ลิเวอร์พูล รักษาตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เอาไว้ได้อีกนัด หลังเปิดบ้านเฉือน ปอร์ทสมัธ 1-0 โดยได้ประตูชัยจากจุดโทษของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ขณะที่ อาร์เซนอล พลาดท่าถูก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ยิงช่วงทดเจ็บก่อนเสมอแบบมโหฬาร 4-4 ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี กำชัยหายห่วง
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2551
ลิเวอร์พูล 1 – 0 ปอร์ทสมัธ
ศึกลูกหนังลีกสูงสุดเมืองผู้ดี นัดกลางสัปดาห์ ลิเวอร์พูล เฝ้ารังแอนฟิลด์ต้อนรับ ปอร์ทสมัธ โดยเจ้าบ้านเปลี่ยนผู้เล่นจากชุดที่บุกไปชนะ เชลซี 1-0 หลายรายด้วยการส่ง ซามี ฮูเปีย, ลูคัส เลวา, เจอร์เมน เพนแนนท์ และ ไรอัน บาเบล ลงสนาม พร้อมทั้งดัน เดิร์ก เคาท์ ขึ้นไปเป็นศูนย์หน้า ส่วน โทนี อดัมส์ ที่ประเดิมงานผู้จัดการทีมนัดแรกให้อาคันตุกะมี ลาสซานา ดิยาร์รา เป็นตัวทำเกม และ ปีเตอร์ เคราช์ เด็กเก่าหงส์แดงยืนค้ำในแดนหน้า
เปิดฉากมาได้ไม่ถึง 1 นาที ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นทำประตูครั้งแรกของเกมก่อนจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดไปที่เสาแรกถูกกองหลังปอมปีย์โหม่งสกัดไปเข้าทาง เคาท์ ตวัดยิงด้วยขวาแถวเส้นเขตโทษ โด่งข้ามคานออกไปไกล
จากนั้น นาทีที่ 9 เคาท์ เกือบเจาะตาข่ายทีมเยือนได้จากการซัดเน้นๆ หน้าเขตโทษ ถูก เดวิด เจมส์ ล้มตัวปัดไปชนเสา ก่อนถูกเคลียร์พ้นอันตราย นาทีที่ 11 ฟาบิโอ ออเรลิโอ วางลูกเตะมุมมาให้ ลูคัส เลวา ขึ้นโขกคนเดียวแถวจุดโทษส่งลูกข้ามคานออกหลัง
เจ้าถิ่นยังคงเดินหน้ารุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 17 เจอร์ราร์ด กระหน่ำฟรีคิกเยื้องไปทางด้านขวาติดกำแพง ทว่า หงส์แดงที่บุกอยู่เพลินๆ ก็เกือบถูกลูบคมในนาทีที่ 26 เมื่อ ฌอน เดวิส หยอดบอลจากเขตโทษด้านซ้ายมาให้ ปาปา บูบา ดิย็อป โหม่งคนเดียวโล่งๆ หน้าประตู แต่บังคับทิศทางไม่ดีจึงเข้าซองของ โฮเซ เรนา
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก เจมี คาร์ราเกอร์ เก็บตกจากลูกฟรีคิกที่ เจอร์ราร์ด อัดไปกระดอนกำแพงแล้วกดเต็มข้อนอกเขตโทษ แต่ เจมส์ ยังล้มตัวรับได้อยู่หมัด นาทีที่ 40 เจอร์ราร์ด พาบอลตัดจากขวาเข้ากลางหนีมา 3-4 คน ก่อนไหลต่อให้ เคาท์ ซัดในเขตโทษส่งลูกพุ่งกระทบตาข่ายด้านข้าง
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจอร์ราร์ด ได้เข่นแบบเน้นๆ หน้าเขตโทษ แต่ เจมส์ ล้มตัวทุบออกมาได้อีก ก่อนที่ อัลบาโร อาร์เบลัว จะสบโอกาสขึ้นมารับลูกเตะมุมเรียดแล้วแปหนีมือ เจมส์ หวังให้เข้าเสาสอง แต่ก็ผ่านหน้าประตูออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง รูปเกมยังเป็น ลิเวอร์พูล ที่ดาหน้าบุกอยู่แทบจะข้างเดียว นาทีที่ 52 เจอร์ราร์ด ได้บอลหลุดเข้าไปหักข้อกึ่งยิงกึ่งผ่านในเขตโทษ ลูกบดออกไปทางเสาสอง นาทีที่ 56 ออเรลิโอ เปิดโด่งจากทางซ้ายให้ เคาท์ ขึ้นโหม่งบอลย้อยเข้ามือ เจมส์
