ซาเมียร์ นาสรี สวมบทฮีโร่เบิ้ลสกอร์ช่วยให้ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดบ้านฝัง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 แซงขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่วน วีแกน แอธเลติก เล่นในถิ่นแค่เจ๊า “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี 0-0
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อาร์แซน เวนเกอร์ นำพลพรรค “ยัง กันส์” เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือคู่ปรับ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนัดนี้เจ้าบ้านประสบปัญหาในการจัดทัพเมื่อ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ บาดเจ็บ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ติดโทษแบน ต้องห้อย นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ไว้แดนหน้าคนเดียว แต่ก็ได้ ธีโอ วัลคอตต์, วิลเลียม กัลลาส และ มิคาเอล ซิลแวสตร์ หายเจ็บกลับมา ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทีมเยือนชุดใหญ่มาลอนดอนนำโดย คริสเตียโน โรนัลโด, เวย์น รูนีย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เริ่มเกมการแข่งขันไม่ถึงนาทีดี แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสก่อนจากฟรีคิกสองจังหวะในกรอบโทษ หลังจากที่ เวย์น รูนีย์ ไล่กดดันจน มานูเอล อัลมูเนีย รับบอลส่งคืนหลังจาก มิคาเอล ซิลแวสตร์ แต่ลูกยิงของ อันแดร์สัน ไปติด ปาร์ค จี ซอง พวกเดียวกันเองกระเด้งมาให้ ไมเคิล คาร์ริค อัดซ้ำด้วยซ้ายหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น นาทีที่ 8 ทีมเยือนเฮเก้อ คริสเตียโน โรนัลโด หลุดขึ้นมาทางขวาจ่ายเข้ากลาง ปาร์ค ปล่อยบอลลอดขาให้ เวย์น รูนีย์ ยิงไปติดเซฟ อัลมูเนีย ก่อน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ซ้ำเข้าไป ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าหอกทีมชาติบัลแกเรียเสียก่อน
โอกาสแรกของ อาร์เซนอล มาในนาทีที่ 11 ซาเมียร์ นาสรี แทงบอลให้ กาแอล กลิชี หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนเปิดให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ สอดขึ้นมาโขกบอลข้ามคานไป สองนาทีถัดมาแฟนๆ “ปืนใหญ่” ได้ครางฮือ นาสรี ล่อหลอก แกรี เนวิลล์ ก่อนเปิดโด่งบอลผ่านหัว อาบู ดิยาบี และ เบนด์ทเนอร์ หวุดหวิด ธีโอ วัลคอตต์ จะสอดขึ้นมายิงทางเสาสองก็ไม่ทัน เกมแลกกันอย่างสนุก นาทีที่ 18 “ผีแดง” ได้เสียวบ้าง เบอร์บาตอฟ แตะต่อให้ โรนัลโด ก่อนเปิดเข้ากลาง รูนีย์ ได้แปเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
อีกสี่นาทีถัดมา “ปืนใหญ่” ทะยานนำ 1-0 เมื่อ เบอร์บาตอฟ โขกลูกเตะมุมไม่ขาด นาสรี ตะบันสวนด้วยซ้ายบอลแฉลบเข่า เนวิลล์ เปลี่ยนทางผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปตุงตาข่าย นาทีที่ 28 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นจากฟรีคิก “หนูโด้” กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตูแฉลบศีรษะ กลิชี เกือบเข้าประตูตัวเอง นาทีถัดมาจังหวะสวนกลับ เชส ฟาเบรกาส ได้ยิงบริเวณกรอบเขตโทษบอลสะกิดเท้า เบนด์ทเนอร์ ออกหลัง
ผ่านครึ่งชั่วโมง ทีมเยือนมาบ้าง ปาร์ค ลองอัดด้วยซ้ายร้อนถึง อัลมูเนีย ต้องปัดออกมา นาทีที่ 38 อาร์เซนอล ยังเล่นกันอย่างคึกคักขึ้นไปปั่นป่วนในกรอบโทษ แมนฯ ยูไนเต็ด ลูกคลุกคลิก เบนด์ทเนอร์ ได้จิ้มบอลแต่ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ สองนาทีถัดมาการเติมเกมทางซ้ายของเจ้าถิ่นยังได้ผล กลิชี เปิดบอลให้ วัลคอตต์ วอลเลย์ด้วยขวาข้ามคานไป นาทีท้ายผู้มาเยือนเกือบเฮทิ้งท้าย อันแดร์สัน ลองยิงมุมแคบแต่ อัลมูเนีย คุมเสาไว้ดีรับได้ จบ 45 นาทีแรก “ปืนใหญ่” สลุตนำก่อนในเกมที่สนุกสูสี
