xs
xsm
sm
md
lg

"สมจิตร" รับเคยเลิกชก 2 ครั้ง ลั่นแบ่งเงินบริจาค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมจิตร จงจอหอ กับตำแหน่งขวัญใจชาวไทยตัวจริง
สมจิตร จงจอหอ กัปตันเหรียญทองโอลิมปิกของทีมชาติไทย เปิดใจเคยหันหลังให้สังเวียนผ้าใบมาแล้ว 2 ครั้ง จากโอลิมปิก 2 หน ก่อนกลับมาสุขสมหวังกับเหรียญทองที่รอคอย พร้อมแบ่งเงินบริจาคช่วยเหลือเยาวชนต่อไป

ภายหลังจากคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2008 ในการชกมวยสากลสมัครเล่น "ปักกิ่งเกมส์" สมจิตร จงจอหอ ยอดมวยชาวบุรีรัมย์ เปิดใจกับผู้สื่อข่าว MGR SPORT ว่าในอดีตชีวิตบนสังเวียนรู้สึกผิดหวังจนหันหลังให้เวทีมวยมาแล้ว 2 ครั้ง 2 คราด้วยกัน

"ตลอดเวลา 12 ปี ที่ผ่านมา ผมรอคอยโอกาสนี้มาตลอดชีวิต วันนี้ผมมีความสุขแล้ว ผมเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว แต่ก่อนจะมีวันนี้ผมเคยผิดหวังร้ายแรงในชีวิตมา 2 ครั้งแล้ว"

"ครั้งแรกคือการชกคัดเลือกทีมชาติไทย เพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปคัดเลือกในโอลิมปิก 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ครั้งนั้นผมแพ้ ให้กับ วิจารณ์ พลฤทธิ์ ซึ่งในโอลิมปิกครั้งนั้นเอง วิจารณ์ คือคนที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก 2000 คือช่วงนั้นผมรู้สึกเสียใจมาก มันรู้สึกผิดหวัง เสียใจบอกไม่ถูก ตอนนั้นผมถึงกับตัดใจกับการชกมวยทีมชาติไทยไปแล้ว ไม่อยากชกแล้ว เสียใจ เสียดาย แต่ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มาปลอบว่า สมจิตร ชีวิตเรายังอีกไกล อายุเรายังไม่มาก มีโอกาสอีกมากมายรอเราอยู่ ผมจึงเปลี่ยนการตัดสินใจกลับมาชกมวยสากลสมัครเล่นต่อไป"

ขณะที่ความผิดหวังครั้งที่ 2 ของ สมจิตร จงจอหอ นั้น นักมวยวัย 33 ปี กล่าวว่า "ครั้งต่อมาคือเมื่อปี 2004 เอเธนส์เกมส์ ที่ประเทศกรีซนี่แหละ ก่อนเดินทางใครๆ ก็บอกผมว่า สมจิตร เป็นตัวเต็ง ได้เหรียญแน่ ซึ่งตอนนั้นผมก็มั่นใจมากเช่นกัน เพราะผมฝึกซ้อมมาดีมาก ผมพร้อมที่สุดแล้ว ตั้งใจมากว่าจะต้องได้เหรียญแน่ๆ แต่พอถึงรอบที่ 2 เจอกับนักมวยคิวบา คะแนนผมนำอยู่แท้ๆ ตอนจบยกที่ 3 คิดว่าอย่างไรเสียก็น่าจะชนะแน่ๆ แต่พอยกสุดท้าย ผมกลับไปกดดันตัวเอง ทำอะไรไม่ถูกเอง ยืนให้เขาต่อยจนตกรอบ"

"วันนั้นผมเสียใจมาก ทั้งๆ ที่ยกสุดท้ายแค่ออกไปเต้นฟุตเวิร์กอย่างเดียวก็น่าจะชนะได้แล้ว หลังชกเสร็จ ผมเสียใจมาก ร้องไห้ ทำใจไม่ได้เลย สู้อดทนฝึกซ้อม ฟิตซ้อมร่างกายมาอย่างดี แถมฟอร์มการชกก็ดีอีก แต่กลับแพ้ ผมประกาศหลังลงจากเวทีเลยว่าเลิกชกมวยสากลสมัครเล่นแล้ว ไม่เอาแล้ว"

"แต่พอกลับมาถึงเมืองไทย ได้มาเจอกับแฟนๆ ที่มาคอยต้อนรับ มีคนมาให้กำลังใจผมมากมาย มันทำให้ผมเปลี่ยนใจ กลับมาฮึดสู้ต่ออีกครั้งได้ จนมีวันนี้ วันที่ผมประสบความสำเร็จได้เหรียญทองโอลิมปิกที่ผมเคยผิดหวังมาแล้ว 2 ครั้ง ผมรู้สึกภูมิใจ และมีความสุขมากจริงๆ"

นอกจากนี้ สมจิตร ยังเปิดเผยถึงเงินสนับสนุนนับ 10 ล้าน ที่จะได้รับเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยว่า "เรื่องเงินอัดฉีดเป็นเรื่องผลพลอยได้สำหรับผม ผมภูมิใจกับเหรียญทองที่ผมทำได้ในวันนี้มากกว่า"

"หากจะให้ตอบก็คิดว่าผมจะแบ่งเงินรางวัลออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ 1 เก็บไว้เป็นหลักประกันให้กับครอบครัวของผม 2 ตอบแทนสังคม คือ ส่วนใหญ่ผมไปแข่งขันที่ไหนได้เงินรางวัลมา ผมก็มักจะแบ่งเงินแล้วนำไปซื้ออุปกรณ์กีฬา หรือนำบริจาคให้กับโรงเรียนในชนบท เพื่อให้โอกาสกับเยาวชนที่ขาดแคลน ผมทำแบบนี้มานานแล้ว และส่วนที่ 3 ผมจะเก็บไว้ให้กับ น้องกำปั้น ลูกชายคนเดียวของผม เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้เขาต่อไป" สมจิตร กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น