“อินทรีเหล็ก” เยอรมนี อาศัยประตูชัยท้ายเกมจาก ฟิลิปป์ ลาห์ม ช่วยให้ทีมเฉือนชนะ “ไก่งวง” ตุรกี ไปอย่างสุดมัน 3-2 ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2008 ได้สำเร็จ
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบรองชนะเลิศ
เยอรมนี 3-2 ตุรกี
โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์กลับมาบัญชาทัพ เยอรมนี ได้อีกครั้งหลังพ้นโทษแบนโดยเกมนี้ “อินทรีเหล็ก” วางหมากเดิมจากรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เบียด โปรตุเกส 3-2 ให้ทาง ไซมอน โรลเฟส และโธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ตัดเกมแดนกลาง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กับ ลูคัส โพดอลสกี คอยสนับสนุนเกมรุก มิโรสลาฟ โคลเซ ทางกราบ
ด้าน ฟาติห์ เตริม ประสบปัญหาในการจัดทีมตุรกี เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผู้เล่นติดโทษแบนถึง 4 ราย ขณะที่ เอ็มเร เบโลโซกลู และเพื่อนอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บถ้วนหน้า จึงต้องดึง เมห์เมต โทปาล จากมิดฟิลด์ตัวรับไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น แต่ก็ได้ เมห์เมต ออเรลิโอ คืนแผงกลาง ความหวังในการทำประตูฝากไว้ที่ เซมีห์ เซนเติร์ก
ซึ่งหลังจากจบการบรรเลงเพลงชาติของทั้งสองทีม รุสตู เร็คเบอร์ นายทวารกัปตันทีมเติร์ก และมิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์กัปตันทีมเยอรมนี ออกมากล่าวต่อหน้าแฟนๆ กว่า 4 หมื่นคนในสนามเซนต์ ยาค็อบ สเตเดี้ยม ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงบรรดากองเชียร์ที่นั่งชมการถ่ายทอดสดรอบตัดเชือกยูโร 2008 อยู่ทั่วโลกให้ต่อต้าน “การเหยียดผิว” ในวงการลูกหนัง
เริ่มเกมการแข่งขัน เยอรมนี ซึ่งขุมกำลังค่อนข้างเป็นต่ออยู่หลายช่วงตัวไม่ผลีผลามเดินเกมรุกซึ่งผิดกับ ตุรกี แม้เต็มไปด้วยปัญหาแต่ก็เป็นฝ่ายเดินหน้าใส่ โคลิน คาซิม-ริชาร์ดส ลองสับไกให้ เยนส์ เลห์มันน์ รับเข้าซอง นาทีที่ 7 ความผิดพลาดของ ฟิลิปป์ ลาห์ม เกือบทำให้ “อินทรีเหล็ก” เสียเปรียบยังดีที่ เลห์มันน์ ใช้ขาสกัดลูกดีดของ เซมีห์ เซนเติร์ก ได้หวุดหวิด หกนาทีถัดมา “ไก่งวง” ไม่ได้ประตูนำอย่างเหลือเชื่อ เซนเติร์ก ตบจากเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ ริชาร์ดส ตะบันเต็มข้อส่งลูกหนังกระแทกคานออกมา
ผ่าน 20 นาทีแรก เยอรมนี เริ่มตื่นตัวในการเล่นมากขึ้นพยายามดันเกมรุกขึ้นไปเมื่อไม่ให้ ตุรกี ได้ใจแต่ลูกบอมบ์จากกราบยังไม่เข้าจังหวะของ มิโรสลาฟ โคลเซ แต่อีกสองนาทีถัดมา “ไก่งวง” พลิกขึ้นนำ 1-0 ริชาร์ดส งัดยิงบอลชนคานมาตกให้ อูเกอร์ โบราล แปซ้ำลอดขา เลห์มันน์ เข้าไป อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 25 “อินทรีเหล็ก” จิกตีเสมอ 1-1 จากการประสานงานของคู่หู บาเยิร์น มิวนิค โดย ลูคัส โพดอลสกี ปาดบอลจากซ้ายเข้ามาให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ป้ายบอลผ่านมือ รุสตู