เปิดฉากครึ่งหลังแค่ 3 นาที อาร์เซนอล ทิ้งห่าง 2-0 อย่างรวดเร็ว ฟาเบรกาส ป้ายให้ นาสรี ตะบันเหน่งๆ จากบริเวณกรอบโทษล่อเป้า ฟาน เดอร์ ซาร์ สองนาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบกลับมาได้ทันควัน ปาร์ค เปิดบอลไปเสาสองให้ โรนัลโด ยิงเร็วบอลผ่านมือ อัลมูเนีย แต่ก็หลุดเสาออกไปนิดเดียว เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มเกมของ อาร์เซนอล ยังเล่นกันด้วยความมั่นใจ ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องแก้เกมใส่ ราฟาเอล แบ็กขวาดาวรุ่งบราซิเลียนมาเติมเกมแทน เนวิลล์
เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถสร้างความระแคะระคายให้เจ้าบ้าน “เฟอร์กี้” ต้องปรับแดนกลางใส่ ไรอัน กิกส์ มาลองขึ้นเกมแทน อันแดร์สัน นาทีที่ 73 ความสามารถเฉพาะตัวของ นาสรี เล่นงานจน เนมันยา วิดิช ต้องดึงเสื้อเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศสจนล้มในเขตโทษ แต่ โฮเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินใจแข็งเมินให้จุดโทษแก่ อาร์เซนอล 15 นาทีสุดท้าย “ผีแดง” ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายใส่ คาร์ลอส เตเบซ ไปล่าตาข่ายแทน รูนีย์ ทาง อาร์แซน เวนเกอร์ ปรับเอา อัลมูเนีย ที่บาดเจ็บออกให้ ลูคัส ฟาเบียนสกี มาเฝ้าเสาแทน อีกทั้งยังถอด วัลคอตต์ ตามแท็คติกให้ อเล็กซานเดอร์ ซง ช่วยไล่แดนกลาง
ท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เร่งเครื่องหวังหาประตูตีไข่แตกให้ได้ก่อน แต่เกือบโดนจังหวะสวนของ อาร์เซนอล เล่นงาน เบนด์ทเนอร์ ล็อกเข้ายิงในกรอบโทษเรียดเข้ามือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ทีมเยือนได้ลุ้นฟรีคิกอีกครั้ง โรนัลโด ซัดแฉลบกำแพงหลุดกรอบไปอีก นาทีสุดท้าย “ผีแดง” ไล่มา 1-2 จากลูกยิงสวนเข้าไปของ ราฟาเอล แต่ไม่ทันการณ์ จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ “ปืนใหญ่” มีเพิ่มเป็น 23 คะแนนจากการลงสนาม 12 นัดขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด 11 นัด มีอยู่ 21 แต้มเท่าเดิม หล่นมาอยู่อันดับ 4 ของตาราง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , บาการี ซานญา , วิลเลียม กัลลาส , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , กาแอล กลิชี , ธีโอ วัลคอตต์ , อาบู ดิยาบี , เชส ฟาเบรกาส , เดนิลสัน , ซาเมียร์ นาสรี , นิคลาส เบนด์ทเนอร์
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , คริสเตียโน โรนัลโด , ไมเคิล คาร์ริค , อันแดร์สัน , ปาร์ค จี ซอง , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , เวย์น รูนีย์
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
อาร์เซนอล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[1-0 : ซาเมียร์ นาสรี (น.22) , 2-0 : ซาเมียร์ นาสรี (น.48) , 2-1 : ราฟาเอล (น.90)]
วีแกน แอธเลติก 0-0 สโตค ซิตี
ฮัลล์ ซิตี 0-1 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.50)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 ปอร์ทสมัธ
[1-0 : ฌิบริล ซิสเซ (น.4) , 1-1 : นาเดียร์ เบลฮัดจ์ (น.51) , 1-2 : เจอร์เมน เดโฟ (จุดโทษ น.90)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-3 เอฟเวอร์ตัน
[1-0 : แจ็ค คอลลินสัน (น.63) , 1-1 : โจลีน เลสคอตต์ (น.83) , 1-2 : หลุยส์ ซาฮา (น.85) , 1-3 : หลุยส์ ซาฮา (น.87)]
