ไมเคิล โอเวน หัวหอกตัวเก่งของทีม “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล สามารถช่วยทีมได้อีกครั้งเมื่อซัดประตูตีเสมอให้กับทีมในครึ่งหลัง ทำให้สามารถบุกไปคว้า 1 คะแนนมาจากถิ่นเซนต์แอนดรูส์ของ “ลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ได้สำเร็จ ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ไนต์เมื่อคืนที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม 2551
เบอร์มิงแฮม 1-1 นิวคาสเซิล
เกมพรีเมียร์ลีกในคืน “มันเดย์ไนต์” เป็นการพบกับของสองทีมท้ายตาราง “ลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ทีมอันดับที่ 17 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ทีมอันดับที่ 15 เกมนี้ อเล็กซ์ แม็คลิช กุนซือเบอร์มิงแฮม ซิตี ไม่สามารถใช้งาน ฟรองค์ เกอดรู และ โอลิวิเยร์ กาโป ได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่ โดยวางให้ มิคาเอล ฟอร์สเซล ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ เจมส์ แม็คฟาสเดน ด้าน นิวคาสเซิล พกสถิติอันเลวร้ายมาเยือนด้วยการชนะเพียงนัดเดียวจาก 15 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ เกมนี้ เควิน คีแกน ผู้จัดการทีมหวังจะเอาชนะเจ้าถิ่นให้ได้ โดยใช้กองหน้า 3 คน ลงไล่ล่าประตูร่วมกันตั้งแต่ต้นเกม ทั้ง มาร์ค วิดูกา ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา, ไมเคิล โอเวน และ โอบาเฟมี มาร์ติน
เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที เป็นเบอร์มิงแฮมที่ได้โอกาสลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่กองหลังของนิวคาสเซิลสกัดกันไม่ขาดบอลหลุดมาถึง เจมส์ แม็คฟาดเดน กดจากนอกกรอบเขตโทษบอลแฉลบ ฮาบิบ เบย์ ออกข้างเสาไปนิดเดียว
หลังจากนั้น อีกแค่สามนาที กองหลังทีมเยือนเคลียร์บอลไม่ขาดอีกครั้ง บอลหลุดมาถึง ฟาบริซ มูอัมบา ในกรอบเขตโทษทางด้านซ้ายปั่นบอลด้วยขวาข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น จากนั้นในนาทีที่ 14 มิคาเอล ฟอร์สเซล กองหน้าเบอร์มิงแฮม ก็เกือบทำประตูให้กับเจ้าบ้านได้ เมื่อได้โอกาสพลิกยิงหน้าประตูบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปฉิวเฉียด
นิวคาสเซิล ได้โอกาสยิงประตูเป็นครั้งแรกของเกมบ้างในนาทีที่ 25 เมื่อ โอบาเฟมี มาร์ติน ได้บอลจากการเล่นฟรีคิกเร็วก่อนแตะให้กับ ไมเคิล โอเวน ยิงจากระยะ 25 หลาบอลเหินข้ามคานออกไป
แต่หลังจากนั้นอีกแค่ 8 นาที เจ้าบ้านที่สามารถเดินเกมรุกได้มากกว่าก็มาทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เดวิด เมอร์ฟี เติมเกมขึ้นมาทางด้านกราบซ้ายก่อนโยนให้กับ แม็คฟาดเดน ดูดบอลหนี อับดุลลาเย ฟาย ในเขตโทษและจิ้มด้วยซ้ายผ่านมือ สตีฟ ฮาร์เปอร์ เข้าไปง่ายๆ เบอร์มิงแฮม ขึ้นนำ 1-0
