็นผล ที่ขาดไม่ได้ต้องยกความดีความชอบให้ สตีฟ สปันนูโอโล โค้ชทีมรับซึ่งยังรับผิดชอบงานได้อย่างไม่มีที่ติ จบฤดูกาลนี้ท่าทาง สปันนูโอโล คงโดนแจกขนมจีบจากหลายทีมเพื่อดึงตัวไปเป็น "หัวหน้าโค้ช" เสียที
มาที่ เทนเนสซี ไตตันส์ หนึ่งเดียวในลีกที่ยังสะกด "ความพ่ายแพ้" ไม่เป็น เก็บชัยได้ทั้ง 9 เกมที่ลงสนาม คงยังไม่สามารถพูดได้ว่า ไตตันส์ ประสบความสำเร็จ เพราะถ้าไม่มีแชมป์ติดมือกลับเมือง เจฟฟ์ ฟิชเชอร์ คงไม่ต่างอะไรจาก บิลล์ บีลิชิก ที่เกือบพา "แพทส์แมน" ทำเพอร์เฟกต์ ซีซั่น แต่แล้วก็ทำแชมป์หลุดมือไปในเกมสุดท้าย ที่ ไตตันส์ มาถึง ณ จุดนี้ได้นอกจากฝีไม้ลายมือของ ฟิชเชอร์ ผมขอชื่นชม บัด อดัมส์ เจ้าของทีมที่อดทนกับหัวหน้าโค้ชคนนี้มาตั้งแต่ปี 1994 สมัยยังเป็น ฮุสตัน ออยเลอร์ส ด้วยซ้ำ
ทำให้ผมฉุกคิดไม่ได้ว่านี่ถ้า แอล เดวิส มีน้ำอดน้ำทนได้สักครึ่งหนึ่งของ อดัมส์ "ซิลเวอร์ แอนด์ แบล็ค" โอคแลนด์ เรดเดอร์ส คงไม่จมปลักจวบจนทุกวันนี้ กลับมาที่ ไตตันส์ สร้างทีมขึ้นมาจากทีมรับอย่างแท้จริง ทำให้ตงิดใจอย่างไรไม่รู้ว่าซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 43 เราอาจได้เห็นเกมคลาสสิกดวลกันระหว่างทีมรับชั้นยอด ส่วนเกมบุกขับเคี่ยวกันด้วยเกมวิ่ง ซึ่ง ไตตันส์ มี คริส จอห์นสัน และ เลนเดล ไวท์ คอยสลับกันบดขยี้คู่แข่ง ส่วน เคอร์รี คอลลินส์ ควอเตอร์แบ็กที่หลายคนมองว่าหมดน้ำยาไปแล้ว ตอนนี้คุมทีมบุกแทบไม่มีข้อผิดพลาด แถมมีทีเด็ดอีกต่างหากจากเกมบุกคว่ำ ชิคาโก แบร์ส แฟนๆ ไตตันส์ คงลืมชื่อ วินซ์ ยัง ไปแล้วกระมัง
มาถึงทีมที่เข้าข่ายน่าผิดหวังหลังผ่านครึ่งทางกันบ้าง สถิติชนะ 4 แพ้ 5 เกมของ แจ็คสันวิลล์ จากัวส์, ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส และ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ขณะที่ คาวบอยส์ แค่ 5-4 เกม ทำให้อดถอนหายใจไม่ได้จริงๆ เพราะเฟรนไชส์เหล่านี้ล้วนมีคุณสมบัติขึ้นไปสู่แชมป์
โดย จากัวส์ ทีมที่หลายคนยกย่องว่ามีเกมวิ่งดีที่สุดทีมหนึ่งของลีกจากหมัด 1-2 ของ เฟร็ด เทย์เลอร์ และ มัวริซ โจนส์ ดรูว์ แต่ที่ผ่านมา เทย์เลอร์ ยังหาทัชดาวน์แรกไม่เจอ โจนส์ ดรูว์ เฉลี่ยแค่ 4.4 หลาต่อการถือบอลวิ่งหนึ่งครั้ง น่าใจหายไปแพ้ผลงานของ ลาไดเนียน ทอมลินสัน ที่เพิ่งวิ่งเกิน 100 หลาแค่สองเกมให้ ชาร์จเจอร์ส แถมกระทุ้งไปแค่ 4 ทัชดาวน์ การฝืนเจ็บนิ้วเท้าลงวิ่งพอเป็นข้ออ้างได้ แต่มันออกจะขุ่นๆ อยู่สักหน่อย
ทางด้านของ เซนต์ส การที่ ดรูว์ บรีส์ พาทีมบุกขว้างระเบิดระเบ้อ ไม่ได้ช่วยให้ "นักบุญ" ดูมีอนาคตกว่าที่ผ่านมาหากทีมรับยังบ้อท่าอยู่เรื่อย ส่วน คาวบอยส์ อาการเจ็บนิ้วก้อยของ โทนี โรโม กับปัญหาระหองระแหงกับ เทอร์เรลล์ โอเวนส์ อย่างที่ลือกัน ทำให้อายุงานในการเป็นเฮดโค้ชของ เหว็ด ฟิลลิปส์ เหลือน้อยลงทุกวัน ถ้ายังหาทางยูเทิร์นกลับมากันไม่ได้ เป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยที่เราจะพลาดโอกาสดูทีมชั้นดีอย่าง จากัวส์, ชาร์จเจอร์ส, คาวบอยส์ หรือ เซนต์ส เล่นในเพลย์ออฟ
