มิเชล บัลลัค ซัดประตูชัยช่วยให้ทีมชาติเยอรมนี เฉือนชนะ รัสเซีย 2-1 ขณะที่ อิตาลี บุกไปเสมอ บัลแกเรีย 0-0 ส่วน ฝรั่งเศส ต้องมาไล่ตีเสมอ โรมาเนีย 2-2 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป
เยอรมนี 2-1 รัสเซีย
เยอรมนี ส่ง เรเน แอดเลอร์ นายทวารหน้าใหม่ลงประเดิมสนามในเกมทีมชาติ หลังจาก โรเบิร์ต เองเค ตัวจริงได้รับบาดเจ็บ โดยเกมนี้ยังคงให้ มิโรสลาฟ โคลเซ จับคู่กับ ลูคัส โพดอลสกีในแดนหน้า ขณะที่ รัสเซีย พลาดการใช้งาน โรมัน พาฟลูเชนโก ที่มีอาการบาดเจ็บเช่นกัน แต่ อังเดร อาร์ชาวิน ศูนย์หน้าความเร็วสูงลงสนามช่วยทีมได้
เริ่มเกมมาถึง น.6 เยอรมนี ก็มาได้ลุ้นทำประตูก่อนจากจังหวะที่ ฟิลิป ลาห์ม เติมเกมบุกขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยขวาแต่วางเท้าไม่ดีทำให้บอลเบาหลุดเสาออกหลังไป อีกสองนาทีต่อมา โคลเซ พยายามจะจับบอลในเขตโทษบอลโดนไม่ดีกระดอนมาเข้าทาง บัลลัค ได้ซัดเต็มๆแต่ถูก อคินเฟเยฟ ปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
แต่ถึง น.9 เยอรมนี ก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ โคลเซ เลี้ยงบอลลุยเข้ามาก่อนจ่ายให้ โพดอลสกี วิ่งแซงกองหลังหมีขาวหลุดไปซัดผ่านมือ อคินเฟเยฟ เข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 1-0
ด้าน รัสเซีย ก็มาได้ลุ้นทำประตูเช่นกันใน น.20 ซูริยานอฟ ลากลุยขึ้นมาซัดเต็มแรงด้วยเท้าซ้ายแต่ยังดีที่ แอดเนอร์ ออกมาปิดมุมปัดออกไปได้ทัน ทีมเยือนมาได้ลุ้นอีกครั้งใน น.27 เมื่อ อิกนาเชวิช กองหลังตัวเก่งได้ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลเฉียดคานออกไปนิดเดียว
แต่ เยอรมนี ก็ทำประตูหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ ชไวน์สไตเกอร์ รับบอลได้ในเขตโทษก่อนตวัดมาทางเสาสองและเป็น บัลลัค วิ่งเข้ามาซัดอย่างง่ายดายเข้าไปให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 5 นาที รัสเซีย ก็มาทำประตูไล่มาสำเร็จ จากจังหวะที่กองหลังเจ้าถิ่นทำผิดพลาดเสียบอลบริเวณริมกรอบเขตโทษทำให้ อีวาน ซาเอนโก ที่เพิ่งจะลงสนามมาฉกบอลลากเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะเปิดเข้ากลาง ปรากฏว่าบอลลอดขานายทวารเมืองเบียร์หลุดมาถึง อาร์ชาวิน แปบอลเข้าไปสบายให้หมีขาวไล่มา 1-2
เยอรมนี หันมาตั้งรับกันมากขึ้นจนปิดโอกาสลุ้นทำประตูของทีมเยือน แต่เกมมาสนุกอีกครั้งในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเมื่อ อาร์ชาวิน ได้บอลจากลูกทุ่มบริเวณริมเส้นเขตโทษ ก่อนจะแหวกกองหลังเจ้าบ้านถึง 3 คนหลุดเข้ามาแม้จะยิงผ่านมือ แอดเลอร์ ไปแล้วแต่บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
ก่อนหมดเวลา 3 นาที รัสเซีย น่าจะทำประตูตีเสมอมากที่สุดจากจังหวะที่กองหลังเจ้าถิ่นสกัดพลาดแบบเต็มเปาหน้าประตูตัวเอง อาร์ชาวิน ปั๊มบอลแย่งมาได้ก่อนจะใช้เท้าแหย่บอลสวน แอดเลอร์ แต่โชคร้ายสุดๆเมื่อบอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกไปทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที เยอรมนี เฉือนชนะ 2-1