เร็คเบอร์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เลห์มันน์ เกือบเสียท่าให้ลูกยิงฟรีคิกไกลของ ฮามิต อัลติทอป ยังดีที่ถอยไปปัดบอลพ้นคานได้ สามนาทีต่อมาจังหวะสวนกลับของ เยอรมนี เกือบเป็นผล โพดอลสกี หลุดเดี่ยวขึ้นมาทางซ้ายก่อนยิงบอลเชิดคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาเป็นโอกาสของ ตุรกี บ้างเมื่อได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา โบราล อาสายิงด้วยเท้าซ้ายร้อนถึง เลห์มันน์ ต้องปัดทิ้งไป จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังคงเสมอกันในรูปเกมที่ “ไก่งวง” สู้กับแชมป์ยูโร 3 สมัยได้ดีเกินคาด
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง เลิฟ ต้องถอดเอา ไซมอน โรลเฟส ที่แตกบริเวณเหนือคิ้วช่วงท้ายครึ่งแรกออกมาและก็ให้ ทอร์สเทน ฟริงก์ส ซึ่งหายเจ็บซี่โครงคืนสนามอีกครั้ง นาทีที่ 50 แฟนๆ เยอรมนี โห่ใส่ มัสซิโม บูซัคกา เชิ้ตดำชาวสวิสกันลั่นสนามเมื่อไม่ให้จุดโทษแก่ทีมในจังหวะที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม เลาะเข้าไปก่อนโดน ซาบรี ซาริโอกลู เตะคว่ำ จากนั้น “อินทรีเหล็ก” ยังเดินเกมต่อ โพดอลสกี จ่ายตัดเข้ามาให้ โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ตะบันด้วยซ้ายข้างถนัดข้ามคานไป
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง เยอรมนี ยังเดินเกมบุกไม่ได้ตามถนัดเนื่องจาก ตุรกี ลงไปตั้งรับกันแน่นทีเดียวในแดนตัวเอง แต่จังหวะสวนขึ้นไปของแข้งเติร์กได้ลุ้นเหมือนกัน โบราล หักเข้ามายิงติดมือ เลห์มันน์ แต่เยอรมนี ก็สวนขึ้นไปบ้าง ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ตะบันเต็มเหนี่ยวบอลซ้ายหลุดกรอบไปนิดเดียว แต่แล้วเมื่อถึงนาทีที่ 79 ความพยายามของ เยอรมนี ก็ประสบผลสำเร็จพลิกกลับมานำ 2-1 จากลูกโขกของ โคลเซ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลา 4 นาที เซนเติร์ก ก็แผลงฤทธิ์จิ้มที่เสาแรกผ่านมือ เลห์มันน์ ตามตีเสมอ 2-2 ให้ตุรกี แต่ถึงนาทีที่ 89 แฟนๆ เยอรมนี ได้เฮกันสุดเสียงเมื่อ ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ จ่ายทะลุให้ ลาห์ม หลุดเข้ากรอบโทษไปล่อเป้า เร็คเบอร์ และก็เป็นประตูชัยให้ “อินทรีเหล็ก” จิกชัยไปอย่างสุดมัน 3-2 ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโร 2008 คืนวันอาทิตย์นี้ รอพบผู้ชนะระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน หรือ “หมีขาว” รัสเซีย ที่แอร์นส์ท ฮัปเปิล สเตเดี้ยม ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เยอรมนี : เยนส์ เลห์มันน์ , อาร์เน ฟรีดริช , คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์ , เพอร์ แมร์แตร์ซัคเกอร์ , ฟิลิปป์ ลาห์ม , ไซมอน โรลเฟส , โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , มิชาเอล บัลลัค , ลูคัส โพดอลสกี , มิโรสลาฟ โคลเซ
ตุรกี : รุสตู เร็คเบอร์ , ซาบรี ซาริโอกลู , ก็อคฮาน ซาน , เมห์เมต โทปาล , ฮาคาน บัลตา , ฮามิต อัลติทอป , เมห์เมต ออเรลิโอ , อายฮาน อัคมาน , โคลิน คาซิม-ริชาร์ดส , อูเกอร์ โบราล , เซมีห์ เซนเติร์ก