ลิเวอร์พูล 3-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : ร็อบบี คีน (น.34) , 2-0 : ร็อบบี คีน (น.43) , 3-0 : อัลวาโร อาร์เบลัว (น.90)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อาร์แซน เวนเกอร์ นำพลพรรค “ยัง กันส์” เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือคู่ปรับ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนัดนี้เจ้าบ้านประสบปัญหาในการจัดทัพเมื่อ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ บาดเจ็บ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ติดโทษแบน ต้องห้อย นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ไว้แดนหน้าคนเดียว แต่ก็ได้ ธีโอ วัลคอตต์, วิลเลียม กัลลาส และ มิคาเอล ซิลแวสตร์ หายเจ็บกลับมา ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทีมเยือนชุดใหญ่มาลอนดอนนำโดย คริสเตียโน โรนัลโด, เวย์น รูนีย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เริ่มเกมการแข่งขันไม่ถึงนาทีดี แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสก่อนจากฟรีคิกสองจังหวะในกรอบโทษ หลังจากที่ เวย์น รูนีย์ ไล่กดดันจน มานูเอล อัลมูเนีย รับบอลส่งคืนหลังจาก มิคาเอล ซิลแวสตร์ แต่ลูกยิงของ อันแดร์สัน ไปติด ปาร์ค จี ซอง พวกเดียวกันเองกระเด้งมาให้ ไมเคิล คาร์ริค อัดซ้ำด้วยซ้ายหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น นาทีที่ 8 ทีมเยือนเฮเก้อ คริสเตียโน โรนัลโด หลุดขึ้นมาทางขวาจ่ายเข้ากลาง ปาร์ค ปล่อยบอลลอดขาให้ เวย์น รูนีย์ ยิงไปติดเซฟ อัลมูเนีย ก่อน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ซ้ำเข้าไป ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าหอกทีมชาติบัลแกเรียเสียก่อน
โอกาสแรกของ อาร์เซนอล มาในนาทีที่ 11 ซาเมียร์ นาสรี แทงบอลให้ กาแอล กลิชี หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนเปิดให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ สอดขึ้นมาโขกบอลข้ามคานไป สองนาทีถัดมาแฟนๆ “ปืนใหญ่” ได้ครางฮือ นาสรี ล่อหลอก แกรี เนวิลล์ ก่อนเปิดโด่งบอลผ่านหัว อาบู ดิยาบี และ เบนด์ทเนอร์ หวุดหวิด ธีโอ วัลคอตต์ จะสอดขึ้นมายิงทางเสาสองก็ไม่ทัน เกมแลกกันอย่างสนุก นาทีที่ 18 “ผีแดง” ได้เสียวบ้าง เบอร์บาตอฟ แตะต่อให้ โรนัลโด ก่อนเปิดเข้ากลาง รูนีย์ ได้แปเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
อีกสี่นาทีถัดมา “ปืนใหญ่” ทะยานนำ 1-0 เมื่อ เบอร์บาตอฟ โขกลูกเตะมุมไม่ขาด นาสรี ตะบันสวนด้วยซ้ายบอลแฉลบเข่า เนวิลล์ เปลี่ยนทางผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปตุงตาข่าย นาทีที่ 28 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นจากฟรีคิก “หนูโด้” กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตูแฉลบศีรษะ กลิชี เกือบเข้าประตูตัวเอง นาทีถัดมาจังหวะสวนกลับ เชส ฟาเบรกาส ได้ยิงบริเวณกรอบเขตโทษบอลสะกิดเท้า เบนด์ทเนอร์ ออกหลัง
ผ่านครึ่งชั่วโมง ทีมเยือนมาบ้าง ปาร์ค ลองอัดด้วยซ้ายร้อนถึง อัลมูเนีย ต้องปัดออกมา นาทีที่ 38 อาร์เซนอล ยังเล่นกันอย่างคึกคักขึ้นไปปั่นป่วนในกรอบโทษ แมนฯ ยูไนเต็ด ลูกคลุกคลิก เบนด์ทเนอร์ ได้จิ้มบอลแต่ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ สองนาทีถัดมาการเติมเกมทางซ้ายของเจ้าถิ่นยังได้ผล กลิชี เปิดบอลให้ วัลคอตต์ วอลเลย์ด้วยขวาข้ามคานไป นาทีท้ายผู้มาเยือนเกือบเฮทิ้งท้าย อันแดร์สัน ลองยิงมุมแคบแต่ อัลมูเนีย คุมเสาไว้ดีรับได้ จบ 45 นาทีแรก “ปืนใหญ่” สลุตนำก่อนในเกมที่สนุกสูสี
