คริสเตียโน โรนัลโด ผนึกกำลัง เวย์น รูนีย์ ยิงประตูให้ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านอัด โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 ส่วน “สิงห์บลูส์” เชลซี บุกตะปบ “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี 2-0 กระโดดขึ้นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หวังนำ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บสามแต้มในถิ่นเหนือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เพื่อขยับอันดับขึ้นสู่หัวตารางพรีเมียร์ลีก เกมนี้จึงปล่อย คริสเตียโน โรนัลโด ลงทำเกมรุก แต่ก็พัก เวย์น รูนีย์ เปิดทางให้ คาร์ลอส เตเบซ ล่าตาข่ายร่วมกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ด้าน แกรี เม็กสัน สามารถจัดทีมชุดใหญ่ในการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อได้ โยฮัน เอลมานเดอร์ มาประสานงานแดนหน้ากับ เควิน เดวิส ส่วน แกรี เคฮิลล์ กลับมาประจำการในแผงรับดังเดิม
เริ่มเกมการแข่งขัน โบลตัน วันเดอเรอร์ส ไม่ได้เกรงศักดิ์ศรีแชมป์เก่าเป็นฝ่ายเดินเกมสู้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างสูสีในช่วงต้น ฟาบริซ มูอัมบา ได้ทดสอบฝีมือของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ด้วยการส่องไกล แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับนายทวารดีกรีทีมชาตฮอลแลนด์ จากนั้นเป็น “ผีแดง” ที่ตั้งเกมติดขึงเกมบุกใส่ผู้มาเยือนบ้าง อันแดร์สัน แทงทะลุให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แตะกลับมาให้ คริสเตียโน โรนัลโด ยิงบอลแฉลบแผงหลังเข้าซอง ยุสซี ยัสเคไลเนน
นาทีที่ 12 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้เฮเหมือนกัน เมื่อ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ตั้งป้อมเปิดจากขวาเข้ามาในกรอบโทษอย่างแม่นยำ เบอร์บาตอฟ ขวิดบอลไปเข้ามือ ยัสเคไลเนน ผ่าน 15 นาทีแรก โอกาสของเจ้าถิ่นเริ่มมาเรื่อยๆ คาร์ลอส เตเบซ ซัดไกลนายทวาร “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” ปัดไม่พ้นอันตราย ปาร์ค จี ซอง ตามเข้าไปซ้ำบอลชนข้างตาข่าย เกมเริ่มวันเวย์ “ผีแดง” ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลากลางประตู โรนัลโด วิ่งเข้าไปซัดด้วยขวาร้อนถึง ยัสเคไลเนน ต้องพุ่งปัดพ้นโคนเสาไป
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป โบลตัน ได้จังหวะสวนกลับขึ้นมาได้ลุ้น โยฮัน เอลมานเดอร์ หัวหอกค่าตัวแพงดึงกองหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนจ่ายให้ ริคาร์โด การ์ดเนอร์ ป้ายต่อ เควิน โนแลน เข้ามางัดบอลข้ามหัว ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ก็ข้ามคานออกไป สามนาทีถัดมา อันแดร์สัน ยิงด้วยซ้ายก็ยังโดน ยัสเคไลเนน ปัดพ้นคานไปอีก นาทีที่ 40 ทีมเยือนพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างที่สุด เกรตาร์ สไตน์สสัน เติมขึ้นมาทางขวาเปิดเข้าใน มูอัมบา แปบอลเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง โบลตัน เล่นเอาแฟนๆ กว่า 76,000 คน เสียวไส้ไปตามๆ กัน เมื่อหยอดฟรีคิกเข้าไปกองหลังเจ้าบ้านเคลียร์ไม่ดี การ์ดเนอร์ ได้สวนด้วยซ้ายบอลชนข้างตาข่าย แต่นาทีที่ 48 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบนำเช่นกัน เกวิน แม็คคานน์ ลงไปช่วยเกมรับแต่สกัดผิดเหลี่ยม “หนูโด้” ได้ยิงบอลไปชนเสาออกมา
