แฟรงค์ แลมพาร์ด กดไปคนเดียว 4 ประตูช่วยให้ “สิงห์บลูส์” เชลซี เปิดบ้านไล่ตะปบเอาชนะ “แกะเขาเหล็ก” ดาร์บี เคาน์ตี 6-1 พร้อมทำคะแนนไล่หลัง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จ่าฝูงเหลือห้าแต้มในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เชลซี 6-1 ดาร์บี เคาน์ตี
อัฟราม แกรนท์ หวังนำ “สิงห์บลูส์” เชลซี กลับมาจากวิกฤตหลังพลิกตกรอบเอฟเอ คัพ โดยเกมนี้เจ้าบ้านขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มสูบ นำโดย จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด และมิชาเอล บัลลัค ส่วนกองหน้าเลือกใช้บริการ นิโกลาส์ อเนลกา ขณะที่ พอล จีเวลล์ ลุ้นให้ “แกะเขาเหล็ก” ดาร์บี เคาน์ตี ทำคะแนนให้ได้มากที่สุดแม้โอกาสรอดหนีตกชั้นแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว นัดนี้ทีมเยือนต้องพึ่งการลุ้นทำประตูของ เคนนี มิลเลอร์ ซึ่งยืนเป็นตัวเป้า
เริ่มเกมขึ้นมาไม่ถึงห้านาทีดี เชลซี เกือบได้ประตูนำตั้งแต่หัววัน แต่จังหวะหลุดเข้าไปยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ดันซัดบอลจ่อๆ ไปกระแทกเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 9 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง ซาโลมอน กาลู ได้ตะบันจากนอกกรอบบอลพุ่งไปแฉลบหน้า ดาร์เรน มัวร์ ออกหลังไป ครึ่งทางของครึ่งแรก มิชาเอล บัลลัค ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
ถึงนาทีที่ 27 “สิงห์บลูส์” ขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ โจ โคล แทงบอลเข้าเขตโทษให้ แลมพาร์ด ก่อนมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษจะโดน ดีน ลีค็อก กองหลังตัวสำรองที่ลงมาเล่นแทน อลัน สตับบ์ส เสียบคว่ำก่อนที่ “แลมพ์” จะลุกขึ้นมาสังหารลูกโทษไม่พลาด จากนั้นเจ้าถิ่นยังเป็นฝ่ายครองเกมบุกอยู่แทบจะฝ่ายเดียว และนาทีที่ 42 เชลซี ก็ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ รอย คาร์โรลล์ ออกมาเคลียร์บอลนอกเส้นไม่ดีเข้าทางให้ กาลู แปสวนระยะกว่า 35 หลาเข้ากลางประตูและก็จบครึ่งแรกไป
ลงมาลุยต่อกันในครึ่งหลัง เชลซี ออกมาเดินเกมบุกต่อไปและก็เกือบทิ้งห่างอย่างรวดเร็วเมื่อ แลมพาร์ด ลากหลบก่อนหลัง ดาร์บี เข้าไปกึ่งยิงกึ่งผ่าน โจ โคล พยายามแหย่เท้าเปลี่ยนทางก็ไม่ทันบอลพุ่งหลุดกรอบออกไป นาทีที่ 51 เจ้าถิ่นบุกมาทางกราบซ้าย กาลู เปิดบอลให้ นิโกลาส์ อเนลกา ได้ขวิดแต่บอลก็อย่างถากเสาไปอีก แต่อีกหกนาทีสกอร์ไหลเป็น 3-0 จนได้ โคลจิ๋ว ลากบอลไปสุดเส้นหลังก่อนปาดให้ แลมพาร์ด แปจ่อๆ เข้าไป
สกอร์เป็นไปแบบวันเวย์ นาทีที่ 64 “สิงห์บลูส์” ตะปบห่างเป็น 4-0 อเนลกา หลุดกับดักล้ำหน้าไปยิงติดเซฟ คาร์โรลล์ ทว่ามาเข้าทางให้ โจ โคล ซ้ำเข้าไปง่ายๆ สองนาทีถัดมาแฟนๆ เจ้าบ้านได้เฮเป็นคำรบที่ห้า “แลมพ์” ซัดไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งเสียบเสาให้ทีมทิ้งไปไกล 5-0 นาทีที่ 72 เชลซี ยังไม่ยอมเลิกราในการทำประตูและ แลมพาร์ด อาศัยความแข็งแกร่งเบียดแผงรับทีมเยือนก่อนสับด้วยซ้ายส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายอีกครั้งสกอร์ไหลไปถึง 6-0
