เหลืออีกเพียง 1 สนามสำหรับศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2008 อันเป็นฤดูกาลที่ 2 ของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดทีมไทย-ฮอนด้า พีทีทีแซค ก็จะปิดฉากลง โดยจากผลงาน 16 สนามที่ผ่านมา ฟีมเป็นนักบิดคนเดียวในรุ่น 250 ซีซี ที่จบการแข่งขันได้ทุกสนาม ซึ่งนอกจากความยอดเยี่ยมในตัวนักขับแล้ว อีกหนึ่งความดีความชอบคงต้องยกให้กับ รถฮอนด้า "RS250RW" หมายเลข 14 นั่นเอง
หลังจากนักบิดหน้าตี๋ทำผลงานปีแรกในเวิลด์กรังด์ปรีซ์ภายใต้รถแข่งของทีมสต็อปแอนด์โก(SAG) จากประเทศสเปน ด้วยผลงานเก็บได้ถึง 30 แต้ม รั้งในอันดับ 17 ในตารางแชมเปียนชิปรุ่น 250 ซีซี ส่งผลให้ในฤดูกาลนี้ ต้นสังกัดอย่างฮอนด้า ตัดสินใจส่งรถแข่งคันใหม่ที่ส่งตรงจากโรงงานในญี่ปุ่นมาให้เจ้าฟีมได้ใช้ลงแข่งขันในฤดูกาลนี้ถึง 2 คัน ด้วยรถ RS250RW เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ความจุ 250 ซีซี ที่ได้รับการสนับสนุนจาก HRC พร้อมติดหมายเลข 14 อันเป็นเลขวันเกิดของหนุ่มฟีม
รถจาก HRC (Honda Racing Corporation) คันดังกล่าว ถือเป็นรถแข่งระดับมาตรฐานของทีมฮอนด้าเช่นเดียวกับ รถของนิคกี เฮย์เดน อดีตแชมป์โลก ของทีมเรปโซ-ฮอนด้า ในรุ่นโมโตจีพี โดยรถของไทย-ฮอนด้าพีทีแซค ถือเป็นหนึ่งใน 2 ทีมจากค่ายฮอนด้า ที่ได้รับความไว้วางใจจาก HRC ต่อจากรถของ ยูกิ ทากาฮาชิ ยอดนักบิดญี่ปุ่นจากทีมเจไออาร์ สกอตต์ ที่ทำผลงานรั้งอันดับ 4 ในตารางแชมเปียนชิปอยู่ในเวลานี้
ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปมองถึงผลงานของนักบิดไทย ในฤดูกาลนี้ เจ้าฟีมที่มีอยู่ 65 คะแนน รั้งอันดับ 13 ในตารางคะแนน ก่อนจะลงแข่งสนามสุดท้ายของปีที่บาเลนเซียในวันอาทิตย์นี้ ถือเป็นนักบิดคนเดียวในรุ่นจีพี 250 ที่สามารถนำรถคู่ใจรับธงหมากรุกเมื่อจบการแข่งขันได้ตลอด 16 ที่ผ่านมา และยังสามารถเก็บคะแนนเข้ากระเป๋าได้ถึง 14 สนาม นับเป็นการการรันตีความยอดเยี่ยมของรถแข่งหมายเลข 14 คันนี้ได้เป็นอย่างดี
โดยนักบิดวัย 20 ปี จากชลบุรีเผยถึงเพื่อนคู่ใจของตัวเองในแทร็กที่ร่วมกันทำผลงานมาเกือบ 1 ปีเต็มว่า "จุดเด่นที่ผมประทับใจกับเจ้า RS250RW คันนี้ ก็คือผมสามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ส่วนอัตราเร่งไม่ต้องพูดถึงเลยแรงมากครับ สั่งได้ดั่งใจเลย และที่สำคัญที่สุดคือ เครื่องยนต์มีปัญหาน้อยมาก มันทำให้เราสามารถจบการแข่งขันได้ทุกสนามในฤดูกาลนี้"
