ห่างหายความสำเร็จสูงสุดไปนานถึง 8 ปี ในที่สุด “ดรีมทีม” ยัดห่วงชาย สหรัฐอเมริกา ก็สามารถคว้าเหรียญทองมาคล้องคอได้สำเร็จใน “ปักกิ่งเกมส์” ซึ่งปัจจัยหลักคืนสู่บัลลังก์ในครั้งนี้เห็นจะหนีไม่พ้น “การร่วมแรงร่วมใจกัน”
หลังจากเป็นแชมป์กีฬาโอลิมปิก ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2000 วงการบาสเกตบอลชายสหรัฐฯ ตกต่ำกว่ามาตรฐานได้มาแค่ 2 เหรียญทองแดงจาก “เอเธนส์เกมส์” 2004 และการชิงแชมป์โลกเมื่อสองปีที่ผ่านมา
ดังนั้น สตาฟฟ์โค้ชและ 12 ขุนพล “รีดีมทีม” (Redeem Team) จึงต้องการกู้ศักดิ์ศรีรุ่นพี่ๆ คืนมา ในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 29 ซึ่งที่สุดแล้ว สหรัฐฯ ก็ทำได้สำเร็จจากชัยชนะทั้ง 8 เกมใน “ปักกิ่งเกมส์” รวมถึงการอัด “แชมป์โลก” สเปน ในนัดชิงชนะเลิศ 118-107 คะแนน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยความสำเร็จตรงนี้ พาว กาซอล เซ็นเตอร์ชาวสเปน ที่เล่นอาชีพกับ แอลเอ เลเกอร์ส ในศึก NBA ออกมาให้เครดิตคู่แข่ง “มันไม่ใช่แค่พรสวรรค์ส่วนตัวของพวกเขา แต่นี่เป็นเรื่องของทีมเวิร์ค และก็การทำงานอันยอดเยี่ยมของสตาฟฟ์โค้ชด้วย”
ด้าน โคบี ไบรอันท์ การ์ดซูเปอร์สตาร์ “ดรีมทีม” ออกมายกยอ เจอร์รี โคลันเจโล ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการทีมที่สามารถเลือกผู้เล่นได้อย่างเหมาะสมในการมาแข่งครั้งนี้ “ผมคิดว่ามันมาจากระบบการทำงานที่ คุณโคลันเจโล วางเอาไว้ อะไรต่างๆ ที่คุณเห็นในทีมนี้ ทุกคนต่างพูดกันว่าผู้เล่นใน NBA เล่นกันแบบเห็นแก่ตัว หยิ่งจองหอง เอาแต่ลุยเอง แต่วันนี้คุณคงได้เห็นแล้วว่าเราเป็นทีม ประจันหน้ากับความยากลำบากร่วมกัน จนนำมาสู่ความสำเร็จตรงนี้”
ส่วน โคลันเจโล ออกมากล่าวทำนองถ่อมตน “ผมไม่เคยมีอะไรคับข้องใจ ผมเชื่อในสิ่งที่ผมได้เลือกลงไป เรารู้สึกว่านี่เป็นทีมนักกีฬาและก็เป็นทีมสุดยอดเกมรับ ผู้เล่นเหล่านี้มีความหลากหลาย มีลักษณะพิเศษในตัวเอง”
ในส่วนของ ดเวน เหว็ด การ์ด ไมอามี ฮีท ที่มีส่วนช่วยให้ “ดรีมทีม” ไปถึงฝั่งฝัน เผยบ้าง “ฝีมือของผู้เล่นชุดนี้ล้วนแล้วแต่สุดยอด แต่นั่นไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก เพราะเราเล่นกันเป็นทีม เรามาที่นี่เพื่อเล่นในสิ่งที่แตกต่างออกไป ทิ้งความเห็นแก่ตัวไว้ข้างสนาม ถ้าไม่ทำเช่นนั้นคงไม่ได้มานั่ง ณ จุดนี้ มีเหรียญทองคล้องอยู่ที่คอ”
ขณะที่ ไมค์ ชาเชฟสกี หัวหน้าโค้ช สหรัฐฯ ทิ้งท้ายด้วยความยินดียิ่ง “ผมคิดว่าเราได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมายอดเยี่ยมที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสร์บาสเกตบอลเลยก็ว่าได้”