ทว่า นาทีถัดมา “แกะเขาเหล็ก” ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-6 จากการเสียสมาธิของแผงรับเจ้าบ้านก่อนที่ เดวิด โจนส์ มิดฟิลด์ซึ่งลงมาเป็นสำรองจะหลุดเข้าไปยิงบอลผ่านมือ คาร์โล คูดิชินี แต่ก็ไม่มีความหมายหมดเวลาการแข่งขัน เชลซี เปิดบ้านถล่มเอาชนะไปอย่างขาดลอยเก็บเพิ่มเป็น 61 คะแนนจากการลงสนาม 28 นัดรั้งอันดับ 3 ตามหลัง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จ่าฝูงอยู่ 5 แต้มแต่ลงแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ ดาร์บี เคาน์ตี มีอยู่ 10 คะแนนจมบ๊วยเหมือนเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : คาร์โล คูดิชินี , เปาโล แฟร์ไรรา , จอห์น เทอร์รี , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , แอชลีย์ โคล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , โคลด มาเกเลเล , มิชาเอล บัลลัค , โจ โคล , นิโกลาส์ อเนลกา , ซาโลมอน กาลู
ดาร์บี : รอย คาร์โรลล์ , มาร์ค เอ็ดเวอร์ธีย์ , ดาร์เรน มัวร์ , อลัน สตับบ์ส , เจมส์ แม็คอีฟลีย์ , ไมล์ สเตอร์ยอฟสกี , ร็อบบี ซาเวจ , ฮอสซัม กาลี , สตีเฟน เพียร์สัน , เอ็ดดี ลูอิส , เคนนี มิลเลอร์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำคืนวันพุธ
แอสตัน วิลลา 1-1 มิดเดิลสโบรช์
[0-1 : สจวร์ต ดาวนิง (น.22) , 1-1 : แกเร็ธ แบร์รี (จุดโทษ น.74)]
เชลซี 6-1 ดาร์บี เคาน์ตี
[1-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.27) , 2-0 : ซาโลมอน กาลู (น.42) , 3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.57) , 4-0 : โจ โคล (น.64) , 5-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.66) , 6-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.72) , 6-1 : เดวิด โจนส์ (น.73)]
ปอร์ทสมัธ 4-2 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : เจอร์เมน เดโฟ (จุดโทษ น.6) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.8) , 2-1 : ฟาบริซ มูอัมบา (น.9) , 2-2 : เซบาสเตียน ลาร์สสัน (น.39) , 3-2 : เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน (น.49) , 4-2 : เอ็นวานโก คานู (น.90)]
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เชลซี 6-1 ดาร์บี เคาน์ตี
อัฟราม แกรนท์ หวังนำ “สิงห์บลูส์” เชลซี กลับมาจากวิกฤตหลังพลิกตกรอบเอฟเอ คัพ โดยเกมนี้เจ้าบ้านขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มสูบ นำโดย จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด และมิชาเอล บัลลัค ส่วนกองหน้าเลือกใช้บริการ นิโกลาส์ อเนลกา ขณะที่ พอล จีเวลล์ ลุ้นให้ “แกะเขาเหล็ก” ดาร์บี เคาน์ตี ทำคะแนนให้ได้มากที่สุดแม้โอกาสรอดหนีตกชั้นแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว นัดนี้ทีมเยือนต้องพึ่งการลุ้นทำประตูของ เคนนี มิลเลอร์ ซึ่งยืนเป็นตัวเป้า
เริ่มเกมขึ้นมาไม่ถึงห้านาทีดี เชลซี เกือบได้ประตูนำตั้งแต่หัววัน แต่จังหวะหลุดเข้าไปยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ดันซัดบอลจ่อๆ ไปกระแทกเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 9 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง ซาโลมอน กาลู ได้ตะบันจากนอกกรอบบอลพุ่งไปแฉลบหน้า ดาร์เรน มัวร์ ออกหลังไป ครึ่งทางของครึ่งแรก มิชาเอล บัลลัค ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
ถึงนาทีที่ 27 “สิงห์บลูส์” ขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ โจ โคล แทงบอลเข้าเขตโทษให้ แลมพาร์ด ก่อนมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษจะโดน ดีน ลีค็อก กองหลังตัวสำรองที่ลงมาเล่นแทน อลัน สตับบ์ส เสียบคว่ำก่อนที่ “แลมพ์” จะลุกขึ้นมาสังหารลูกโทษไม่พลาด จากนั้นเจ้าถิ่นยังเป็นฝ่ายครองเกมบุกอยู่แทบจะฝ่ายเดียว และนาทีที่ 42 เชลซี ก็ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ รอย คาร์โรลล์ ออกมาเคลียร์บอลนอกเส้นไม่ดีเข้าทางให้ กาลู แปสวนระยะกว่า 35 หลาเข้ากลางประตูและก็จบครึ่งแรกไป