นอกจากนี้จากผลงานในสนามล่าสุดที่ "เจ้าลิงน้อย" ควบรถเข้าป้ายเข้ามาเป็นอันดับที่ 8 ในศึกมาเลเซียนกรังด์ปรีซ์ ที่สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย ยังแสดงให้เห็นว่าจากการพัฒนาและการเซตรถของทีมงาน ไทย-ฮอนด้าฯ สามารถทำให้ฟีมทำเวลาต่อรอบได้ดีเทียบเท่านักแข่งหัวแถวได้แล้ว โดยย้อนหลังเมื่อปี 2007 ปีที่ผ่านมา ในสนามแห่งนี้ ฟีมควอลิฟายอยู่ในอันดับที่ 15 ด้วยเวลา 2.10.587 นาทีต่อรอบ และจบการแข่งขันในอันดับที่ 16 ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดเพียง 2.09.978 แต่ในครั้งนี้ นักบิดไทยสามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุดด้วยเวลา 2.07.410 จนได้กริดสตาร์ที่ 5 ซึ่งถือว่าทำเวลาดีกว่าปีที่แล้ว ถึง 3 วินาที
แต่กว่าที่เจ้าฟีมและทีมงาน จะปรับแต่งรถคันนี้ได้อย่างลงตัว เจ้าตัวเผยว่าต้องใช้เวลาพอสมควร "เราต้องมาเริ่มปรับตัวใหม่ทั้งหมด เพราะรถคันนี้ไม่เหมือนกับปีที่แล้วเลย มีที่เหมือนเดิมก็คือระบบน้ำมัน ส่วนโชคอัพแม้จะเป็นยี่ห้อเดิมแต่ก็ต้องปรับแต่งใหม่หมด ช่วงแรกถือว่าหนักเอาการครับ เพราะเห็นได้ชัดเจนจากกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ทำให้เราต้องเร่งเพิ่มความแข็งแกร่งของร่ายกายตามไปด้วย แต่ตอนนี้ผมกับตัวรถถือว่าลงตัวในทุกๆส่วนแล้ว"
ขณะที่ เอดูอาร์โด เปลาเรส เจ้าของทีมไทย-ฮอนด้า พีทีทีแซค ผู้ที่คลุกคลีตั้งแต่การนำรถคันนี้ลงสนามทดสอบครั้งแรกที่บาเลนเซีย เผยเหตุผลถึงความยอดเยี่ยมของรถแข่งหมายเลข 14 จากประเทศไทยว่า เป็นเพราะทีมงานและนักขับ ต่างเรียนรู้และแบ่งปันปัญหาในช่วงต้นฤดูกาล ร่วมกับรถที่มีสมรรถนะแรงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
"จากผลการแข่งขันในสนามล่าสุดที่เซปัง เราแสดงให้เห็นว่ามีรถที่สมบูรณ์แบบไม่แพ้ทีมใดเลย ในบางรอบฟีมสามารถทำเวลาเท่ากับผู้นำได้ และตามหลังผู้ชนะแค่ 16 วินาทีเท่านั้น รวมถึงตามหลังแชมป์โลกอย่างมาร์โก ซิมอนเชลลีเพียง 8 วินาทีเท่านั้น นี่คือผลจากการทำงานหนักของพวกเรามาตลอดทั้งฤดูกาล ผมมั่นใจว่าเราจะมีโอกาสดีกว่านี้แน่ในสนามสุดท้ายที่บาเลนเซีย" ทีมบอสชาวสเปนร่ายยาว
ทั้งหมดนี้คือความยอดเยี่ยม ของ "RS250RW" ที่เมื่อมาบวกกับ ฝีมือการขับขี่ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องของรัฐภาคย์ วิไลโรจน์ แล้ว ส่งผลให้ผลงานในฤดูกาลนี้ของทีมไทย-ฮอนด้า พีทีทีแซค ดีขึ้นผิดหูผิดตาจนทำผลงานติดท็อป 10 ได้ถึง 5 ครั้งในปีนี้
รู้จัก Honda RS250RW
น้ำหนักสุทธิ 100 กิโลกกรัม
ระบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 2 สูบ รูปตัววี ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 249 ซีซี