เมื่อเสียประตูแรกไปทีมเยือนพยายามบุกขึ้นมา เพื่อที่จะทวงประตูคืน และก็เกือบได้ในช่วงทดเวลาเจ็บของครึ่งแรก เมื่อ โจอี บาร์ตัน โยนบอลจากกราบขวาเข้ามา และเป็น สตีเฟน เคลลี ที่สกัดบอลผิดเหลี่ยมพุ่งไปหาหน้าปากประตูของตัวเอง แต่ดีที่ ไมค์ เทย์เลอร์ ไม่หลับคว้าบอลไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก เจ้าบ้านนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ห้านาที นิวคาสเซิลก็เกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกโยนจากทางกราบซ้ายของ โฆเซ เอ็นริเก บอลหลุดมาเข้าทาง ฟอร์สเซส กองหน้าทีม “ลูกโลก” ที่ลงไปช่วยเกมรับแต่จับบอลไม่ดี ทำให้บอลหลุดมาถึงโอเวน แต่หัวหอกทีมชาติอังกฤษจิ้มบอลไปติดตัว เทย์เลอร์ กระดอนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วความพยายามของทีมเยือนก็มาเป็นผลสำเร็จในนาทีที่ 56 โดยเริ่มจากที่กองหลังของเบอร์มิงแฮมสกัดกันไม่ขาดบอลหลุดมาถึงมาร์ติน ได้ยิงเต็มแรงด้วยขวา เทย์เลอร์ ปัดออกมาไม่พ้นอันตราย และเป็น โอเวน วิ่งปรี่เข้ามาทิ่มบอลตรงเส้น 6 หลาตุงตาข่ายเข้าไป นิวคาสเซิลตามตีเสมอเป็น 1-1
หลังจากได้ประตูตีเสมอนิวคาสเซิล เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที และ โอบาเฟมี มาร์ติน ได้ลองซัดไกลระยะ 30 หลาอีกครั้งแต่บอลข้ามคาน จากนั้นเบอร์มิงแฮมได้บุกโต้ขึ้นมาบ้าง จนได้ลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายของสนาม เจมส์ แม็คเชฟฟรีย์ เปิดเข้ามาหน้าประตู สตีเฟน เทย์เลอร์ สกัดออกมาไม่ดี บอลมาเข้าทาง สจ๊วรต พาร์นาบี ตัวสำรองพุ่งโขกข้ามคานออกไปไม่ไกล
เกมเริ่มเปิดมากขึ้น นาทีที่ 65 เอ็นริเก ได้โอกาสลากตะลุยขึ้นมาซัดไกลจากระยะ 25 หลาแต่ เทย์เลอร์ ยังไวปัดบอลออกหลังไปได้ จากนั้นอีกสองนาทียังคงเป็นนิวคาสเซิลที่ได้ลุ้นประตูอีกครั้ง เมื่อ โอเวน เปิดจากด้านขวาให้กับมาร์ตินจับและพลิกยิงด้วยขวา แต่ เทย์เลอร์ ยังล้มตัวปัดป้องเอาไว้ได้อีกครั้ง
เบอร์มิงแฮม เปิดเกมรุกตอบโต้กลับมาบ้าง ในนาที่ 77 คาเมรอน เจโรม ตัวสำรองได้ลากขึ้นมาซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ ฮาร์เปอร์ นาทีสุดท้าย เมาโร มาเทียส ซาราเต ตัวสำรองของเบอร์มิงแฮมได้เลี้ยงตัดจากขวามายิงด้วยซ้ายบอลไซด์ก้อยออกข้างเสาไป ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทั้งสองทีมพยายามที่จะเปิดเกมรุกเข้าหากันแต่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มกันได้ทำให้ครบ 90 นาทีเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เบอร์มิงแฮม : ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟน เคลลี, ราดี จาอิดี, เลียม ริดจ์เวลล์, เดวิด เมอร์ฟี, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ฟาบริซ มูอัมบา, เดเมียน จอห์นสัน, แกรี แม็คเชฟฟรีย์, เจมส์ แม็คฟาดเดน, มิคาเอล ฟอร์สเซล
นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์, ฮาบิบ เบย์, อับดูลาย ฟาย, สตีเวน เทย์เลอร์, โฆเซ เอ็นริเก, เจเรมี, นิคกี บัตต์, โจอี บาร์ตัน, โอบาเฟมี มาร์ติน, ไมเคิ่ล โอเวน, มาร์ค วิดูกา
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม 2551
เบอร์มิงแฮม 1-1 นิวคาสเซิล
เกมพรีเมียร์ลีกในคืน “มันเดย์ไนต์” เป็นการพบกับของสองทีมท้ายตาราง “ลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ทีมอันดับที่ 17 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ทีมอันดับที่ 15 เกมนี้ อเล็กซ์ แม็คลิช กุนซือเบอร์มิงแฮม ซิตี ไม่สามารถใช้งาน ฟรองค์ เกอดรู และ โอลิวิเยร์ กาโป ได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่ โดยวางให้ มิคาเอล ฟอร์สเซล ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ เจมส์ แม็คฟาสเดน ด้าน นิวคาสเซิล พกสถิติอันเลวร้ายมาเยือนด้วยการชนะเพียงนัดเดียวจาก 15 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ เกมนี้ เควิน คีแกน ผู้จัดการทีมหวังจะเอาชนะเจ้าถิ่นให้ได้ โดยใช้กองหน้า 3 คน ลงไล่ล่าประตูร่วมกันตั้งแต่ต้นเกม ทั้ง มาร์ค วิดูกา ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา, ไมเคิล โอเวน และ โอบาเฟมี มาร์ติน
เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที เป็นเบอร์มิงแฮมที่ได้โอกาสลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่กองหลังของนิวคาสเซิลสกัดกันไม่ขาดบอลหลุดมาถึง เจมส์ แม็คฟาดเดน กดจากนอกกรอบเขตโทษบอลแฉลบ ฮาบิบ เบย์ ออกข้างเสาไปนิดเดียว
หลังจากนั้น อีกแค่สามนาที กองหลังทีมเยือนเคลียร์บอลไม่ขาดอีกครั้ง บอลหลุดมาถึง ฟาบริซ มูอัมบา ในกรอบเขตโทษทางด้านซ้ายปั่นบอลด้วยขวาข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น จากนั้นในนาทีที่ 14 มิคาเอล ฟอร์สเซล กองหน้าเบอร์มิงแฮม ก็เกือบทำประตูให้กับเจ้าบ้านได้ เมื่อได้โอกาสพลิกยิงหน้าประตูบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปฉิวเฉียด
นิวคาสเซิล ได้โอกาสยิงประตูเป็นครั้งแรกของเกมบ้างในนาทีที่ 25 เมื่อ โอบาเฟมี มาร์ติน ได้บอลจากการเล่นฟรีคิกเร็วก่อนแตะให้กับ ไมเคิล โอเวน ยิงจากระยะ 25 หลาบอลเหินข้ามคานออกไป
แต่หลังจากนั้นอีกแค่ 8 นาที เจ้าบ้านที่สามารถเดินเกมรุกได้มากกว่าก็มาทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เดวิด เมอร์ฟี เติมเกมขึ้นมาทางด้านกราบซ้ายก่อนโยนให้กับ แม็คฟาดเดน ดูดบอลหนี อับดุลลาเย ฟาย ในเขตโทษและจิ้มด้วยซ้ายผ่านมือ สตีฟ ฮาร์เปอร์ เข้าไปง่ายๆ เบอร์มิงแฮม ขึ้นนำ 1-0