ถึงหนึ่งชั่วโมงพอดี จังหวะลากเลื้อยของ โรนัลโด ก็ได้ผลเมื่อ เจย์ลอยด์ ซามูเอล ไปเสียท่าสกัดบอลแต่โดนปีกชาวโปรตุกีสลากเท้าเข้าไปโดนจนล้มลงในเขตโทษ ร็อบ สไตลส์ เป่าจุดโทษและเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาดส่ง “ผีแดง” นำ 1-0 ตามต้องการ จากนั้น แกรี เม็กสัน ต้องแก้เกมให้ทีมเยือนถอด เอลมานเดอร์ ซึ่งดูยังไม่ค่อยฟิตออก พร้อมกับส่ง ริคาร์โด วาส เท ไปลุ้นล่าตาข่ายบ้าง
ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขยับส่งเอา พอล สโคลส์ และ เวย์น รูนีย์ ลงสนามพร้อมกับถอด อันแดร์สัน และ เตเบซ ออกมาพัก เนื่องจากกลางสัปดาห์มีคิวเยือน อัลบอร์ก ที่เดนมาร์ก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งก็ได้ผลเมื่อ โรนัลโด หลุดเข้ากรอบโทษก่อนตอกส้นให้ รูนีย์ ล็อกหนึ่งจังหวะก่อนปั่นบอลผ่านมือ ยัสเคไลเนน เสียบมุมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 77
ท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อย หลุยส์ นานี ลงมากระชากลากเลื้อยแทน โรนัลโด และเจ้าหนูโปรตุกีสก็ปั่นป่วนแผงเกมรับ โบลตัน ได้พอสมควร แต่บวกเพิ่มไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยในถิ่น มีเพิ่มเป็น 8 คะแนน จากการลงสนาม 5 นัด กระโดดขึ้นมารั้งที่ 9 ของตาราง ตามหลัง “สิงห์บลูส์” เชลซี จ่าฝูงอยู่ 6 แต้ม แต่ลงสนามน้อยกว่าหนึ่งนัด ส่วน โบลตัน มีอยู่ 4 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 17
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , อันแดร์สัน , ปาร์ค จี ซอง , คริสเตียโน โรนัลโด , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , คาร์ลอส เตเบซ
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน , เกรตาร์ สไตน์สสัน , แอนดี โอไบรอัน , แกรี เคฮิลล์ , เจย์ลอยด์ ซามูเอล , กาวิน แม็คคานน์ , ฟาบริซ มูอัมบา , เควิน โนแลน , ริคาร์โด การ์ดเนอร์ , เควิน เดวิส , โยฮัน เอลมานเดอร์
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
เอฟเวอร์ตัน 0-2 ลิเวอร์พูล
[0-1 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.59) , 0-2 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.62)]
แอสตัน วิลลา 2-1 ซันเดอร์แลนด์
[0-1 : ฌิบริล ซิสเซ (น.10) , 1-1 : แอชลีย์ ยัง (น.18) , 2-1 : ยอน คาริว (น.33)]
ฟูแลม 1-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[0-1 : คาร์ตัน โคล (น.43) , 0-2 : แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน (น.45) , 1-2 : แดนนี เมอร์ฟีย์ (จุดโทษ น.58)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : คริสเตียโน โรนัลโด (จุดโทษ น.60) , 2-0 : เวย์น รูนีย์ (น.77)]
มิดเดิลสโบรช์ 0-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[0-1 : โจนาส โอลส์สัน (น.53)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : คริสโตเฟอร์ แซมบา (น.31) , 0-2 : โรเก ซานตา ครูซ (น.42) , 1-2 : ไมเคิล โอเวน (จุดโทษ น.49)]
สโตค ซิตี 0-2 เชลซี
[0-1 : โฮเซ โบซิงวา (น.36) , 0-2 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.76)]
