พาเดรก แฮร์ริงตัน ก้านเหล็กมือ 4 ของโลกชาวไอริช ประกาศกร้าวขอกระชากแชมป์ พีจีเอ แกรนด์ สแลม มาครองให้ได้หลังพ่ายเพลย์ออฟให้กับ อังเคิล คาเบรรา ไปอย่างน่าเสียดายเมื่อปีที่แล้ว
กอล์ฟ “พีจีเอ แกรนด์ สแลม ออฟ กอล์ฟ 2008” ใกล้ระเบิดขึ้นแล้วระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคมนี้ ที่สนาม มิด โอเชียน คลับ พาร์ 70 ระยะ 6,666 หลา รัฐเบอร์มิวดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัล 1.35 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 459 ล้านบาท โดยผู้ชนะจะได้รับเงิน 6 แสนเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 20.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ศึก พีจีเอ แกรนด์ สแลม เป็นการนำเอาผู้เล่นที่ได้แชมป์เมเจอร์ทั้ง 4 รายการของปีมาดวลวงสวิงกันแบบสโตรกเพลย์ 2 วัน 36 หลุม แต่ทว่าเนื่องจาก พาเดรก แฮร์ริงตัน คว้าแชมป์ไป 2 รายการ (ดิ โอเพน และ พีจีเอ แชมเปียนชิป) ขณะที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ เจ้าของแชมป์ ยูเอส โอเพน ก็ดันบาดเจ็บ ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการสรรหาผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มดีที่สุดใน 4 รายการที่เคยผ่านการได้แชมป์เมเจอร์มาแล้ว จึงเป็นที่มาของอีก 2 โปรที่ได้รับเชิญเข้ามาร่วมอย่าง รีทีฟ กูเซน และ จิม ฟิวริค
โดยเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว แฮร์ริงตัน สวิงหนุ่มชาวไอริช ได้แชมป์เมเจอร์รายการแรกของตัวเองจากศึก ดิ โอเพน จนได้สิทธิ์เข้ามาแข่ง พีจีเอ แกรนด์ สแลม ก่อนได้เพียงแค่รองแชมป์ โดยแพ้เพลย์ออฟให้กับ อังเคิล คาเบรรา จากอาร์เจนตินา แต่กับในปีนี้ หนุ่มจากดับลิน ฟอร์มร้อนแรงมากเมื่อกวาดแชมป์เมเจอร์ได้ 2 รายการติด จึงหวังว่าตนเองจะมีโอกาสได้แชมป์ แกรนด์ สแลม เสียทีในปีนี้
"ผมต้องการทำให้ดีกว่าเมื่อปีที่แล้ว และกำลังพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อชนะรายการนี้ มันเป็นอีเวนท์กอล์ฟที่ดีในบรรยากาศสบายๆ อีกทั้งสนามก็น่าตื่นเต้นเนื่องจากมีความท้าทายมาก แต่หากมีลมแรงจะทำให้ตียาก แต่ผมมักเล่นในสภาวะมีลมได้ดี ดังนั้นคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายได้เปรียบ" สวิงวัย 37 ปี กล่าว
ขณะที่ เทรเวอร์ อิมเมลแมน จากแอฟริกาใต้ เป็นแชมป์เมเจอร์รายการแรกจากศึก เดอะ มาสเตอร์ส ด้วยการชนะ ไทเกอร์ วู้ดส์ ห่าง 3 สโตรก โดย หนุ่มวัย 28 ปี เป็นที่คาดหมายว่าจะขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ในวงการกอล์ฟแทนรุ่นพี่ร่วมชาติอย่าง เออร์นี เอลส์ และ รีทีฟ กูเซน
ส่วน รีทีฟ กูเซน ผ่านการเป็นแชมป์ ยูเอส โอเพน มา 2 สมัย เมื่อปี 2001 และ 2004 จะลงเล่น แกรนด์ สแลม เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่แม้จะยังไม่ได้แชมป์เลยในปีนี้ แต่ก็ทำผลงานได้ดีจากการจบอันดับ 17 เดอะ มาสเตอร์ส, อันดับ 14 ยูเอส โอเพน, อันดับ 32 ดิ โอเพน และอันดับ 24 พีจีเอ แชมเปียนชิป รวมทั้งการได้รองแชมป์ศึก เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป ซึ่ง สวิงวัยเก๋าอย่างเขา คงต้องใช้ประสบการณ์เข้าสู้
ด้าน จิม ฟิวริค โปรเจ้าถิ่น ได้สิทธิ์เข้าร่วมจากฟอร์มการเล่นโดยรวมในรายการเมเจอร์ โดยทำดีที่สุดด้วยการจบที่ 5 ศึก ยูเอส โอเพน ที่แม้จะยังไม่ได้แชมป์ในปีนี้เช่นเดียวกัน แต่ก็ผ่านการตัดตัวถึง 22 จาก 25 รายการที่ลงเล่น อีกทั้งยังจบ 10 อันดับแรก ถึง 8 รายการ ได้อันดับ 5 ในตารางเฟดเอ็กซ์ คัพ ตลอดจนเป็นหนึ่งในสมาชิกทีม สหรัฐฯ ชุดคว้าแชมป์ ไรเดอร์ คัพ นั้นคือความคงเส้นคงวาของ โปรมือ 11 ของโลก โดยครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ใน แกรนด์ สแลม เป็นครั้งที่ 2 โดยผ่านการได้แชมป์เมเจอร์ ยูเอส โอเพน เมื่อปี 2003