เมื่อเสียประตูแรกไปทีมเยือนพยายามบุกขึ้นมา เพื่อที่จะทวงประตูคืน และก็เกือบได้ในช่วงทดเวลาเจ็บของครึ่งแรก เมื่อ โจอี บาร์ตัน โยนบอลจากกราบขวาเข้ามา และเป็น สตีเฟน เคลลี ที่สกัดบอลผิดเหลี่ยมพุ่งไปหาหน้าปากประตูของตัวเอง แต่ดีที่ ไมค์ เทย์เลอร์ ไม่หลับคว้าบอลไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก เจ้าบ้านนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ห้านาที นิวคาสเซิลก็เกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกโยนจากทางกราบซ้ายของ โฆเซ เอ็นริเก บอลหลุดมาเข้าทาง ฟอร์สเซส กองหน้าทีม “ลูกโลก” ที่ลงไปช่วยเกมรับแต่จับบอลไม่ดี ทำให้บอลหลุดมาถึงโอเวน แต่หัวหอกทีมชาติอังกฤษจิ้มบอลไปติดตัว เทย์เลอร์ กระดอนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วความพยายามของทีมเยือนก็มาเป็นผลสำเร็จในนาทีที่ 56 โดยเริ่มจากที่กองหลังของเบอร์มิงแฮมสกัดกันไม่ขาดบอลหลุดมาถึงมาร์ติน ได้ยิงเต็มแรงด้วยขวา เทย์เลอร์ ปัดออกมาไม่พ้นอันตราย และเป็น โอเวน วิ่งปรี่เข้ามาทิ่มบอลตรงเส้น 6 หลาตุงตาข่ายเข้าไป นิวคาสเซิลตามตีเสมอเป็น 1-1
หลังจากได้ประตูตีเสมอนิวคาสเซิล เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที และ โอบาเฟมี มาร์ติน ได้ลองซัดไกลระยะ 30 หลาอีกครั้งแต่บอลข้ามคาน จากนั้นเบอร์มิงแฮมได้บุกโต้ขึ้นมาบ้าง จนได้ลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายของสนาม เจมส์ แม็คเชฟฟรีย์ เปิดเข้ามาหน้าประตู สตีเฟน เทย์เลอร์ สกัดออกมาไม่ดี บอลมาเข้าทาง สจ๊วรต พาร์นาบี ตัวสำรองพุ่งโขกข้ามคานออกไปไม่ไกล
เกมเริ่มเปิดมากขึ้น นาทีที่ 65 เอ็นริเก ได้โอกาสลากตะลุยขึ้นมาซัดไกลจากระยะ 25 หลาแต่ เทย์เลอร์ ยังไวปัดบอลออกหลังไปได้ จากนั้นอีกสองนาทียังคงเป็นนิวคาสเซิลที่ได้ลุ้นประตูอีกครั้ง เมื่อ โอเวน เปิดจากด้านขวาให้กับมาร์ตินจับและพลิกยิงด้วยขวา แต่ เทย์เลอร์ ยังล้มตัวปัดป้องเอาไว้ได้อีกครั้ง
เบอร์มิงแฮม เปิดเกมรุกตอบโต้กลับมาบ้าง ในนาที่ 77 คาเมรอน เจโรม ตัวสำรองได้ลากขึ้นมาซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ ฮาร์เปอร์ นาทีสุดท้าย เมาโร มาเทียส ซาราเต ตัวสำรองของเบอร์มิงแฮมได้เลี้ยงตัดจากขวามายิงด้วยซ้ายบอลไซด์ก้อยออกข้างเสาไป ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทั้งสองทีมพยายามที่จะเปิดเกมรุกเข้าหากันแต่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มกันได้ทำให้ครบ 90 นาทีเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เบอร์มิงแฮม : ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟน เคลลี, ราดี จาอิดี, เลียม ริดจ์เวลล์, เดวิด เมอร์ฟี, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ฟาบริซ มูอัมบา, เดเมียน จอห์นสัน, แกรี แม็คเชฟฟรีย์, เจมส์ แม็คฟาดเดน, มิคาเอล ฟอร์สเซล
นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์, ฮาบิบ เบย์, อับดูลาย ฟาย, สตีเวน เทย์เลอร์, โฆเซ เอ็นริเก, เจเรมี, นิคกี บัตต์, โจอี บาร์ตัน, โอบาเฟมี มาร์ติน, ไมเคิ่ล โอเวน, มาร์ค วิดูกา