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก หลังเสร็จศึกซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายท่านที่เป็นคอคนชนคนเหมือนผมคงเร่งวันเร่งคืนให้เกมกีฬาแห่งพละกำลังและมันสมอง ฤดูกาลใหม่ (2008/09) กลับมาประชันกันให้เร็วที่สุด ทว่ามาถึงวันนี้ อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ผ่านพ้นสัปดาห์ที่ 10 ไปเป็นที่เรียบร้อย เหลืออีกแค่ 7 สัปดาห์ฤดูกาลปกติก็จะปิดฉากลง ก่อนเข้าสู่โพสต์ซีซั่นกันต่อไป
เป็นธรรมเนียมปกติหลังผ่านครึ่งทางของ NFL สื่อมะกันหลายสำนักมักรวบรวมเอาหลากหลายเรื่องราวมาวิเคราะห์กันว่า สิ่งที่พวกเขาทำนายทายทักก่อนเปิดซีซั่นมีอะไรที่เป็นไปตามคาด หรือเหนือสิ่งที่ได้ฟันธงกันไว้หรือไม่ มาวันนี้ผมเลยถือโอกาสขออนุญาตประมวลทีมที่เล่นได้น่าประทับใจ รวมถึง หลายเฟรนไชส์ที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง ออกไปทางความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อยคงไม่ว่ากัน
เริ่มกันที่ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ทีมซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะก้าวผ่าน "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ขึ้นไปคว้า "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" มานอนกอดเมื่อช่วงต้นปี มาฤดูกาลนี้การขึ้นไปเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์ยากยิ่งกว่าสำหรับทีมของ ทอม คอฟลิน เนื่องจาก ไมเคิล สเตรแฮน พี่ใหญ่ในเกมรับประกาศรีไทร์ แถม โอซี ยูเมนโยรา ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ตัวแกร่งยังมาเจ็บเข่ารุนแรงจนต้องปิดเทอมยาวไปอีก ทำให้ "ยักษ์ใหญ่" ถูกยกให้มีโอกาสเป็นแชมป์รองจาก แพทริออตส์, ดัลลัส คาวบอยส์ หรือว่า อินเดียนาโปลิส โคลต์ส
แต่ถึงวันนี้ อีลาย แมนนิง พาทีมมีสถิติชนะ 8 แพ้แค่เกมเดียว นำกลุ่มเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก ด้วยการปราบเพื่อนร่วมดิวิชั่นทั้ง วอชิงตัน เรดสกินส์, คาวบอยส์ และล่าสุด ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ นอกจากผลงานของ แมนนิงผู้น้อง ผมอยากให้เครดิต แบรนดอน จาค็อบส์ ที่โชว์การวิ่งอันทรงพลังช่วยเปิดทางเกมการขว้างได้อย่างเห็นผล ที่ขาดไม่ได้ต้องยกความดีความชอบให้ สตีฟ สปันนูโอโล โค้ชทีมรับซึ่งยังรับผิดชอบงานได้อย่างไม่มีที่ติ จบฤดูกาลนี้ท่าทาง สปันนูโอโล คงโดนแจกขนมจีบจากหลายทีมเพื่อดึงตัวไปเป็น "หัวหน้าโค้ช" เสียที