หงส์แดง ใกล้เคียงกับการออกนำอย่างยิ่งในนาทีที่ 59 โดย ซามี ฮูเปีย โฉบเข้ามาลูกเตะมุมของ เจอร์ราร์ด ที่เสาแรก บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปเพียงนิดเดียว นาทีที่ 70 เคาท์ จิ้มคืนหลังให้ ชาบี อลอนโซ ตะบันไซด์โป้งหลุดกรอบชนิดได้เสียว
เจ้าบ้านบดหนักขึ้นเรื่อยๆ นาทีที่ 74 ออเรลิโอ เก็บบอลได้จากแถวสองแล้วลองส่องไกล แต่ยังถูก เจมส์ พุ่งตัวเซฟออกหลังไปได้อีก ทว่าจากลูกเตะมุมต่อเนื่องก็นำมาสู่ประตูนำ 1-0 ของ ลิเวอร์พูล เมื่อ ปาปา บูบา ดิย็อป ทำแฮนด์บอลในจังหวะขึ้นแย่งโหม่งกับ ฮูเปีย จนเสียลูกจุดโทษ และ เจอร์ราร์ด ก็สังหารเข้ามุมซ้ายล่างหนีมือ เจมส์ ตุงตาข่ายในนาทีที่ 75
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ร็อบบี คีน ศูนย์หน้าตัวสำรองเกือบใส่สกอร์เพิ่มได้จากการหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ทว่าซัดบดผ่านหน้าประตู จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนน ยึดบัลลังก์จ่าฝูงต่อไป ส่วน ปอมปีย์ มี 14 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 7 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ลูคัส เลวา, ชาบี อลอนโซ, เจอร์เมน เพนแนนท์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์, ไรอัน บาเบล
ปอร์ทสมัธ – เดวิด เจมส์, โนเอ ปามาโรต์, ยูเนส กาบูล, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, นาดีร์ เบลฮัดจ์, ปาปา บูบา ดิย็อป, ฌอน เดวิส, ลาสซานา ดิยาร์รา, อาร์มองด์ ตราโอเร, จอห์น อูตากา, ปีเตอร์ เคราช์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แอสตัน วิลลา ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-2 (สตีเฟน วอร์น็อค 0-1 น.30), (ลุค ยัง 1-1 น.45), (แกเร็ธ แบร์รี 2-1 น.65), (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 3-1 น.87), (เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน 3-2 น.90)
ฟูแลม ชนะ วีแกน แอธเลติก 2-0 (แอนดี จอห์นสัน 1-0 น.11), (แอนดี จอห์นสัน 2-0 น.60)
ฮัลล์ ซิตี แพ้ เชลซี 0-3 (แฟรงค์ แลมพาร์ด 0-1 น.3), (นิโกลาส์ อเนลกา 0-2 น.50), (ฟลอร็องต์ มาลูดา 0-3 น.75)
สโต๊ค ซิตี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (ริคาร์โด ฟูลเลอร์ 1-0 น.73)
อาร์เซนอล เสมอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-4 (เดวิด เบนท์ลีย์ 0-1 น.13), (มิกาเอล ซิลแวสตร์ 1-1 น.37), (วิลเลียม กัลลาส 2-1 น.46), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 3-1 น. 65), (ดาร์เรน เบนท์ 3-2 น.67), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 4-2 น.68), (เจอร์เมน จีนาส 4-3 น.89), (อารอน เลนนอน 4-4 น.90)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 (มารูยาน เฟลลายนี 0-1 น.90)
ลิเวอร์พูล ชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-0 จุดโทษ น.75)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 น.14), (คริสเตียโน โรนัลโด 2-0 น.30)