หลังจากเป็นแชมป์กีฬาโอลิมปิก ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2000 วงการบาสเกตบอลชายสหรัฐฯ ตกต่ำกว่ามาตรฐานได้มาแค่ 2 เหรียญทองแดงจาก “เอเธนส์เกมส์” 2004 และการชิงแชมป์โลกเมื่อสองปีที่ผ่านมา
ดังนั้น สตาฟฟ์โค้ชและ 12 ขุนพล “รีดีมทีม” (Redeem Team) จึงต้องการกู้ศักดิ์ศรีรุ่นพี่ๆ คืนมา ในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 29 ซึ่งที่สุดแล้ว สหรัฐฯ ก็ทำได้สำเร็จจากชัยชนะทั้ง 8 เกมใน “ปักกิ่งเกมส์” รวมถึงการอัด “แชมป์โลก” สเปน ในนัดชิงชนะเลิศ 118-107 คะแนน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยความสำเร็จตรงนี้ พาว กาซอล เซ็นเตอร์ชาวสเปน ที่เล่นอาชีพกับ แอลเอ เลเกอร์ส ในศึก NBA ออกมาให้เครดิตคู่แข่ง “มันไม่ใช่แค่พรสวรรค์ส่วนตัวของพวกเขา แต่นี่เป็นเรื่องของทีมเวิร์ค และก็การทำงานอันยอดเยี่ยมของสตาฟฟ์โค้ชด้วย”
ด้าน โคบี ไบรอันท์ การ์ดซูเปอร์สตาร์ “ดรีมทีม” ออกมายกยอ เจอร์รี โคลันเจโล ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการทีมที่สามารถเลือกผู้เล่นได้อย่างเหมาะสมในการมาแข่งครั้งนี้ “ผมคิดว่ามันมาจากระบบการทำงานที่ คุณโคลันเจโล วางเอาไว้ อะไรต่างๆ ที่คุณเห็นในทีมนี้ ทุกคนต่างพูดกันว่าผู้เล่นใน NBA เล่นกันแบบเห็นแก่ตัว หยิ่งจองหอง เอาแต่ลุยเอง แต่วันนี้คุณคงได้เห็นแล้วว่าเราเป็นทีม ประจันหน้ากับความยากลำบากร่วมกัน จนนำมาสู่ความสำเร็จตรงนี้”
ส่วน โคลันเจโล ออกมากล่าวทำนองถ่อมตน “ผมไม่เคยมีอะไรคับข้องใจ ผมเชื่อในสิ่งที่ผมได้เลือกลงไป เรารู้สึกว่านี่เป็นทีมนักกีฬาและก็เป็นทีมสุดยอดเกมรับ ผู้เล่นเหล่านี้มีความหลากหลาย มีลักษณะพิเศษในตัวเอง”
ในส่วนของ ดเวน เหว็ด การ์ด ไมอามี ฮีท ที่มีส่วนช่วยให้ “ดรีมทีม” ไปถึงฝั่งฝัน เผยบ้าง “ฝีมือของผู้เล่นชุดนี้ล้วนแล้วแต่สุดยอด แต่นั่นไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก เพราะเราเล่นกันเป็นทีม เรามาที่นี่เพื่อเล่นในสิ่งที่แตกต่างออกไป ทิ้งความเห็นแก่ตัวไว้ข้างสนาม ถ้าไม่ทำเช่นนั้นคงไม่ได้มานั่ง ณ จุดนี้ มีเหรียญทองคล้องอยู่ที่คอ”
ขณะที่ ไมค์ ชาเชฟสกี หัวหน้าโค้ช สหรัฐฯ ทิ้งท้ายด้วยความยินดียิ่ง “ผมคิดว่าเราได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมายอดเยี่ยมที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสร์บาสเกตบอลเลยก็ว่าได้”