มาที่ เทนเนสซี ไตตันส์ หนึ่งเดียวในลีกที่ยังสะกด "ความพ่ายแพ้" ไม่เป็น เก็บชัยได้ทั้ง 9 เกมที่ลงสนาม คงยังไม่สามารถพูดได้ว่า ไตตันส์ ประสบความสำเร็จ เพราะถ้าไม่มีแชมป์ติดมือกลับเมือง เจฟฟ์ ฟิชเชอร์ คงไม่ต่างอะไรจาก บิลล์ บีลิชิก ที่เกือบพา "แพทส์แมน" ทำเพอร์เฟกต์ ซีซั่น แต่แล้วก็ทำแชมป์หลุดมือไปในเกมสุดท้าย ที่ ไตตันส์ มาถึง ณ จุดนี้ได้นอกจากฝีไม้ลายมือของ ฟิชเชอร์ ผมขอชื่นชม บัด อดัมส์ เจ้าของทีมที่อดทนกับหัวหน้าโค้ชคนนี้มาตั้งแต่ปี 1994 สมัยยังเป็น ฮุสตัน ออยเลอร์ส ด้วยซ้ำ
ทำให้ผมฉุกคิดไม่ได้ว่านี่ถ้า แอล เดวิส มีน้ำอดน้ำทนได้สักครึ่งหนึ่งของ อดัมส์ "ซิลเวอร์ แอนด์ แบล็ค" โอคแลนด์ เรดเดอร์ส คงไม่จมปลักจวบจนทุกวันนี้ กลับมาที่ ไตตันส์ สร้างทีมขึ้นมาจากทีมรับอย่างแท้จริง ทำให้ตงิดใจอย่างไรไม่รู้ว่าซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 43 เราอาจได้เห็นเกมคลาสสิกดวลกันระหว่างทีมรับชั้นยอด ส่วนเกมบุกขับเคี่ยวกันด้วยเกมวิ่ง ซึ่ง ไตตันส์ มี คริส จอห์นสัน และ เลนเดล ไวท์ คอยสลับกันบดขยี้คู่แข่ง ส่วน เคอร์รี คอลลินส์ ควอเตอร์แบ็กที่หลายคนมองว่าหมดน้ำยาไปแล้ว ตอนนี้คุมทีมบุกแทบไม่มีข้อผิดพลาด แถมมีทีเด็ดอีกต่างหากจากเกมบุกคว่ำ ชิคาโก แบร์ส แฟนๆ ไตตันส์ คงลืมชื่อ วินซ์ ยัง ไปแล้วกระมัง
มาถึงทีมที่เข้าข่ายน่าผิดหวังหลังผ่านครึ่งทางกันบ้าง สถิติชนะ 4 แพ้ 5 เกมของ แจ็คสันวิลล์ จากัวส์, ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส และ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ขณะที่ คาวบอยส์ แค่ 5-4 เกม ทำให้อดถอนหายใจไม่ได้จริงๆ เพราะเฟรนไชส์เหล่านี้ล้วนมีคุณสมบัติขึ้นไปสู่แชมป์
โดย จากัวส์ ทีมที่หลายคนยกย่องว่ามีเกมวิ่งดีที่สุดทีมหนึ่งของลีกจากหมัด 1-2 ของ เฟร็ด เทย์เลอร์ และ มัวริซ โจนส์ ดรูว์ แต่ที่ผ่านมา เทย์เลอร์ ยังหาทัชดาวน์แรกไม่เจอ โจนส์ ดรูว์ เฉลี่ยแค่ 4.4 หลาต่อการถือบอลวิ่งหนึ่งครั้ง น่าใจหายไปแพ้ผลงานของ ลาไดเนียน ทอมลินสัน ที่เพิ่งวิ่งเกิน 100 หลาแค่สองเกมให้ ชาร์จเจอร์ส แถมกระทุ้งไปแค่ 4 ทัชดาวน์ การฝืนเจ็บนิ้วเท้าลงวิ่งพอเป็นข้ออ้างได้ แต่มันออกจะขุ่นๆ อยู่สักหน่อย
ทางด้านของ เซนต์ส การที่ ดรูว์ บรีส์ พาทีมบุกขว้างระเบิดระเบ้อ ไม่ได้ช่วยให้ "นักบุญ" ดูมีอนาคตกว่าที่ผ่านมาหากทีมรับยังบ้อท่าอยู่เรื่อย ส่วน คาวบอยส์ อาการเจ็บนิ้วก้อยของ โทนี โรโม กับปัญหาระหองระแหงกับ เทอร์เรลล์ โอเวนส์ อย่างที่ลือกัน ทำให้อายุงานในการเป็นเฮดโค้ชของ เหว็ด ฟิลลิปส์ เหลือน้อยลงทุกวัน ถ้ายังหาทางยูเทิร์นกลับมากันไม่ได้ เป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยที่เราจะพลาดโอกาสดูทีมชั้นดีอย่าง จากัวส์, ชาร์จเจอร์ส, คาวบอยส์ หรือ เซนต์ส เล่นในเพลย์ออฟ