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น อิตาลี เดินทางไปเยือน บัลแกเรีย ไม่สามารถทำอะไรเจ้าบ้านได้จบลงด้วยสกอร์ 0-0 ขณะที่ ฝรั่งเศส บุกไปไล่ตีเสมอ โรมาเนีย 2-2 โดยเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนตั้งแต่ น.5 จากการยิงของ ฟลอเรนติน เปเตร ก่อนที่ โดริน โกยาน จะมาบวกเพิ่มเป็น 2-0 ใน น.17 อย่างไรก็ตาม ฟรองค์ ริเบรี เพลเมกเกอร์ตัวเก่งก็ยิงให้ตราไก่ไล่ขึ้นมา 1-2 ก่อนที่ โยฮัน กูร์คุฟฟ์ จะซัดประตูตีเสมอได้สำเร็จใน น.69
ส่วน สเปน ยังคงรักษาศักดิ์ศรีในฐานะแชมป์ยุโรปหลังจากบุกไปเอาชนะ เอสโตเนีย ขาดลอย 3-0 โดยได้ประตูจาก ฮัวนิโต ใน น.34 หลังจากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา ดาวิด บียา กองหน้าตัวเก่งก็มาพังประตูให้ทีมสำเร็จ ก่อนที่ คาร์เลส ปูโยล จะมายิงประตูปิดท้ายเข้าไปใน น.69
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เยอรมนี : เรเน แอดเลอร์, อาร์เน ฟรีดริช, ไฮโก เวสเตอร์มันน์, ฟิลิป ลาห์ม, แพร์ มาเตซักเคอร์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มิเชล บัลลัค, ปิเตอร์ โทรชอฟสกี, โธมัน ฮิตเซิลสแบร์เกอร์, ลูคัส โพดอลสกี, มิโรสลาฟ โคลเซ
รัสเซีย : อีกอร์ อคินเฟเยฟ, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, เซอร์เกย์ อิกนาเชวิช, วาซิลิ เบเรสุตสกี, เรนาต์ ยานบาเอฟ, อีกอร์ เดนิซอฟ, เซอร์เกย์ ซีมัก, คอนสแตติน ซูริยานอฟ, ยูริ เซอร์คอฟ, พาเวล โพเกรบเนียค, อังเดร อาร์ชาวิน
ผลการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป
เยอรมนี 2-1 รัสเซีย
เยอรมนี ส่ง เรเน แอดเลอร์ นายทวารหน้าใหม่ลงประเดิมสนามในเกมทีมชาติ หลังจาก โรเบิร์ต เองเค ตัวจริงได้รับบาดเจ็บ โดยเกมนี้ยังคงให้ มิโรสลาฟ โคลเซ จับคู่กับ ลูคัส โพดอลสกีในแดนหน้า ขณะที่ รัสเซีย พลาดการใช้งาน โรมัน พาฟลูเชนโก ที่มีอาการบาดเจ็บเช่นกัน แต่ อังเดร อาร์ชาวิน ศูนย์หน้าความเร็วสูงลงสนามช่วยทีมได้
เริ่มเกมมาถึง น.6 เยอรมนี ก็มาได้ลุ้นทำประตูก่อนจากจังหวะที่ ฟิลิป ลาห์ม เติมเกมบุกขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยขวาแต่วางเท้าไม่ดีทำให้บอลเบาหลุดเสาออกหลังไป อีกสองนาทีต่อมา โคลเซ พยายามจะจับบอลในเขตโทษบอลโดนไม่ดีกระดอนมาเข้าทาง บัลลัค ได้ซัดเต็มๆแต่ถูก อคินเฟเยฟ ปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
แต่ถึง น.9 เยอรมนี ก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ โคลเซ เลี้ยงบอลลุยเข้ามาก่อนจ่ายให้ โพดอลสกี วิ่งแซงกองหลังหมีขาวหลุดไปซัดผ่านมือ อคินเฟเยฟ เข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 1-0
ด้าน รัสเซีย ก็มาได้ลุ้นทำประตูเช่นกันใน น.20 ซูริยานอฟ ลากลุยขึ้นมาซัดเต็มแรงด้วยเท้าซ้ายแต่ยังดีที่ แอดเนอร์ ออกมาปิดมุมปัดออกไปได้ทัน ทีมเยือนมาได้ลุ้นอีกครั้งใน น.27 เมื่อ อิกนาเชวิช กองหลังตัวเก่งได้ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลเฉียดคานออกไปนิดเดียว
แต่ เยอรมนี ก็ทำประตูหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ ชไวน์สไตเกอร์ รับบอลได้ในเขตโทษก่อนตวัดมาทางเสาสองและเป็น บัลลัค วิ่งเข้ามาซัดอย่างง่ายดายเข้าไปให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 5 นาที รัสเซีย ก็มาทำประตูไล่มาสำเร็จ จากจังหวะที่กองหลังเจ้าถิ่นทำผิดพลาดเสียบอลบริเวณริมกรอบเขตโทษทำให้ อีวาน ซาเอนโก ที่เพิ่งจะลงสนามมาฉกบอลลากเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะเปิดเข้ากลาง ปรากฏว่าบอลลอดขานายทวารเมืองเบียร์หลุดมาถึง อาร์ชาวิน แปบอลเข้าไปสบายให้หมีขาวไล่มา 1-2
เยอรมนี หันมาตั้งรับกันมากขึ้นจนปิดโอกาสลุ้นทำประตูของทีมเยือน แต่เกมมาสนุกอีกครั้งในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเมื่อ อาร์ชาวิน ได้บอลจากลูกทุ่มบริเวณริมเส้นเขตโทษ ก่อนจะแหวกกองหลังเจ้าบ้านถึง 3 คนหลุดเข้ามาแม้จะยิงผ่านมือ แอดเลอร์ ไปแล้วแต่บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
ก่อนหมดเวลา 3 นาที รัสเซีย น่าจะทำประตูตีเสมอมากที่สุดจากจังหวะที่กองหลังเจ้าถิ่นสกัดพลาดแบบเต็มเปาหน้าประตูตัวเอง อาร์ชาวิน ปั๊มบอลแย่งมาได้ก่อนจะใช้เท้าแหย่บอลสวน แอดเลอร์ แต่โชคร้ายสุดๆเมื่อบอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกไปทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที เยอรมนี เฉือนชนะ 2-1
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น อิตาลี เดินทางไปเยือน บัลแกเรีย ไม่สามารถทำอะไรเจ้าบ้านได้จบลงด้วยสกอร์ 0-0 ขณะที่ ฝรั่งเศส บุกไปไล่ตีเสมอ โรมาเนีย 2-2 โดยเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนตั้งแต่ น.5 จากการยิงของ ฟลอเรนติน เปเตร ก่อนที่ โดริน โกยาน จะมาบวกเพิ่มเป็น 2-0 ใน น.17 อย่างไรก็ตาม ฟรองค์ ริเบรี เพลเมกเกอร์ตัวเก่งก็ยิงให้ตราไก่ไล่ขึ้นมา 1-2 ก่อนที่ โยฮัน กูร์คุฟฟ์ จะซัดประตูตีเสมอได้สำเร็จใน น.69
ส่วน สเปน ยังคงรักษาศักดิ์ศรีในฐานะแชมป์ยุโรปหลังจากบุกไปเอาชนะ เอสโตเนีย ขาดลอย 3-0 โดยได้ประตูจาก ฮัวนิโต ใน น.34 หลังจากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา ดาวิด บียา กองหน้าตัวเก่งก็มาพังประตูให้ทีมสำเร็จ ก่อนที่ คาร์เลส ปูโยล จะมายิงประตูปิดท้ายเข้าไปใน น.69
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เยอรมนี : เรเน แอดเลอร์, อาร์เน ฟรีดริช, ไฮโก เวสเตอร์มันน์, ฟิลิป ลาห์ม, แพร์ มาเตซักเคอร์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มิเชล บัลลัค, ปิเตอร์ โทรชอฟสกี, โธมัน ฮิตเซิลสแบร์เกอร์, ลูคัส โพดอลสกี, มิโรสลาฟ โคลเซ
รัสเซีย : อีกอร์ อคินเฟเยฟ, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, เซอร์เกย์ อิกนาเชวิช, วาซิลิ เบเรสุตสกี, เรนาต์ ยานบาเอฟ, อีกอร์ เดนิซอฟ, เซอร์เกย์ ซีมัก, คอนสแตติน ซูริยานอฟ, ยูริ เซอร์คอฟ, พาเวล โพเกรบเนียค, อังเดร อาร์ชาวิน