เปิดฉากครึ่งหลังแค่ 3 นาที อาร์เซนอล ทิ้งห่าง 2-0 อย่างรวดเร็ว ฟาเบรกาส ป้ายให้ นาสรี ตะบันเหน่งๆ จากบริเวณกรอบโทษล่อเป้า ฟาน เดอร์ ซาร์ สองนาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบกลับมาได้ทันควัน ปาร์ค เปิดบอลไปเสาสองให้ โรนัลโด ยิงเร็วบอลผ่านมือ อัลมูเนีย แต่ก็หลุดเสาออกไปนิดเดียว เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มเกมของ อาร์เซนอล ยังเล่นกันด้วยความมั่นใจ ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องแก้เกมใส่ ราฟาเอล แบ็กขวาดาวรุ่งบราซิเลียนมาเติมเกมแทน เนวิลล์
เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถสร้างความระแคะระคายให้เจ้าบ้าน “เฟอร์กี้” ต้องปรับแดนกลางใส่ ไรอัน กิกส์ มาลองขึ้นเกมแทน อันแดร์สัน นาทีที่ 73 ความสามารถเฉพาะตัวของ นาสรี เล่นงานจน เนมันยา วิดิช ต้องดึงเสื้อเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศสจนล้มในเขตโทษ แต่ โฮเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินใจแข็งเมินให้จุดโทษแก่ อาร์เซนอล 15 นาทีสุดท้าย “ผีแดง” ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายใส่ คาร์ลอส เตเบซ ไปล่าตาข่ายแทน รูนีย์ ทาง อาร์แซน เวนเกอร์ ปรับเอา อัลมูเนีย ที่บาดเจ็บออกให้ ลูคัส ฟาเบียนสกี มาเฝ้าเสาแทน อีกทั้งยังถอด วัลคอตต์ ตามแท็คติกให้ อเล็กซานเดอร์ ซง ช่วยไล่แดนกลาง
ท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เร่งเครื่องหวังหาประตูตีไข่แตกให้ได้ก่อน แต่เกือบโดนจังหวะสวนของ อาร์เซนอล เล่นงาน เบนด์ทเนอร์ ล็อกเข้ายิงในกรอบโทษเรียดเข้ามือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ทีมเยือนได้ลุ้นฟรีคิกอีกครั้ง โรนัลโด ซัดแฉลบกำแพงหลุดกรอบไปอีก นาทีสุดท้าย “ผีแดง” ไล่มา 1-2 จากลูกยิงสวนเข้าไปของ ราฟาเอล แต่ไม่ทันการณ์ จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ “ปืนใหญ่” มีเพิ่มเป็น 23 คะแนนจากการลงสนาม 12 นัดขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด 11 นัด มีอยู่ 21 แต้มเท่าเดิม หล่นมาอยู่อันดับ 4 ของตาราง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , บาการี ซานญา , วิลเลียม กัลลาส , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , กาแอล กลิชี , ธีโอ วัลคอตต์ , อาบู ดิยาบี , เชส ฟาเบรกาส , เดนิลสัน , ซาเมียร์ นาสรี , นิคลาส เบนด์ทเนอร์
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , คริสเตียโน โรนัลโด , ไมเคิล คาร์ริค , อันแดร์สัน , ปาร์ค จี ซอง , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , เวย์น รูนีย์
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
อาร์เซนอล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[1-0 : ซาเมียร์ นาสรี (น.22) , 2-0 : ซาเมียร์ นาสรี (น.48) , 2-1 : ราฟาเอล (น.90)]
วีแกน แอธเลติก 0-0 สโตค ซิตี
ฮัลล์ ซิตี 0-1 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.50)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 ปอร์ทสมัธ
[1-0 : ฌิบริล ซิสเซ (น.4) , 1-1 : นาเดียร์ เบลฮัดจ์ (น.51) , 1-2 : เจอร์เมน เดโฟ (จุดโทษ น.90)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-3 เอฟเวอร์ตัน
[1-0 : แจ็ค คอลลินสัน (น.63) , 1-1 : โจลีน เลสคอตต์ (น.83) , 1-2 : หลุยส์ ซาฮา (น.85) , 1-3 : หลุยส์ ซาฮา (น.87)]
ลิเวอร์พูล 3-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : ร็อบบี คีน (น.34) , 2-0 : ร็อบบี คีน (น.43) , 3-0 : อัลวาโร อาร์เบลัว (น.90)]