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 (อฟอนโซ อัลเวส 1-0 จุดโทษ น.73), (แกรี โอนีล 2-0 น.90)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2551
ลิเวอร์พูล 1 – 0 ปอร์ทสมัธ
ศึกลูกหนังลีกสูงสุดเมืองผู้ดี นัดกลางสัปดาห์ ลิเวอร์พูล เฝ้ารังแอนฟิลด์ต้อนรับ ปอร์ทสมัธ โดยเจ้าบ้านเปลี่ยนผู้เล่นจากชุดที่บุกไปชนะ เชลซี 1-0 หลายรายด้วยการส่ง ซามี ฮูเปีย, ลูคัส เลวา, เจอร์เมน เพนแนนท์ และ ไรอัน บาเบล ลงสนาม พร้อมทั้งดัน เดิร์ก เคาท์ ขึ้นไปเป็นศูนย์หน้า ส่วน โทนี อดัมส์ ที่ประเดิมงานผู้จัดการทีมนัดแรกให้อาคันตุกะมี ลาสซานา ดิยาร์รา เป็นตัวทำเกม และ ปีเตอร์ เคราช์ เด็กเก่าหงส์แดงยืนค้ำในแดนหน้า
เปิดฉากมาได้ไม่ถึง 1 นาที ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นทำประตูครั้งแรกของเกมก่อนจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดไปที่เสาแรกถูกกองหลังปอมปีย์โหม่งสกัดไปเข้าทาง เคาท์ ตวัดยิงด้วยขวาแถวเส้นเขตโทษ โด่งข้ามคานออกไปไกล
จากนั้น นาทีที่ 9 เคาท์ เกือบเจาะตาข่ายทีมเยือนได้จากการซัดเน้นๆ หน้าเขตโทษ ถูก เดวิด เจมส์ ล้มตัวปัดไปชนเสา ก่อนถูกเคลียร์พ้นอันตราย นาทีที่ 11 ฟาบิโอ ออเรลิโอ วางลูกเตะมุมมาให้ ลูคัส เลวา ขึ้นโขกคนเดียวแถวจุดโทษส่งลูกข้ามคานออกหลัง
เจ้าถิ่นยังคงเดินหน้ารุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 17 เจอร์ราร์ด กระหน่ำฟรีคิกเยื้องไปทางด้านขวาติดกำแพง ทว่า หงส์แดงที่บุกอยู่เพลินๆ ก็เกือบถูกลูบคมในนาทีที่ 26 เมื่อ ฌอน เดวิส หยอดบอลจากเขตโทษด้านซ้ายมาให้ ปาปา บูบา ดิย็อป โหม่งคนเดียวโล่งๆ หน้าประตู แต่บังคับทิศทางไม่ดีจึงเข้าซองของ โฮเซ เรนา
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก เจมี คาร์ราเกอร์ เก็บตกจากลูกฟรีคิกที่ เจอร์ราร์ด อัดไปกระดอนกำแพงแล้วกดเต็มข้อนอกเขตโทษ แต่ เจมส์ ยังล้มตัวรับได้อยู่หมัด นาทีที่ 40 เจอร์ราร์ด พาบอลตัดจากขวาเข้ากลางหนีมา 3-4 คน ก่อนไหลต่อให้ เคาท์ ซัดในเขตโทษส่งลูกพุ่งกระทบตาข่ายด้านข้าง
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจอร์ราร์ด ได้เข่นแบบเน้นๆ หน้าเขตโทษ แต่ เจมส์ ล้มตัวทุบออกมาได้อีก ก่อนที่ อัลบาโร อาร์เบลัว จะสบโอกาสขึ้นมารับลูกเตะมุมเรียดแล้วแปหนีมือ เจมส์ หวังให้เข้าเสาสอง แต่ก็ผ่านหน้าประตูออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง รูปเกมยังเป็น ลิเวอร์พูล ที่ดาหน้าบุกอยู่แทบจะข้างเดียว นาทีที่ 52 เจอร์ราร์ด ได้บอลหลุดเข้าไปหักข้อกึ่งยิงกึ่งผ่านในเขตโทษ ลูกบดออกไปทางเสาสอง นาทีที่ 56 ออเรลิโอ เปิดโด่งจากทางซ้ายให้ เคาท์ ขึ้นโหม่งบอลย้อยเข้ามือ เจมส์
หงส์แดง ใกล้เคียงกับการออกนำอย่างยิ่งในนาทีที่ 59 โดย ซามี ฮูเปีย โฉบเข้ามาลูกเตะมุมของ เจอร์ราร์ด ที่เสาแรก บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปเพียงนิดเดียว นาทีที่ 70 เคาท์ จิ้มคืนหลังให้ ชาบี อลอนโซ ตะบันไซด์โป้งหลุดกรอบชนิดได้เสียว
เจ้าบ้านบดหนักขึ้นเรื่อยๆ นาทีที่ 74 ออเรลิโอ เก็บบอลได้จากแถวสองแล้วลองส่องไกล แต่ยังถูก เจมส์ พุ่งตัวเซฟออกหลังไปได้อีก ทว่าจากลูกเตะมุมต่อเนื่องก็นำมาสู่ประตูนำ 1-0 ของ ลิเวอร์พูล เมื่อ ปาปา บูบา ดิย็อป ทำแฮนด์บอลในจังหวะขึ้นแย่งโหม่งกับ ฮูเปีย จนเสียลูกจุดโทษ และ เจอร์ราร์ด ก็สังหารเข้ามุมซ้ายล่างหนีมือ เจมส์ ตุงตาข่ายในนาทีที่ 75
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ร็อบบี คีน ศูนย์หน้าตัวสำรองเกือบใส่สกอร์เพิ่มได้จากการหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ทว่าซัดบดผ่านหน้าประตู จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนน ยึดบัลลังก์จ่าฝูงต่อไป ส่วน ปอมปีย์ มี 14 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 7 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ลูคัส เลวา, ชาบี อลอนโซ, เจอร์เมน เพนแนนท์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์, ไรอัน บาเบล
ปอร์ทสมัธ – เดวิด เจมส์, โนเอ ปามาโรต์, ยูเนส กาบูล, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, นาดีร์ เบลฮัดจ์, ปาปา บูบา ดิย็อป, ฌอน เดวิส, ลาสซานา ดิยาร์รา, อาร์มองด์ ตราโอเร, จอห์น อูตากา, ปีเตอร์ เคราช์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แอสตัน วิลลา ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-2 (สตีเฟน วอร์น็อค 0-1 น.30), (ลุค ยัง 1-1 น.45), (แกเร็ธ แบร์รี 2-1 น.65), (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 3-1 น.87), (เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน 3-2 น.90)
ฟูแลม ชนะ วีแกน แอธเลติก 2-0 (แอนดี จอห์นสัน 1-0 น.11), (แอนดี จอห์นสัน 2-0 น.60)
ฮัลล์ ซิตี แพ้ เชลซี 0-3 (แฟรงค์ แลมพาร์ด 0-1 น.3), (นิโกลาส์ อเนลกา 0-2 น.50), (ฟลอร็องต์ มาลูดา 0-3 น.75)
สโต๊ค ซิตี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (ริคาร์โด ฟูลเลอร์ 1-0 น.73)
อาร์เซนอล เสมอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-4 (เดวิด เบนท์ลีย์ 0-1 น.13), (มิกาเอล ซิลแวสตร์ 1-1 น.37), (วิลเลียม กัลลาส 2-1 น.46), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 3-1 น. 65), (ดาร์เรน เบนท์ 3-2 น.67), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 4-2 น.68), (เจอร์เมน จีนาส 4-3 น.89), (อารอน เลนนอน 4-4 น.90)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 (มารูยาน เฟลลายนี 0-1 น.90)
ลิเวอร์พูล ชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-0 จุดโทษ น.75)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 น.14), (คริสเตียโน โรนัลโด 2-0 น.30)
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 (อฟอนโซ อัลเวส 1-0 จุดโทษ น.73), (แกรี โอนีล 2-0 น.90)