อาร์เซนอล 1-2 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : พอล แม็คเชน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.50) , 1-1 : โจวานนี (น.62) , 1-2 : ดาเนียล กูแซง (น.66)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หวังนำ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บสามแต้มในถิ่นเหนือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เพื่อขยับอันดับขึ้นสู่หัวตารางพรีเมียร์ลีก เกมนี้จึงปล่อย คริสเตียโน โรนัลโด ลงทำเกมรุก แต่ก็พัก เวย์น รูนีย์ เปิดทางให้ คาร์ลอส เตเบซ ล่าตาข่ายร่วมกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ด้าน แกรี เม็กสัน สามารถจัดทีมชุดใหญ่ในการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อได้ โยฮัน เอลมานเดอร์ มาประสานงานแดนหน้ากับ เควิน เดวิส ส่วน แกรี เคฮิลล์ กลับมาประจำการในแผงรับดังเดิม
เริ่มเกมการแข่งขัน โบลตัน วันเดอเรอร์ส ไม่ได้เกรงศักดิ์ศรีแชมป์เก่าเป็นฝ่ายเดินเกมสู้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างสูสีในช่วงต้น ฟาบริซ มูอัมบา ได้ทดสอบฝีมือของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ด้วยการส่องไกล แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับนายทวารดีกรีทีมชาตฮอลแลนด์ จากนั้นเป็น “ผีแดง” ที่ตั้งเกมติดขึงเกมบุกใส่ผู้มาเยือนบ้าง อันแดร์สัน แทงทะลุให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แตะกลับมาให้ คริสเตียโน โรนัลโด ยิงบอลแฉลบแผงหลังเข้าซอง ยุสซี ยัสเคไลเนน
นาทีที่ 12 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้เฮเหมือนกัน เมื่อ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ตั้งป้อมเปิดจากขวาเข้ามาในกรอบโทษอย่างแม่นยำ เบอร์บาตอฟ ขวิดบอลไปเข้ามือ ยัสเคไลเนน ผ่าน 15 นาทีแรก โอกาสของเจ้าถิ่นเริ่มมาเรื่อยๆ คาร์ลอส เตเบซ ซัดไกลนายทวาร “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” ปัดไม่พ้นอันตราย ปาร์ค จี ซอง ตามเข้าไปซ้ำบอลชนข้างตาข่าย เกมเริ่มวันเวย์ “ผีแดง” ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลากลางประตู โรนัลโด วิ่งเข้าไปซัดด้วยขวาร้อนถึง ยัสเคไลเนน ต้องพุ่งปัดพ้นโคนเสาไป
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป โบลตัน ได้จังหวะสวนกลับขึ้นมาได้ลุ้น โยฮัน เอลมานเดอร์ หัวหอกค่าตัวแพงดึงกองหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนจ่ายให้ ริคาร์โด การ์ดเนอร์ ป้ายต่อ เควิน โนแลน เข้ามางัดบอลข้ามหัว ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ก็ข้ามคานออกไป สามนาทีถัดมา อันแดร์สัน ยิงด้วยซ้ายก็ยังโดน ยัสเคไลเนน ปัดพ้นคานไปอีก นาทีที่ 40 ทีมเยือนพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างที่สุด เกรตาร์ สไตน์สสัน เติมขึ้นมาทางขวาเปิดเข้าใน มูอัมบา แปบอลเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง โบลตัน เล่นเอาแฟนๆ กว่า 76,000 คน เสียวไส้ไปตามๆ กัน เมื่อหยอดฟรีคิกเข้าไปกองหลังเจ้าบ้านเคลียร์ไม่ดี การ์ดเนอร์ ได้สวนด้วยซ้ายบอลชนข้างตาข่าย แต่นาทีที่ 48 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบนำเช่นกัน เกวิน แม็คคานน์ ลงไปช่วยเกมรับแต่สกัดผิดเหลี่ยม “หนูโด้” ได้ยิงบอลไปชนเสาออกมา
