ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ทำ 2 ประตูช่วยให้ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ “ม้าลายเขียว-ขาว” เซลติก 3-0 ณ สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ขณะที่ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล บุกไปเอาชนะ เฟเนร์บาเช 5-2 ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กลุ่มอี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เซลติก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่ง คริสเตียโน โรนัลโด ปีกชาวโปรตุกีส ลงสนามด้วยแม้ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะให้พักก็ตาม ขณะที่ เวย์น รูนีย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จับคู่ลงล่าตาข่ายในแดนหน้าเหมือนเดิม ด้าน เซลติก ส่ง สกอตต์ แม็คโดนัลด์ เป็นกองหน้าเพียงคนเดียวเนื่องจากดาวยิงคนอื่นมีอาการบาดเจ็บ โดยมี ชุนซูเกะ นากามูระ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่นเป็นตัวขับเคลื่อนเกมของทีม
เริ่มเกมครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมบุกเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะการยิงที่ชัดเจนได้ กลายเป็น เซลติก มาได้ลุ้นก่อนในนาที 10 จากโอกาสของ แม็คกีดี ที่ได้บอลบริเวณนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงบอลหลบกองหลังเจ้าถิ่นเข้ามายิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเรียดจะเสียบโคนเสาทำให้ ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้งออกหลังไป
เจ้าถิ่นยังคงบุกเข้าใส่อย่างหนัก เกมมาถึงนาที 28 เบอร์บาตอฟ รับบอลได้ในกรอบเขตโทษพยายามยิงจังหวะแรกไปติดกองหลังคู่แข่ง แต่ดาวยิงบัลแกเรียยังเกี่ยวบอลกลับมาได้จึงไหลบอลต่อไปให้ โรนัลโด วิ่งเข้ามาได้ยิงเต็มแรงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลปั่นโค้งเลี้ยวหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว
แต่อีก 2 นาทีต่อมา แชมป์เก่าก็มาทำประตูออกนำได้สำเร็จจากจังหวะลูกเตะมุมเปิดเข้ามา กลายเป็นกองหลังเซลติกสกัดบอลไม่เด็ดขาด จนจังหวะสุดท้ายบอลหลุดมาถึง เบอร์บาตอฟ ที่ยืนอยู่หน้าประตูคนเดียวสะกิดบอลเบาๆลอดหว่างขา โบรุค นายทวารคู่แข่งเข้าไปให้เจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อน 1-0
หลังจากได้ประตูขึ้นนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งเล่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่จังหวะการเข้าทำยังไม่เด็ดขาดพอ จนเกมมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็เกือบได้ประตูหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ วิดิช โหม่งบอลต่อมาให้ เฟลทเชอร์ หลอกล่อกองหลังหนึ่งจังหวะก่อนตัดสินใจยิง แต่บอลกลับข้ามคานออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อทำให้สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 6 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถทำประตูหนีห่างออกไปได้สำเร็จ เมื่อกองหลังทีมเยือนทำฟาวล์ อันแดร์สัน จนได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาและเป็น โรนัลโด รับอาสายิงด้วยเท้าขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงทะลุกำแพงจน โบรุค รับไม่อยู่ยอลหลุดมาเข้าทาง เบอร์บาตอฟ ตามมายิงซ้ำเข้าประตูไปอย่างง่ายดายทำให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0
ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่เปิดโอกาสให้กองหลังคู่แข่งได้หายใจหายคอยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง จนเกือบมาทำประตูหนีห่างออกไปจากจังหวะที่นายทวารเซลติกออกมาตัดบอลผิดพลาดซองแตกบอลหลุดไปเข้าทาง รูนีย์ ได้ซัดเต็มแรงแต่วางเท้ายิงไม่ดีทำให้บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
แต่ในที่สุด แชมป์เก่าก็มาทำประตูหนีออกไปอีกจนได้เมื่อเกมดำเนินมาถึงนาที 76 จากจังหวะต่อบอลกันขึ้นมาตั้งแต่แดนหลัง ก่อนที่ เตเบซ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาจะจ่ายให้ รูนีย์ ที่อยู่นอกกรอบเขตโทษใช้ตัวบังบอลกองหลังทีมเยือนก่อนในจังหวะแรกหลังจากนั้นจึงกลับตัวยิงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเรียดหมดปัญญาที่ โบรุค จะยื่นปัดทิ้งได้ทันทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-0 และเอาชนะไปด้วยสกอร์นี้พร้อมเก็บสามแต้มมาครองได้สำเร็จ
ขณะที่ อาร์เซนอล บุกไปเอาชนะ เฟเนร์บาเช ถึงตุรกี 5-2 โดยได้ประตูจาก เอมมานูเอล อเดบายอร์ ตั้งแต่นาที 10 ก่อนที่เพียงอึดใจเดียว ธีโอ วัลคอตต์ จะมาซัดให้ทีมหนีห่างไป 2-0 แต่เจ้าบ้านก็ไล่ขึ้นมาเมื่อ มิคาเอล ซิลแวสตร์ สกัดเข้าประตูตัวเองในนาที 19 อย่างไรก็ตาม "ปืนโต" มายิงสองประตูรวดจาก อาบู ดิยาบี (น.22) และ อเล็กซานเดอร์ ซง (น.49) ก่อนที่เจ้าบ้านจะมาได้ประตูปลอบใจอีกลูกจาก ดาเนียล กีซา แต่ทีมเยือนก็มาได้ประตูย้ำชัยชนะจากการยิงของ อารอน แรมซีย์ ในนาทีสุดท้าย จบเกม 90 นาที อาร์เซนอล ชนะ 5-2
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี เนวิลล์, จอนนี อีวานส์, เนมันยา วิดิช, จอห์น โอเชีย, คริสเตียโน โรนัลโด, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, อันแดร์สัน, นานี, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์
เซลติก : อาร์เทอร์ โบรุค, มาร์ก วิลสัน, เกล็น ลูเว่นส์, สเตฟาน แม็คมานัส, ลี เนย์เลอร์, ชุนซุเกะ นากามูระ, สกอตต์ บราวน์, แกรี แคล์ดเวลล์, แบร์รี ร็อบสัน, ไอเดน แม็คกีดี, สกอตต์ แมคโดนัลด์
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
กลุ่มอี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เซลติก 3-0 (1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.29), (2-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.51), (3-0 เวย์น รูนีย์ น.76)
บียาร์รีล ชนะ อัลบอร์ก 6-3 (0-1 มาเร็ก ซากานอฟสกี น.19), (1-1 จุปเซปเป รอสซี น.28), (2-1 โจน คัพเดบีญา น.33), (2-2 โธมัส เอเนโวลด์เซน น.36), (3-2 โฮเซบา ลอเรนเต น.67), (4-2 โฮเซบา ลอเรนเต น.70), (4-3 โจน คัพเดบีญา ทำเข้าประตูตัวเอง น.77), (5-3 โรแบร์ ปีแรส น.79), (6-3 โฮเซบา ลอเรนเต น.84)
กลุ่มเอฟ
บาเยิร์น มิวนิก ชนะ ฟิออเรนตินา 3-0 (1-0 มิโรสลาฟ โคลเซ น.4), (2-0 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ น.25), (3-0 เซ โรแบร์โต น.90)
สเตอัว บูคาเรสต์ แพ้ ลียง 3-5 (1-0 อธูโร น.8), (2-0 โดริน โกยาน น.11), (2-1 อับดุล เกตา น.23), (2-2 การิม เบนเซมา น.33), (3-2 โอวิดิยู เปเตร น.45), (3-3 เฟรด น.69), (3-4 การิม เบนเซนมา น.71), (3-5 เฟรด น.90)
กลุ่มจี
ปอร์โต แพ้ ดินาโม เคียฟ 0-1 (0-1 โอเล็กซานเดอร์ อลิเยฟ น.27)
เฟเนร์บาเช แพ้ อาร์เซนอล 2-5 (0-1 เอมมานูเอล อเดบายอร์ น.10), (0-2 ธีโอ วัลคอตต์ น.11), (1-2 มิคาเอล ซิลแวสตร์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.19), (1-3 อาบู ดิยาบี น.21), (1-4 อเล็กซานเดอร์ ซง น.49), (2-4 ดาเนียล กีซา น.78), (2-5 อารอน แรมซีย์ น.90)
กลุ่มเอช
