xs
xsm
sm
md
lg

‘หลิว เสียง’ บุรุษผู้โชคร้าย / ภู่ หว่า เฮง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลิว เสียง ลมกรดอับโชคประจำปักกิ่งเกมส์
“ตะลุยแดนมังกร” กับ “ภู่ หว่า เฮง”

เมื่อวันก่อน “ภู่ หว่า เฮง” เพิ่งออกมายกความดีความชอบให้ “ไมเคิล เฟลป์ส” ฉลามหนุ่มชาวอเมริกัน ถือครองตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ครั้งที่ 29 หลังจากครองจ้าวสระไปทั้ง 8 รายการที่ลงสนาม พร้อมทำสถิติโลกขึ้นมาใหม่ 7 รายการ จารึกสถิติโอลิมปิกเสียใหม่อีกหนึ่งรายการ

ซึ่งผมก็ตั้งใจไว้ว่าหาก หลิว เสียง ลมกรดเลือดมังกรวัย 25 ปี สามารถป้องกันแชมป์วิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรไว้ได้ คงเทคะแนนยกตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำชาติจีนให้แก่ “อาหลิว” ในฐานะที่แบกความหวังสูงสุดของคนทั้งประเทศไว้บนสองบ่า

แต่เมื่อช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ผ่านมา ความโชคร้ายเหลือคณาก็มาเยือน หลิว เสียง เมื่อเหรียญทอง “เอเธนส์เกมส์” สี่ปีก่อน เกิดประสบปัญหาบาดเจ็บซ้ำบริเวณเอ็นร้อยหวายข้างขวา ทำให้ต้องออกจากการแข่งขันรอบคัดเลือกไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับ เทอร์เรนซ์ แทรมเมลล์ ยอดนักวิ่งชาวอเมริกันที่บาดเจ็บจนต้องถอนตัวไปในฮีทก่อนหน้านี้ นั่นก็ทำให้ เดย์รอน โรบล์ส ลมกรดชาวคิวบาแทบนอนมาใน “ปักกิ่งเกมส์” อยู่ที่ว่าจะคว้าเหรียญทองพร้อมทำลายสถิติโลกของตัวเองที่เคยทำเอาไว้ 12.87 วินาที ได้หรือไม่

ทันทีที่ผมเห็น “อาหลิว” โขยกเขยกในช่วงวอร์มอัพ ก็รู้สึกใจตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว ซึ่งก็ยอมรับกันตรงๆ ว่าแอบเชียร์และอยากเห็นเป็นบุญตากับความสามารถของ หลิว เสียง ขวัญใจชาวจีน เมื่อเข้าสู่การแข่งขันจริงมีการออกสตาร์ทฟาล์วเกิดขึ้น แต่นั่นกลับเป็นฉากสุดท้ายในโอลิมปิกเกมส์ 2008 เมื่อลมกรดจากเซียงไฮ้ ไม่สามารถฝืนอาการเจ็บดังกล่าวได้จนต้องยอมถอนตัวไป ทันทีที่โฆษกสนามประกาศให้แฟนๆ ได้รู้ ผมได้ยินเสียงครางฮือของบรรดากองเชียร์หลายหมื่นคนในสนามรังนก ผ่านทางการถ่ายทอดสดทาง CCTV

ตอน “อาหลิว” เดินออกจากการแข่งขัน ช่างกล้องรู้งานเดินตามไปก่อนเห็น หลิว เสียง ทรุดตัวลงกับพื้น แม้ภาพตัดเข้าสู่สถานีแต่ผมรู้สึกได้ว่าเขากำลังหมดอาลัยตายอยาก และคงอยากร้องไห้ออกมาดังๆ เนื่องจากเท่าที่ติดตามข่าวสารมา หลิว เสียง เป็นนักกีฬาที่ทุ่มเทฝึกซ้อมมาก และก็ดูแลร่างกายของตัวเองเป็นอย่างดีมาโดยตลอด แต่ก็พอทราบมาเช่นกันว่าเขาประสบปัญหาบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้

จนมารับรู้จากปากของ ซุน ไห่ ผิง โค้ชคู่ใจที่ยืนยันว่า หลิว เสียง มีกระดูกข้อเท้าที่ยื่นออกมาต่างจากคนปกติ จากการครูดทำให้เกิดเป็นพังผืด และนั่นก็ส่งผลต่อาชีพของเขามาโดยตลอด เพียงแต่ว่าในหลายรายการที่ผ่านมา แพทย์ช่วยกันประคบประงมจน “อาหลิว” กวาดชัยชนะสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเองและประเทศชาติเสมอมา

แต่คราวนี้ต้องถือว่า หลิว เสียง ถึงคราวเคราะห์จริงๆ เพราะอาการเจ็บดันมากำเริบเอาเมื่อวันเสาร์นี้เอง อีกทั้งเช้าวันแข่งขัน “อาหลิว” ก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอีก จนออกอาการให้เห็นดังกล่าว พูดถึงลูกศิษย์ที่สนิทสนมกันอย่างกับพ่อลูกได้ไม่นาน ซุน ไห่ ผิง ถึงกับปล่อยโฮกลางการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวทั่วโลก ทำให้ผมรู้สึกปวดร้าวแทนความตั้งใจของทั้งคู่ที่พยายามทำงานร่วมกันมาตลอดสี่ปีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ผม, เฮียยุทธ และ น้องตุ้ม ออกไปเก็บกระแสของ หลิว เสียง กับประชาชนชาวจีนตามท้องถนน พวกเราก็อดอมยิ้มแทน “อาหลิว” ไม่ได้ เพราะไม่มีใครถือโทษโกรธเคืองในความโชคร้ายที่เกิดขึ้นเลย ทุกคนต่างขอเป็นกำลังใจให้ หลิว เสียง ต่อไป อาการบาดเจ็บเป็นของคู่กันสำหรับนักกีฬาอยู่แล้ว

อีกทั้งเมื่อได้คุยกับคอกีฬาท่านหนึ่งทำเอาผมขนลุกซู่ไปเหมือนกัน จากคำพูดอันกินใจที่ออกมาทำนองว่า “การที่รู้ว่าตัวเองมีอาการบาดเจ็บอยู่แล้ว แต่ขอกลับลงไปเผชิญหน้ากับมัน ถึงเป็นความพ่ายแพ้ให้แก่โชคชะตา แต่ก็คู่ควรแก่ความภาคภูมิใจ แต่ถ้า หลิว เสียง ยอมรับความปราชัยตั้งแต่ไม่ลงสนาม นั่นคงทำให้คนจีนทั้งประเทศผิดหวังในตัวเขาไม่น้อย”

นั่นเป็นคติประจำใจที่นักกีฬาทุกคนพึงท่องไว้ “ไม่มีใครออกสู่สนามแข่งขันแล้วเป็นผู้ชนะ ตราบใดที่เพียงเริ่มต้นคุณได้ยอมแพ้ให้แก่ปัญหาเสียแล้ว” จากนี้เราก็ได้แต่หวังว่า หลิว เสียง จะบำบัดรักษาอาการบาดเจ็บให้หายสนิท ก้าวคืนสู่เวทีกรีฑาโลกได้อย่างแข็งแกร่งทั้งสภาพร่างกายและจิตใจต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น