ลงมาลุยต่อกันในครึ่งหลัง เชลซี ออกมาเดินเกมบุกต่อไปและก็เกือบทิ้งห่างอย่างรวดเร็วเมื่อ แลมพาร์ด ลากหลบก่อนหลัง ดาร์บี เข้าไปกึ่งยิงกึ่งผ่าน โจ โคล พยายามแหย่เท้าเปลี่ยนทางก็ไม่ทันบอลพุ่งหลุดกรอบออกไป นาทีที่ 51 เจ้าถิ่นบุกมาทางกราบซ้าย กาลู เปิดบอลให้ นิโกลาส์ อเนลกา ได้ขวิดแต่บอลก็อย่างถากเสาไปอีก แต่อีกหกนาทีสกอร์ไหลเป็น 3-0 จนได้ โคลจิ๋ว ลากบอลไปสุดเส้นหลังก่อนปาดให้ แลมพาร์ด แปจ่อๆ เข้าไป
สกอร์เป็นไปแบบวันเวย์ นาทีที่ 64 “สิงห์บลูส์” ตะปบห่างเป็น 4-0 อเนลกา หลุดกับดักล้ำหน้าไปยิงติดเซฟ คาร์โรลล์ ทว่ามาเข้าทางให้ โจ โคล ซ้ำเข้าไปง่ายๆ สองนาทีถัดมาแฟนๆ เจ้าบ้านได้เฮเป็นคำรบที่ห้า “แลมพ์” ซัดไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งเสียบเสาให้ทีมทิ้งไปไกล 5-0 นาทีที่ 72 เชลซี ยังไม่ยอมเลิกราในการทำประตูและ แลมพาร์ด อาศัยความแข็งแกร่งเบียดแผงรับทีมเยือนก่อนสับด้วยซ้ายส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายอีกครั้งสกอร์ไหลไปถึง 6-0
ทว่า นาทีถัดมา “แกะเขาเหล็ก” ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-6 จากการเสียสมาธิของแผงรับเจ้าบ้านก่อนที่ เดวิด โจนส์ มิดฟิลด์ซึ่งลงมาเป็นสำรองจะหลุดเข้าไปยิงบอลผ่านมือ คาร์โล คูดิชินี แต่ก็ไม่มีความหมายหมดเวลาการแข่งขัน เชลซี เปิดบ้านถล่มเอาชนะไปอย่างขาดลอยเก็บเพิ่มเป็น 61 คะแนนจากการลงสนาม 28 นัดรั้งอันดับ 3 ตามหลัง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จ่าฝูงอยู่ 5 แต้มแต่ลงแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ ดาร์บี เคาน์ตี มีอยู่ 10 คะแนนจมบ๊วยเหมือนเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : คาร์โล คูดิชินี , เปาโล แฟร์ไรรา , จอห์น เทอร์รี , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , แอชลีย์ โคล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , โคลด มาเกเลเล , มิชาเอล บัลลัค , โจ โคล , นิโกลาส์ อเนลกา , ซาโลมอน กาลู
ดาร์บี : รอย คาร์โรลล์ , มาร์ค เอ็ดเวอร์ธีย์ , ดาร์เรน มัวร์ , อลัน สตับบ์ส , เจมส์ แม็คอีฟลีย์ , ไมล์ สเตอร์ยอฟสกี , ร็อบบี ซาเวจ , ฮอสซัม กาลี , สตีเฟน เพียร์สัน , เอ็ดดี ลูอิส , เคนนี มิลเลอร์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำคืนวันพุธ
แอสตัน วิลลา 1-1 มิดเดิลสโบรช์
[0-1 : สจวร์ต ดาวนิง (น.22) , 1-1 : แกเร็ธ แบร์รี (จุดโทษ น.74)]
เชลซี 6-1 ดาร์บี เคาน์ตี
[1-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.27) , 2-0 : ซาโลมอน กาลู (น.42) , 3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.57) , 4-0 : โจ โคล (น.64) , 5-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.66) , 6-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.72) , 6-1 : เดวิด โจนส์ (น.73)]
ปอร์ทสมัธ 4-2 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : เจอร์เมน เดโฟ (จุดโทษ น.6) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.8) , 2-1 : ฟาบริซ มูอัมบา (น.9) , 2-2 : เซบาสเตียน ลาร์สสัน (น.39) , 3-2 : เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน (น.49) , 4-2 : เอ็นวานโก คานู (น.90)]
