“มนัส” มั่นใจฟิตพอต่อยอาชีพ-สัญญาไม่กลับไปเหลวไหลอีก

มนัส บุญจำนงค์ นักชกประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้เหรียญโอลิมปิก 2 สมัย มั่นใจตนเองมีความฟิตพอไปต่อยมวยอาชีพ เนื่องจากการที่ไม่ต้องคุมน้ำหนักจะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่กลับไปทำตัวเหลวไหลอีกครั้งอย่างแน่นอน

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา สันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริเวอรี่ จำกัด เป็นประธานงานเลี้ยงต้อนรับและขอบคุณนักกีฬาไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ 2008 ณ หอประชุมใหญ่บริษัท “สิงห์” พร้อมมอบเงินรางวัลพิเศษให้กับนักกีฬาจาก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย และสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย โดยนักกีฬาที่ได้เหรียญทอง 1 ล้านบาท, เหรียญเงิน 5 แสนบาท และนักกีฬาที่ไม่ได้เหรียญอีกคนละ 3 แสนบาทยกเว้นสมาคมยกลูกเหล็กที่ไม่ได้ในส่วนนี้

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า มนัส บุญจำนงค์ ยอดนักชกไทยเจ้าของเหรียญเงินปักกิ่งเกมส์ ตั้งเป้าหมายอยากไปชกมวยอาชีพในประเทศสหรัฐอเมริกา จนทำให้แฟนมวยหลายคนตั้งข้อสงสัยถึงสภาพร่างกายของเจ้าตัวนั้น ล่าสุด ยอดนักชกจากราชบุรี ที่มาร่วมงานพร้อมรับเงิน 5 แสนบาทเข้ากระเป๋ายืนยันเจตนารมณ์เดิมพร้อมแสดงความมั่นใจว่าตนเองมีศักยภาพมากพอจะไปชกมวยในระดับอาชีพ

โดย “เจ้าเติ้ล” กล่าวว่า “อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าหากผมชกมวยสมัครเล่นต่อไป ผมเริ่มคุมน้ำหนักตัวในรุ่นนี้ (64 กิโลกรัม) ไม่ไหวแล้ว แต่หากขยับขึ้นไปอีกรุ่นก็จะไปทับกับน้องชาย (นนท์) ดังนั้นผมจึงเริ่มคิดถึงการไปต่อยมวยอาชีพ ซึ่งผมมั่นใจว่าตัวเองไหว เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องคุมน้ำหนักตัวอีกต่อไป โดยจะขยับขึ้นไปต่อยในรุ่น 67 กิโลกรัมเลย อีกอย่างการชกอาชีพจะทำการชั่งน้ำหนักก่อนขึ้นชกตั้ง 2 วัน ดังนั้นก็สบายไม่ต้องคุมมาก เมื่อตนเองกินได้เยอะร่างกายก็ต้องแข็งแกร่งขึ้น และสภาพความฟิตก็จะตามมาเอง”

นอกจากนี้ นักชกดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก ยังให้สัญญากับแฟนหมัดมวยไทยว่าจะไม่กลับไปทำตัวเหลวไหลอีก “มีบางคนบอกว่าขนาดผมทำตัวอย่างนี้ ทำไม เสธ. (พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยฯ) ถึงไม่ยอมตัดผมออกจากทีม ผมเป็นลูกรักของ เสธ. หรือไม่ ทำไม เสธ. ถึงยังให้โอกาสผม ผมขอตอบว่าการสร้างนักมวยขึ้นมาสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาบ่มเพาะหลายปี แต่วันนี้ผมปรับปรุงตัวและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าผมทำได้ ผมกลับมาได้ และปรับปรุงตัวแล้ว เราทุกคนมีโอกาสหลงผิดกันทั้งนั้น ทำไมทุกคนไม่ให้โอกาสผมแก้ตัว ผมรับรองว่าผมจะไม่กลับไปเป็นอย่างเดิมอีก”