ถึงหนึ่งชั่วโมงพอดี จังหวะลากเลื้อยของ โรนัลโด ก็ได้ผลเมื่อ เจย์ลอยด์ ซามูเอล ไปเสียท่าสกัดบอลแต่โดนปีกชาวโปรตุกีสลากเท้าเข้าไปโดนจนล้มลงในเขตโทษ ร็อบ สไตลส์ เป่าจุดโทษและเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาดส่ง “ผีแดง” นำ 1-0 ตามต้องการ จากนั้น แกรี เม็กสัน ต้องแก้เกมให้ทีมเยือนถอด เอลมานเดอร์ ซึ่งดูยังไม่ค่อยฟิตออก พร้อมกับส่ง ริคาร์โด วาส เท ไปลุ้นล่าตาข่ายบ้าง
ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขยับส่งเอา พอล สโคลส์ และ เวย์น รูนีย์ ลงสนามพร้อมกับถอด อันแดร์สัน และ เตเบซ ออกมาพัก เนื่องจากกลางสัปดาห์มีคิวเยือน อัลบอร์ก ที่เดนมาร์ก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งก็ได้ผลเมื่อ โรนัลโด หลุดเข้ากรอบโทษก่อนตอกส้นให้ รูนีย์ ล็อกหนึ่งจังหวะก่อนปั่นบอลผ่านมือ ยัสเคไลเนน เสียบมุมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 77
ท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อย หลุยส์ นานี ลงมากระชากลากเลื้อยแทน โรนัลโด และเจ้าหนูโปรตุกีสก็ปั่นป่วนแผงเกมรับ โบลตัน ได้พอสมควร แต่บวกเพิ่มไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยในถิ่น มีเพิ่มเป็น 8 คะแนน จากการลงสนาม 5 นัด กระโดดขึ้นมารั้งที่ 9 ของตาราง ตามหลัง “สิงห์บลูส์” เชลซี จ่าฝูงอยู่ 6 แต้ม แต่ลงสนามน้อยกว่าหนึ่งนัด ส่วน โบลตัน มีอยู่ 4 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 17
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , อันแดร์สัน , ปาร์ค จี ซอง , คริสเตียโน โรนัลโด , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , คาร์ลอส เตเบซ
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน , เกรตาร์ สไตน์สสัน , แอนดี โอไบรอัน , แกรี เคฮิลล์ , เจย์ลอยด์ ซามูเอล , กาวิน แม็คคานน์ , ฟาบริซ มูอัมบา , เควิน โนแลน , ริคาร์โด การ์ดเนอร์ , เควิน เดวิส , โยฮัน เอลมานเดอร์
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
เอฟเวอร์ตัน 0-2 ลิเวอร์พูล
[0-1 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.59) , 0-2 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.62)]
แอสตัน วิลลา 2-1 ซันเดอร์แลนด์
[0-1 : ฌิบริล ซิสเซ (น.10) , 1-1 : แอชลีย์ ยัง (น.18) , 2-1 : ยอน คาริว (น.33)]
ฟูแลม 1-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[0-1 : คาร์ตัน โคล (น.43) , 0-2 : แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน (น.45) , 1-2 : แดนนี เมอร์ฟีย์ (จุดโทษ น.58)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : คริสเตียโน โรนัลโด (จุดโทษ น.60) , 2-0 : เวย์น รูนีย์ (น.77)]
มิดเดิลสโบรช์ 0-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[0-1 : โจนาส โอลส์สัน (น.53)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : คริสโตเฟอร์ แซมบา (น.31) , 0-2 : โรเก ซานตา ครูซ (น.42) , 1-2 : ไมเคิล โอเวน (จุดโทษ น.49)]
สโตค ซิตี 0-2 เชลซี
[0-1 : โฮเซ โบซิงวา (น.36) , 0-2 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.76)]
อาร์เซนอล 1-2 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : พอล แม็คเชน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.50) , 1-1 : โจวานนี (น.62) , 1-2 : ดาเนียล กูแซง (น.66)]