แรงม้าสูงสุด มากกว่า 100 แรงม้าที่ 12,500 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง เดินหน้า 6 สปีด
ความจุถังน้ำมัน 21 ลิตร
ราคา ไม่เปิดเผย (เป็นที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท)
หลังจากนักบิดหน้าตี๋ทำผลงานปีแรกในเวิลด์กรังด์ปรีซ์ภายใต้รถแข่งของทีมสต็อปแอนด์โก(SAG) จากประเทศสเปน ด้วยผลงานเก็บได้ถึง 30 แต้ม รั้งในอันดับ 17 ในตารางแชมเปียนชิปรุ่น 250 ซีซี ส่งผลให้ในฤดูกาลนี้ ต้นสังกัดอย่างฮอนด้า ตัดสินใจส่งรถแข่งคันใหม่ที่ส่งตรงจากโรงงานในญี่ปุ่นมาให้เจ้าฟีมได้ใช้ลงแข่งขันในฤดูกาลนี้ถึง 2 คัน ด้วยรถ RS250RW เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ความจุ 250 ซีซี ที่ได้รับการสนับสนุนจาก HRC พร้อมติดหมายเลข 14 อันเป็นเลขวันเกิดของหนุ่มฟีม
รถจาก HRC (Honda Racing Corporation) คันดังกล่าว ถือเป็นรถแข่งระดับมาตรฐานของทีมฮอนด้าเช่นเดียวกับ รถของนิคกี เฮย์เดน อดีตแชมป์โลก ของทีมเรปโซ-ฮอนด้า ในรุ่นโมโตจีพี โดยรถของไทย-ฮอนด้าพีทีแซค ถือเป็นหนึ่งใน 2 ทีมจากค่ายฮอนด้า ที่ได้รับความไว้วางใจจาก HRC ต่อจากรถของ ยูกิ ทากาฮาชิ ยอดนักบิดญี่ปุ่นจากทีมเจไออาร์ สกอตต์ ที่ทำผลงานรั้งอันดับ 4 ในตารางแชมเปียนชิปอยู่ในเวลานี้
ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปมองถึงผลงานของนักบิดไทย ในฤดูกาลนี้ เจ้าฟีมที่มีอยู่ 65 คะแนน รั้งอันดับ 13 ในตารางคะแนน ก่อนจะลงแข่งสนามสุดท้ายของปีที่บาเลนเซียในวันอาทิตย์นี้ ถือเป็นนักบิดคนเดียวในรุ่นจีพี 250 ที่สามารถนำรถคู่ใจรับธงหมากรุกเมื่อจบการแข่งขันได้ตลอด 16 ที่ผ่านมา และยังสามารถเก็บคะแนนเข้ากระเป๋าได้ถึง 14 สนาม นับเป็นการการรันตีความยอดเยี่ยมของรถแข่งหมายเลข 14 คันนี้ได้เป็นอย่างดี
โดยนักบิดวัย 20 ปี จากชลบุรีเผยถึงเพื่อนคู่ใจของตัวเองในแทร็กที่ร่วมกันทำผลงานมาเกือบ 1 ปีเต็มว่า "จุดเด่นที่ผมประทับใจกับเจ้า RS250RW คันนี้ ก็คือผมสามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ส่วนอัตราเร่งไม่ต้องพูดถึงเลยแรงมากครับ สั่งได้ดั่งใจเลย และที่สำคัญที่สุดคือ เครื่องยนต์มีปัญหาน้อยมาก มันทำให้เราสามารถจบการแข่งขันได้ทุกสนามในฤดูกาลนี้"