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบรองชนะเลิศ
เยอรมนี 3-2 ตุรกี
โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์กลับมาบัญชาทัพ เยอรมนี ได้อีกครั้งหลังพ้นโทษแบนโดยเกมนี้ “อินทรีเหล็ก” วางหมากเดิมจากรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เบียด โปรตุเกส 3-2 ให้ทาง ไซมอน โรลเฟส และโธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ตัดเกมแดนกลาง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กับ ลูคัส โพดอลสกี คอยสนับสนุนเกมรุก มิโรสลาฟ โคลเซ ทางกราบ
ด้าน ฟาติห์ เตริม ประสบปัญหาในการจัดทีมตุรกี เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผู้เล่นติดโทษแบนถึง 4 ราย ขณะที่ เอ็มเร เบโลโซกลู และเพื่อนอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บถ้วนหน้า จึงต้องดึง เมห์เมต โทปาล จากมิดฟิลด์ตัวรับไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น แต่ก็ได้ เมห์เมต ออเรลิโอ คืนแผงกลาง ความหวังในการทำประตูฝากไว้ที่ เซมีห์ เซนเติร์ก
ซึ่งหลังจากจบการบรรเลงเพลงชาติของทั้งสองทีม รุสตู เร็คเบอร์ นายทวารกัปตันทีมเติร์ก และมิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์กัปตันทีมเยอรมนี ออกมากล่าวต่อหน้าแฟนๆ กว่า 4 หมื่นคนในสนามเซนต์ ยาค็อบ สเตเดี้ยม ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงบรรดากองเชียร์ที่นั่งชมการถ่ายทอดสดรอบตัดเชือกยูโร 2008 อยู่ทั่วโลกให้ต่อต้าน “การเหยียดผิว” ในวงการลูกหนัง
เริ่มเกมการแข่งขัน เยอรมนี ซึ่งขุมกำลังค่อนข้างเป็นต่ออยู่หลายช่วงตัวไม่ผลีผลามเดินเกมรุกซึ่งผิดกับ ตุรกี แม้เต็มไปด้วยปัญหาแต่ก็เป็นฝ่ายเดินหน้าใส่ โคลิน คาซิม-ริชาร์ดส ลองสับไกให้ เยนส์ เลห์มันน์ รับเข้าซอง นาทีที่ 7 ความผิดพลาดของ ฟิลิปป์ ลาห์ม เกือบทำให้ “อินทรีเหล็ก” เสียเปรียบยังดีที่ เลห์มันน์ ใช้ขาสกัดลูกดีดของ เซมีห์ เซนเติร์ก ได้หวุดหวิด หกนาทีถัดมา “ไก่งวง” ไม่ได้ประตูนำอย่างเหลือเชื่อ เซนเติร์ก ตบจากเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ ริชาร์ดส ตะบันเต็มข้อส่งลูกหนังกระแทกคานออกมา
ผ่าน 20 นาทีแรก เยอรมนี เริ่มตื่นตัวในการเล่นมากขึ้นพยายามดันเกมรุกขึ้นไปเมื่อไม่ให้ ตุรกี ได้ใจแต่ลูกบอมบ์จากกราบยังไม่เข้าจังหวะของ มิโรสลาฟ โคลเซ แต่อีกสองนาทีถัดมา “ไก่งวง” พลิกขึ้นนำ 1-0 ริชาร์ดส งัดยิงบอลชนคานมาตกให้ อูเกอร์ โบราล แปซ้ำลอดขา เลห์มันน์ เข้าไป อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 25 “อินทรีเหล็ก” จิกตีเสมอ 1-1 จากการประสานงานของคู่หู บาเยิร์น มิวนิค โดย ลูคัส โพดอลสกี ปาดบอลจากซ้ายเข้ามาให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ป้ายบอลผ่านมือ รุสตู เร็คเบอร์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เลห์มันน์ เกือบเสียท่าให้ลูกยิงฟรีคิกไกลของ ฮามิต อัลติทอป ยังดีที่ถอยไปปัดบอลพ้นคานได้ สามนาทีต่อมาจังหวะสวนกลับของ เยอรมนี เกือบเป็นผล โพดอลสกี หลุดเดี่ยวขึ้นมาทางซ้ายก่อนยิงบอลเชิดคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาเป็นโอกาสของ ตุรกี บ้างเมื่อได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา โบราล อาสายิงด้วยเท้าซ้ายร้อนถึง เลห์มันน์ ต้องปัดทิ้งไป จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังคงเสมอกันในรูปเกมที่ “ไก่งวง” สู้กับแชมป์ยูโร 3 สมัยได้ดีเกินคาด
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง เลิฟ ต้องถอดเอา ไซมอน โรลเฟส ที่แตกบริเวณเหนือคิ้วช่วงท้ายครึ่งแรกออกมาและก็ให้ ทอร์สเทน ฟริงก์ส ซึ่งหายเจ็บซี่โครงคืนสนามอีกครั้ง นาทีที่ 50 แฟนๆ เยอรมนี โห่ใส่ มัสซิโม บูซัคกา เชิ้ตดำชาวสวิสกันลั่นสนามเมื่อไม่ให้จุดโทษแก่ทีมในจังหวะที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม เลาะเข้าไปก่อนโดน ซาบรี ซาริโอกลู เตะคว่ำ จากนั้น “อินทรีเหล็ก” ยังเดินเกมต่อ โพดอลสกี จ่ายตัดเข้ามาให้ โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ตะบันด้วยซ้ายข้างถนัดข้ามคานไป
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง เยอรมนี ยังเดินเกมบุกไม่ได้ตามถนัดเนื่องจาก ตุรกี ลงไปตั้งรับกันแน่นทีเดียวในแดนตัวเอง แต่จังหวะสวนขึ้นไปของแข้งเติร์กได้ลุ้นเหมือนกัน โบราล หักเข้ามายิงติดมือ เลห์มันน์ แต่เยอรมนี ก็สวนขึ้นไปบ้าง ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ตะบันเต็มเหนี่ยวบอลซ้ายหลุดกรอบไปนิดเดียว แต่แล้วเมื่อถึงนาทีที่ 79 ความพยายามของ เยอรมนี ก็ประสบผลสำเร็จพลิกกลับมานำ 2-1 จากลูกโขกของ โคลเซ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลา 4 นาที เซนเติร์ก ก็แผลงฤทธิ์จิ้มที่เสาแรกผ่านมือ เลห์มันน์ ตามตีเสมอ 2-2 ให้ตุรกี แต่ถึงนาทีที่ 89 แฟนๆ เยอรมนี ได้เฮกันสุดเสียงเมื่อ ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ จ่ายทะลุให้ ลาห์ม หลุดเข้ากรอบโทษไปล่อเป้า เร็คเบอร์ และก็เป็นประตูชัยให้ “อินทรีเหล็ก” จิกชัยไปอย่างสุดมัน 3-2 ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโร 2008 คืนวันอาทิตย์นี้ รอพบผู้ชนะระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน หรือ “หมีขาว” รัสเซีย ที่แอร์นส์ท ฮัปเปิล สเตเดี้ยม ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เยอรมนี : เยนส์ เลห์มันน์ , อาร์เน ฟรีดริช , คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์ , เพอร์ แมร์แตร์ซัคเกอร์ , ฟิลิปป์ ลาห์ม , ไซมอน โรลเฟส , โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , มิชาเอล บัลลัค , ลูคัส โพดอลสกี , มิโรสลาฟ โคลเซ
ตุรกี : รุสตู เร็คเบอร์ , ซาบรี ซาริโอกลู , ก็อคฮาน ซาน , เมห์เมต โทปาล , ฮาคาน บัลตา , ฮามิต อัลติทอป , เมห์เมต ออเรลิโอ , อายฮาน อัคมาน , โคลิน คาซิม-ริชาร์ดส , อูเกอร์ โบราล , เซมีห์ เซนเติร์ก