เซนิต เสมอ บอริซอฟ 1-1 (0-1 พาเวล เนไฮชิก น.52), (1-1 ฟาติห์ เต็กเก น.80)
ยูเวนตุส ชนะ รีล มาดริด 2-1 (1-0 อเล็กซานเดอร์ เดล ปิเอโร น.5), (2-0 อเมารี น.49), (2-1 รุด ฟาน นิสเตอรอย น.66)
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กลุ่มอี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เซลติก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่ง คริสเตียโน โรนัลโด ปีกชาวโปรตุกีส ลงสนามด้วยแม้ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะให้พักก็ตาม ขณะที่ เวย์น รูนีย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จับคู่ลงล่าตาข่ายในแดนหน้าเหมือนเดิม ด้าน เซลติก ส่ง สกอตต์ แม็คโดนัลด์ เป็นกองหน้าเพียงคนเดียวเนื่องจากดาวยิงคนอื่นมีอาการบาดเจ็บ โดยมี ชุนซูเกะ นากามูระ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่นเป็นตัวขับเคลื่อนเกมของทีม
เริ่มเกมครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมบุกเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะการยิงที่ชัดเจนได้ กลายเป็น เซลติก มาได้ลุ้นก่อนในนาที 10 จากโอกาสของ แม็คกีดี ที่ได้บอลบริเวณนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงบอลหลบกองหลังเจ้าถิ่นเข้ามายิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเรียดจะเสียบโคนเสาทำให้ ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้งออกหลังไป
เจ้าถิ่นยังคงบุกเข้าใส่อย่างหนัก เกมมาถึงนาที 28 เบอร์บาตอฟ รับบอลได้ในกรอบเขตโทษพยายามยิงจังหวะแรกไปติดกองหลังคู่แข่ง แต่ดาวยิงบัลแกเรียยังเกี่ยวบอลกลับมาได้จึงไหลบอลต่อไปให้ โรนัลโด วิ่งเข้ามาได้ยิงเต็มแรงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลปั่นโค้งเลี้ยวหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว
แต่อีก 2 นาทีต่อมา แชมป์เก่าก็มาทำประตูออกนำได้สำเร็จจากจังหวะลูกเตะมุมเปิดเข้ามา กลายเป็นกองหลังเซลติกสกัดบอลไม่เด็ดขาด จนจังหวะสุดท้ายบอลหลุดมาถึง เบอร์บาตอฟ ที่ยืนอยู่หน้าประตูคนเดียวสะกิดบอลเบาๆลอดหว่างขา โบรุค นายทวารคู่แข่งเข้าไปให้เจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อน 1-0
หลังจากได้ประตูขึ้นนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งเล่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่จังหวะการเข้าทำยังไม่เด็ดขาดพอ จนเกมมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็เกือบได้ประตูหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ วิดิช โหม่งบอลต่อมาให้ เฟลทเชอร์ หลอกล่อกองหลังหนึ่งจังหวะก่อนตัดสินใจยิง แต่บอลกลับข้ามคานออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อทำให้สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 6 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถทำประตูหนีห่างออกไปได้สำเร็จ เมื่อกองหลังทีมเยือนทำฟาวล์ อันแดร์สัน จนได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาและเป็น โรนัลโด รับอาสายิงด้วยเท้าขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงทะลุกำแพงจน โบรุค รับไม่อยู่ยอลหลุดมาเข้าทาง เบอร์บาตอฟ ตามมายิงซ้ำเข้าประตูไปอย่างง่ายดายทำให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0
ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่เปิดโอกาสให้กองหลังคู่แข่งได้หายใจหายคอยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง จนเกือบมาทำประตูหนีห่างออกไปจากจังหวะที่นายทวารเซลติกออกมาตัดบอลผิดพลาดซองแตกบอลหลุดไปเข้าทาง รูนีย์ ได้ซัดเต็มแรงแต่วางเท้ายิงไม่ดีทำให้บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
