นาโปลี เปิดบ้านพลิกกลับมาหักขา “ม้าลาย” ยูเวนตุส 2-1 กระโดดขึ้นนำจ่าฝูงเซเรีย อา อิตาลี ขณะที่ “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนตินา เปิดบ้านขย่ม เรจจินา 3-0 ในการแข่งขันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
เอดูอาร์โด เรยา หวังนำ นาโปลี พลิกล็อกอัด ยูเวนตุส โดยเจ้าบ้านปรับมาใช้ มาร์เซโล ซาลาเยตา จับคู่ล่าตาข่ายร่วมกับ เอเซเกล ลาเวซซี ทีเด็ดชาวอาร์เจนไตน์ ขณะที่แดนกลางมี มาเร็ค ฮามซิก บัญชาเกม ด้านผู้มาเยือนจากตูริน เคลาดิโอ รานิเอรี กำลังกดดันอย่างหนักจากผลงานอันยอดแย่ แถมเกมนี้ขาดแข้งหลักหลายคนทั้ง จิอันลุยจิ บุฟฟอน, โอลอฟ เมลเบิร์ก, เมาโร คาโมราเนซี รวมถึง ดาวิด เทรเซเกต์ ขณะที่ โมโม ซิสโซโก ติดโทษแบน
โดยการแข่งขันในครึ่งแรก เจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อนจากลูกยิงของ ฮามซิก ดาวรุ่งชาวสโลวักแต่เหินข้ามคานไป ทีมเยือนตอบโต้กลับไปบ้าง ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ลองยิงบริเวณกรอบโทษแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เจนนาโร เยซโซ ท้ายครึ่งแรก อเลสซานโดร เดล ปิเอโร กัปตันทีมปั่นฟรีคิกบอลทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมแต่นายทวารเจ้าบ้านเหินปัดพ้นอันตราย จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังเสมอ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เกมยังดำเนินไปอย่างสูสี หนึ่งชั่วโมงพอดี “ม้าลาย” ดีดนำ 1-0 เมื่อ คริสเตียน โพลเซน หยอดบอลให้ อเมารี จับลงหนึ่งจังหวะก่อนยิงบอลผ่านมือ เยซโซ เข้าซุกก้นตาข่าย แต่ดีใจได้แค่สามนาที นาโปลี ตามเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว ลาเวซซี เปิดให้ ฮามซิก โหม่งไม่เหลือ เกมเทมาทางเจ้าถิ่นสิบนาทีสุดท้ายแฟนๆ ก็ได้เฮ ลาเวซซี หลุดเข้าไปยิงผ่าน อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ เป็นประตูชัยให้ นาโปลี เบียดชนะ 2-1
จากชัยชนะแมตช์นี้ทำให้ นาโปลี มีเพิ่มเป็น 14 คะแนนจากการลงสนาม 7 นัด กระโดดขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง โดยมี “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ, อูดิเนเซ, “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน รวมถึง ฟิออเรนตินา ตามอยู่หนึ่งแต้ม ซึ่ง ลาซิโอ, อูดิเนเซ และ อินเตอร์ มิลาน มีคิวลงสนามในคืนวันอาทิตย์นี้
ขณะที่ ฟิออเรนตินา เล่นในถิ่นเมื่อคืนวันเสาร์ไล่ถล่มเอาชนะ เรจจินา ทีมรองบ๊วย 3-0 โดย อันเดรีย คัมปาโญโล นายทวารทีมเยือนโดนไล่ออกในนาทีที่ 38 และ จามเปาโล ปาสซินี ส่องโทษเข้าไปในนาทีที่ 40 จากนั้นครึ่งหลัง อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน หอกตัวสำรองลงมาเบิ้ลสกอร์ นาที 75 และ 81 ช่วยให้ “ม่วงมหากาฬ” กำชัยง่ายดาย
เอดูอาร์โด เรยา หวังนำ นาโปลี พลิกล็อกอัด ยูเวนตุส โดยเจ้าบ้านปรับมาใช้ มาร์เซโล ซาลาเยตา จับคู่ล่าตาข่ายร่วมกับ เอเซเกล ลาเวซซี ทีเด็ดชาวอาร์เจนไตน์ ขณะที่แดนกลางมี มาเร็ค ฮามซิก บัญชาเกม ด้านผู้มาเยือนจากตูริน เคลาดิโอ รานิเอรี กำลังกดดันอย่างหนักจากผลงานอันยอดแย่ แถมเกมนี้ขาดแข้งหลักหลายคนทั้ง จิอันลุยจิ บุฟฟอน, โอลอฟ เมลเบิร์ก, เมาโร คาโมราเนซี รวมถึง ดาวิด เทรเซเกต์ ขณะที่ โมโม ซิสโซโก ติดโทษแบน
โดยการแข่งขันในครึ่งแรก เจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อนจากลูกยิงของ ฮามซิก ดาวรุ่งชาวสโลวักแต่เหินข้ามคานไป ทีมเยือนตอบโต้กลับไปบ้าง ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ลองยิงบริเวณกรอบโทษแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เจนนาโร เยซโซ ท้ายครึ่งแรก อเลสซานโดร เดล ปิเอโร กัปตันทีมปั่นฟรีคิกบอลทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมแต่นายทวารเจ้าบ้านเหินปัดพ้นอันตราย จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังเสมอ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เกมยังดำเนินไปอย่างสูสี หนึ่งชั่วโมงพอดี “ม้าลาย” ดีดนำ 1-0 เมื่อ คริสเตียน โพลเซน หยอดบอลให้ อเมารี จับลงหนึ่งจังหวะก่อนยิงบอลผ่านมือ เยซโซ เข้าซุกก้นตาข่าย แต่ดีใจได้แค่สามนาที นาโปลี ตามเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว ลาเวซซี เปิดให้ ฮามซิก โหม่งไม่เหลือ เกมเทมาทางเจ้าถิ่นสิบนาทีสุดท้ายแฟนๆ ก็ได้เฮ ลาเวซซี หลุดเข้าไปยิงผ่าน อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ เป็นประตูชัยให้ นาโปลี เบียดชนะ 2-1
จากชัยชนะแมตช์นี้ทำให้ นาโปลี มีเพิ่มเป็น 14 คะแนนจากการลงสนาม 7 นัด กระโดดขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง โดยมี “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ, อูดิเนเซ, “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน รวมถึง ฟิออเรนตินา ตามอยู่หนึ่งแต้ม ซึ่ง ลาซิโอ, อูดิเนเซ และ อินเตอร์ มิลาน มีคิวลงสนามในคืนวันอาทิตย์นี้
ขณะที่ ฟิออเรนตินา เล่นในถิ่นเมื่อคืนวันเสาร์ไล่ถล่มเอาชนะ เรจจินา ทีมรองบ๊วย 3-0 โดย อันเดรีย คัมปาโญโล นายทวารทีมเยือนโดนไล่ออกในนาทีที่ 38 และ จามเปาโล ปาสซินี ส่องโทษเข้าไปในนาทีที่ 40 จากนั้นครึ่งหลัง อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน หอกตัวสำรองลงมาเบิ้ลสกอร์ นาที 75 และ 81 ช่วยให้ “ม่วงมหากาฬ” กำชัยง่ายดาย