xs
xsm
sm
md
lg

กฎใหม่-ฤดูกาลใหม่ NFL / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

คอกีฬาคนชนคนเตรียมหายเหงากันได้แล้ว เมื่อศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ได้ฤกษ์เปิดฉากฤดูกาลใหม่ (2008/09) กันในเช้าวันศุกร์นี้ ประเดิมด้วย “แชมป์เก่า” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของคู่แข่งร่วมสายเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก อย่าง “อินเดียนแดง” วอชิงตัน เรดสกินส์

หลังจากสร้างปาฏิหาริย์ล้มฤดูกาลอันสมบูรณ์แบบของ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 ที่เกลนเดล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อีลาย แมนนิง ซึ่งตามรอยพี่ชาย เพย์ตัน แมนนิง ขึ้นไปคว้าแหวนแชมป์มาครองได้สำเร็จ มีคิวเดินนำทัพ ไจแอนท์ส ลงป้องกันแชมป์ในปีนี้ แต่เส้นทางของ “ยักษ์ใหญ่” เต็มไปด้วยขวางหนาม นอกจากความกดดันจากการมีป้าย “แชมป์เก่า” ห้อยคออยู่ ทอม คอฟลิน ยังเสียลูกทีมกำลังสำคัญไปหลายราย

เริ่มจากเกมรุก เจเรมี ช็อคคีย์ น้อยเหนือต่ำใจในบทบาท ยอดปีกในวัย 28 ปี จึงเก็บกระเป๋าย้ายไปเล่นให้ นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ส่งผลให้ “นักบุญ” กลายเป็นม้ามืดของซีซั่นนี้อย่างเต็มตัว ดรูว์ บรีส์ สามารถรังสรรค์เกมรุกได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าทางภาคพื้นดินที่มี เรจจี บุช คอยทะลุทะลวง ช็อคคีย์ มาเป็นเป้าใหญ่ตรงกลาง ขณะที่ มาร์คิส โคลสตัน หอยเหินหาวริมเส้น อีกทั้งแนวรับยังได้ โจนาธาน วิลมา ไลน์แบ็กเกอร์ตัวเก่งมาจาก นิวยอร์ก เจ็ตส์

แต่จุดอ่อนในปีนี้ของแชมป์เก่าได้แก่ “เกมรับ” ที่ถือเป็นจุดแข็งเมื่อปีที่ผ่านมา การรีไทร์ของ ไมเคิล สเตรแฮม และอาการบาดเจ็บเข่าจนต้องพักตลอดซีซั่นของ โอซี อูเมนโยรา ทำให้ภาระหนักในแผงหน้ามาตกอยู่กับ จัสติน ทัค นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำหรับ สตีฟ สปันนูโอโล ว่าดีพอจะขยับจากโค้ชทีมรับไปเป็นเฮดโค้ชได้หรือยัง อีกทั้งยังเป็นบทพิสูจน์สำคัญของ ไจแอนท์ส

เนื่องจากหากย้อนกลับไปในครั้งที่พวกเขาครองซูเปอร์โบว์ล สองหนก่อนในปี 1987 และ 1991 ไจแอนท์ส กลับบ้อท่าไม่ได้เข้าโพสต์ซีซั่นในปีถัดมา ซึ่งถ้าทีมยังไม่ปรับปรุงเกมในบ้านจากเมื่อซีซั่นก่อนที่ชนะแค่ 3 จาก 8 เกม คอฟลิน ไมเกรนขึ้นแน่นอน ลำพังคู่แข่งร่วมสายอย่าง ดัลลัส คาวบอยส์, ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ หรือว่า เรดสกินส์ ก็ว่าหนักอึ้งแล้ว ยังมีอีกหลายทีมแย่งแชมป์จากเอเอฟซี (AFC) หินกว่าเป็นสองเท่าไม่ว่าจะเป็น แพทริออตส์, อินเดียนาโปลิส โคลต์ส, ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส และ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส

ว่าถึงแชมป์เก่าไปแล้ว ก็ต้องให้เกียรติ “รองแชมป์เก่า” อย่าง แพทริออตส์ กันบ้าง ด้วยมันสมองอันแหลมคมของ บิลล์ บีลิชิก ประกอบกับฝีไม้ลายมือเหนือคำบรรยายของ ทอม เบรดี ส่งให้เหล่า “นักรบกู้ชาติ” ยังคงเป็นเต็งแชมป์สำหรับปีนี้ ทว่าใครที่อยากเห็น “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” อีกสักครั้งต่อจากยุค “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ ไร้พ่ายในปี 1972 คงลำบากหน่อย เนื่องจากฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าสูสีกันจริงๆ และก็มีมติจากลีกในการเปลี่ยนแปลงกฎที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ทีมรับมากขึ้น

จากความฉลาดแกมโกงในคดีแอบถ่ายของ บีลิชิก นำมาซึ่งกฎใหม่ที่ว่าผู้เล่นในทีมรับหนึ่งคนได้รับอนุญาตให้ใส่หมวกกันน็อคที่ติดไมค์ไว้ข้างในลงสนามได้ เพื่อคอยรับฟังการสั่งแผนจากโค้ชทีมรับป้องกันมิให้คู่แข่งมาจ้องถอดโค้ดการส่งหัสผ่านอากัปกิริยากัน นี่ถือเป็นเรื่องดีและเราน่าจะได้เห็นเกมการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น จากไหวพริบปฏิภาณของควอเตอร์แบ็กที่ต้องใช้ความเก๋าเปลี่ยนแผนที่แนววางลูก ได้รู้ถึงกึ๋นของหัวหน้าโค้ชแต่ละคนในการแก้ทางกัน

ขณะที่บรรดาปีกนอกหากจะรับบอลริมเส้นต้องเลือกทำเลกันให้ดีหน่อย เนื่องจากถ้าเท้าไม่ปักลงในสนามทั้งสองข้าง กรรมการจะไม่ขานว่าเป็นลูกดีอีกแล้วกรณีโดนผลักออกนอกสนาม ส่วนกฎการเสี่ยงเหรียญคราวนี้สามารถเลือกบุกในครึ่งหลังก็ได้ การดึงหน้ากากคู่แข่ง เสียโทษ 15 หลาสถานเดียว จากที่เคยเสียแค่ 5 หลากรณีมิตั้งใจ เรื่องการเตะฟิลด์โกล, เอ็กซ์ตราพอยด์ หรือว่า การขว้างบอลไปข้างหน้าอย่างผิดกฎ เดี่ยวนี้ลีกยอมให้กรรมการดูภาพรีเพลย์ได้แล้ว เพื่อให้การตัดสินออกมาอย่างถูกต้อง เพราะความคลาดเคลื่อนของสายตามนุษย์เพียงครั้งเดียว ก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนผลการแข่งขัน เปลี่ยนโฉมหน้าฤดูกาลของทีมนั้นๆ ได้เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น