แต่ในที่สุด แชมป์เก่าก็มาทำประตูหนีออกไปอีกจนได้เมื่อเกมดำเนินมาถึงนาที 76 จากจังหวะต่อบอลกันขึ้นมาตั้งแต่แดนหลัง ก่อนที่ เตเบซ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาจะจ่ายให้ รูนีย์ ที่อยู่นอกกรอบเขตโทษใช้ตัวบังบอลกองหลังทีมเยือนก่อนในจังหวะแรกหลังจากนั้นจึงกลับตัวยิงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเรียดหมดปัญญาที่ โบรุค จะยื่นปัดทิ้งได้ทันทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-0 และเอาชนะไปด้วยสกอร์นี้พร้อมเก็บสามแต้มมาครองได้สำเร็จ
ขณะที่ อาร์เซนอล บุกไปเอาชนะ เฟเนร์บาเช ถึงตุรกี 5-2 โดยได้ประตูจาก เอมมานูเอล อเดบายอร์ ตั้งแต่นาที 10 ก่อนที่เพียงอึดใจเดียว ธีโอ วัลคอตต์ จะมาซัดให้ทีมหนีห่างไป 2-0 แต่เจ้าบ้านก็ไล่ขึ้นมาเมื่อ มิคาเอล ซิลแวสตร์ สกัดเข้าประตูตัวเองในนาที 19 อย่างไรก็ตาม "ปืนโต" มายิงสองประตูรวดจาก อาบู ดิยาบี (น.22) และ อเล็กซานเดอร์ ซง (น.49) ก่อนที่เจ้าบ้านจะมาได้ประตูปลอบใจอีกลูกจาก ดาเนียล กีซา แต่ทีมเยือนก็มาได้ประตูย้ำชัยชนะจากการยิงของ อารอน แรมซีย์ ในนาทีสุดท้าย จบเกม 90 นาที อาร์เซนอล ชนะ 5-2
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี เนวิลล์, จอนนี อีวานส์, เนมันยา วิดิช, จอห์น โอเชีย, คริสเตียโน โรนัลโด, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, อันแดร์สัน, นานี, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์
เซลติก : อาร์เทอร์ โบรุค, มาร์ก วิลสัน, เกล็น ลูเว่นส์, สเตฟาน แม็คมานัส, ลี เนย์เลอร์, ชุนซุเกะ นากามูระ, สกอตต์ บราวน์, แกรี แคล์ดเวลล์, แบร์รี ร็อบสัน, ไอเดน แม็คกีดี, สกอตต์ แมคโดนัลด์
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
กลุ่มอี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เซลติก 3-0 (1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.29), (2-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.51), (3-0 เวย์น รูนีย์ น.76)
บียาร์รีล ชนะ อัลบอร์ก 6-3 (0-1 มาเร็ก ซากานอฟสกี น.19), (1-1 จุปเซปเป รอสซี น.28), (2-1 โจน คัพเดบีญา น.33), (2-2 โธมัส เอเนโวลด์เซน น.36), (3-2 โฮเซบา ลอเรนเต น.67), (4-2 โฮเซบา ลอเรนเต น.70), (4-3 โจน คัพเดบีญา ทำเข้าประตูตัวเอง น.77), (5-3 โรแบร์ ปีแรส น.79), (6-3 โฮเซบา ลอเรนเต น.84)
กลุ่มเอฟ
บาเยิร์น มิวนิก ชนะ ฟิออเรนตินา 3-0 (1-0 มิโรสลาฟ โคลเซ น.4), (2-0 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ น.25), (3-0 เซ โรแบร์โต น.90)
สเตอัว บูคาเรสต์ แพ้ ลียง 3-5 (1-0 อธูโร น.8), (2-0 โดริน โกยาน น.11), (2-1 อับดุล เกตา น.23), (2-2 การิม เบนเซมา น.33), (3-2 โอวิดิยู เปเตร น.45), (3-3 เฟรด น.69), (3-4 การิม เบนเซนมา น.71), (3-5 เฟรด น.90)
กลุ่มจี
ปอร์โต แพ้ ดินาโม เคียฟ 0-1 (0-1 โอเล็กซานเดอร์ อลิเยฟ น.27)
เฟเนร์บาเช แพ้ อาร์เซนอล 2-5 (0-1 เอมมานูเอล อเดบายอร์ น.10), (0-2 ธีโอ วัลคอตต์ น.11), (1-2 มิคาเอล ซิลแวสตร์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.19), (1-3 อาบู ดิยาบี น.21), (1-4 อเล็กซานเดอร์ ซง น.49), (2-4 ดาเนียล กีซา น.78), (2-5 อารอน แรมซีย์ น.90)
กลุ่มเอช
เซนิต เสมอ บอริซอฟ 1-1 (0-1 พาเวล เนไฮชิก น.52), (1-1 ฟาติห์ เต็กเก น.80)
ยูเวนตุส ชนะ รีล มาดริด 2-1 (1-0 อเล็กซานเดอร์ เดล ปิเอโร น.5), (2-0 อเมารี น.49), (2-1 รุด ฟาน นิสเตอรอย น.66)