นอกจากนี้จากผลงานในสนามล่าสุดที่ "เจ้าลิงน้อย" ควบรถเข้าป้ายเข้ามาเป็นอันดับที่ 8 ในศึกมาเลเซียนกรังด์ปรีซ์ ที่สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย ยังแสดงให้เห็นว่าจากการพัฒนาและการเซตรถของทีมงาน ไทย-ฮอนด้าฯ สามารถทำให้ฟีมทำเวลาต่อรอบได้ดีเทียบเท่านักแข่งหัวแถวได้แล้ว โดยย้อนหลังเมื่อปี 2007 ปีที่ผ่านมา ในสนามแห่งนี้ ฟีมควอลิฟายอยู่ในอันดับที่ 15 ด้วยเวลา 2.10.587 นาทีต่อรอบ และจบการแข่งขันในอันดับที่ 16 ด้วยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดเพียง 2.09.978 แต่ในครั้งนี้ นักบิดไทยสามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุดด้วยเวลา 2.07.410 จนได้กริดสตาร์ที่ 5 ซึ่งถือว่าทำเวลาดีกว่าปีที่แล้ว ถึง 3 วินาที
แต่กว่าที่เจ้าฟีมและทีมงาน จะปรับแต่งรถคันนี้ได้อย่างลงตัว เจ้าตัวเผยว่าต้องใช้เวลาพอสมควร "เราต้องมาเริ่มปรับตัวใหม่ทั้งหมด เพราะรถคันนี้ไม่เหมือนกับปีที่แล้วเลย มีที่เหมือนเดิมก็คือระบบน้ำมัน ส่วนโชคอัพแม้จะเป็นยี่ห้อเดิมแต่ก็ต้องปรับแต่งใหม่หมด ช่วงแรกถือว่าหนักเอาการครับ เพราะเห็นได้ชัดเจนจากกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ทำให้เราต้องเร่งเพิ่มความแข็งแกร่งของร่ายกายตามไปด้วย แต่ตอนนี้ผมกับตัวรถถือว่าลงตัวในทุกๆส่วนแล้ว"
ขณะที่ เอดูอาร์โด เปลาเรส เจ้าของทีมไทย-ฮอนด้า พีทีทีแซค ผู้ที่คลุกคลีตั้งแต่การนำรถคันนี้ลงสนามทดสอบครั้งแรกที่บาเลนเซีย เผยเหตุผลถึงความยอดเยี่ยมของรถแข่งหมายเลข 14 จากประเทศไทยว่า เป็นเพราะทีมงานและนักขับ ต่างเรียนรู้และแบ่งปันปัญหาในช่วงต้นฤดูกาล ร่วมกับรถที่มีสมรรถนะแรงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
"จากผลการแข่งขันในสนามล่าสุดที่เซปัง เราแสดงให้เห็นว่ามีรถที่สมบูรณ์แบบไม่แพ้ทีมใดเลย ในบางรอบฟีมสามารถทำเวลาเท่ากับผู้นำได้ และตามหลังผู้ชนะแค่ 16 วินาทีเท่านั้น รวมถึงตามหลังแชมป์โลกอย่างมาร์โก ซิมอนเชลลีเพียง 8 วินาทีเท่านั้น นี่คือผลจากการทำงานหนักของพวกเรามาตลอดทั้งฤดูกาล ผมมั่นใจว่าเราจะมีโอกาสดีกว่านี้แน่ในสนามสุดท้ายที่บาเลนเซีย" ทีมบอสชาวสเปนร่ายยาว
ทั้งหมดนี้คือความยอดเยี่ยม ของ "RS250RW" ที่เมื่อมาบวกกับ ฝีมือการขับขี่ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องของรัฐภาคย์ วิไลโรจน์ แล้ว ส่งผลให้ผลงานในฤดูกาลนี้ของทีมไทย-ฮอนด้า พีทีทีแซค ดีขึ้นผิดหูผิดตาจนทำผลงานติดท็อป 10 ได้ถึง 5 ครั้งในปีนี้
รู้จัก Honda RS250RW
น้ำหนักสุทธิ 100 กิโลกกรัม
ระบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 2 สูบ รูปตัววี ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 249 ซีซี
แรงม้าสูงสุด มากกว่า 100 แรงม้าที่ 12,500 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง เดินหน้า 6 สปีด
ความจุถังน้ำมัน 21 ลิตร
ราคา ไม่เปิดเผย (เป็นที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท)