โอลิมปิก มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งที่ 29 เปิดฉากขึ้นแล้วที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ณ "สนามรังนก" หรือ Bird’s Nest ท่ามกลางพิธีเปิดสุดอลังการทั้งแสงสีเสียงรวมถึงผู้แสดงหลายหมื่นชีวิต ต่อหน้าผู้ชมที่เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานเต็มความจุของสนามกีฬาแห่งชาติถึง 80,000 คน โดยทางการจีนได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จเข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ด้วย
ก่อนถึงเวลามงคล วันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 เวลา 8.08 นอกสนามก็คึกคักไม่แพ้กัน เมื่อชาวเมืองปักกิ่งและผู้ที่เดินทางมาจากทั่วทุกมณฑลของ จีน ได้ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันและรอยยิ้มของเจ้าภาพ เมื่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแห่งกรุงปักกิ่งไม่ได้กั้นรั้วของคืนสำคัญไว้เพียงแต่ใน "รังนก" หากได้ปลดปล่อยมันออกมาในสวนสาธารณะและสถานที่รวมพลใจกลางเมืองกว่า 10 แห่ง
แต่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดเห็นจะเป็น สวนสาธารณะ Chaoyang, สวนสาธารณะGaobedian Caoyun, สวนศิลปวัฒนธรรมนานาชาติกรุงปักกิ่ง, ศูนย์กลางการค้าเดอะเพลส, สนามแข่งยูโด มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปักกิ่ง, แกรนด์วิวการ์เด้น คัลเจอร์ สแควร์, ไชนา มิลเลเนียม มอนูเม้นท์, Tongzhou Yunhe สแควร์, สวนสาธารณะ Binhe และ สวนสาธารณะ Lianhuachi เพราะทุกที่มีจอขนาดใหญ่เพื่อรับสัญญานถ่ายทอดสด นอกจากนี้ยังมีการจุดพลุบริเวณจตุรัสเทียนอันเหมิน และ มีการจัดงานตามสนามและลานวัฒนธรรมอื่นๆภายในกรุงปักกิ่งกันอย่างพร้อมเพรียง
ซึ่งรูปแบบของการจัดงานนั้นจะเริ่มขึ้นพร้อมกับพิธีเปิดการแข่งขันโดยแต่ละที่ที่จัดงานจะมีจอขนาดใหญ่เพื่อรับสัญญานถ่ายทอดสดส่วนความสนุกนั้นจะแตกต่างกันตามสถานที่ ดังเช่นที่ ไชนา มิลเลเนียม มอนูเม้นท์ ผู้คนต่างมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเย็นขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักไม่ว่าจะเป็นพลังเสื้อแดงที่ทางการจีนปลุกกระแสรักชาติให้ชาวเมืองสวมใส่เสื้อสีแดง ติดสติ๊กเกอร์ หรือแม้แต่ใช้ผ้าคาดหัวสีแดงเพื่อสร้างสีสันให้กับพิธีเปิด
สำหรับพิธีเปิดครั้งนี้ทางการจีน ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จเข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และในการณ์นี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการ รวมไปถึงคณะทำงาน เดินทางเข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นมีการเชิญธงชาติของเจ้าภาพ จีน ขึ้นสู่ยอดเสา ตามมาด้วยแสดงหลากหลายชุดจนกระทั่งมาถึงชุดไฮไลท์ของสุดยอดผู้กำกับ จาง อี้ โหมว ชื่อชุดตรงกันสโลแกนของการแข่งขันครั้งนี้คือ "One World One Dream" นานถึง 7 นาที ใช้เวลาออกแบบนาน 1 ปี โดยมี หลิว ฮวน นักร้องราชาเพลงป็อปของเจ้าถิ่น และ ซาราห์ ไบรท์แมน จากสหราชอาณาจักร ขับกล่อมเพลงประจำการแข่งขัน ก่อนที่จะชุดพลุชุดใหญ่อีกครั้งเพื่อนำเข้าสู่พิธีการและนำนักกีฬาแต่ละชาติเข้าสู่สนามต่อไป
ในช่วงของขบวนพาเหรดนักกีฬาจาก 205 ชาติ "วรพจน์ เพชรขุ้ม" ยอดนักมวยสากลสมัครเล่นจากจังหวัดอุบลราชธานีเจ้าของเหรียญเงินเอเธนส์เกมส์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถือธงนำทัพนักกีฬาไทยเข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 146 ซึ่งถือว่าพลิกโผไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีการวางตัว มนัส บุญจำนงค์ ฮีโร่เหรียญทองเมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นคนทำหน้าที่ สำหรับโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมทั้งหมด 51 คนจาก 13 ชนิดกีฬา ส่วนทัพนักกีฬาที่พาเหรดเข้าสู่สนามเป็นชาติสุดท้ายคือเจ้าภาพจีนนั่นเองโดยมี เหยา หมิง ยอดนักบาสเกตบอล เป็นผู้นำธง เรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆในสนามได้อย่างกึกก้อง โดยมีเด็กน้อยที่รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเดินเคียงข้าง
จากนั้น หลิว ชี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกจีน และฌักส์ โรกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ก่อนที่ หู จิน เทา ประธานาธิบดีจีน กล่าวเปิดการแข่งขัน “ปักกิ่งเกมส์ 2008” อย่างเป็นทางการ
ที่สุดวินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อ "หลี หนิง" อดีตนักยิมนาสติกเจ้าของ 3 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่ลอส แองเจลีส เมื่อปี 1984 ถูกผูกโดยสลิงโหนวิ่งอยู่บนอากาศเหยียบเมฆมงคลไปรอบๆ สนาม ก่อนจุดไฟลุกขึ้นบนกระถางคบเพลิงเป็นสัญญาณว่ามหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติได้เริ่มขึ้นแล้ว (คลิก! ชมภาพ"หลี่หนิง"เหินฟ้า จุดคบเพลิงโอลิมปิก)
ก่อนถึงเวลามงคล วันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 เวลา 8.08 นอกสนามก็คึกคักไม่แพ้กัน เมื่อชาวเมืองปักกิ่งและผู้ที่เดินทางมาจากทั่วทุกมณฑลของ จีน ได้ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันและรอยยิ้มของเจ้าภาพ เมื่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแห่งกรุงปักกิ่งไม่ได้กั้นรั้วของคืนสำคัญไว้เพียงแต่ใน "รังนก" หากได้ปลดปล่อยมันออกมาในสวนสาธารณะและสถานที่รวมพลใจกลางเมืองกว่า 10 แห่ง
แต่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดเห็นจะเป็น สวนสาธารณะ Chaoyang, สวนสาธารณะGaobedian Caoyun, สวนศิลปวัฒนธรรมนานาชาติกรุงปักกิ่ง, ศูนย์กลางการค้าเดอะเพลส, สนามแข่งยูโด มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปักกิ่ง, แกรนด์วิวการ์เด้น คัลเจอร์ สแควร์, ไชนา มิลเลเนียม มอนูเม้นท์, Tongzhou Yunhe สแควร์, สวนสาธารณะ Binhe และ สวนสาธารณะ Lianhuachi เพราะทุกที่มีจอขนาดใหญ่เพื่อรับสัญญานถ่ายทอดสด นอกจากนี้ยังมีการจุดพลุบริเวณจตุรัสเทียนอันเหมิน และ มีการจัดงานตามสนามและลานวัฒนธรรมอื่นๆภายในกรุงปักกิ่งกันอย่างพร้อมเพรียง
ซึ่งรูปแบบของการจัดงานนั้นจะเริ่มขึ้นพร้อมกับพิธีเปิดการแข่งขันโดยแต่ละที่ที่จัดงานจะมีจอขนาดใหญ่เพื่อรับสัญญานถ่ายทอดสดส่วนความสนุกนั้นจะแตกต่างกันตามสถานที่ ดังเช่นที่ ไชนา มิลเลเนียม มอนูเม้นท์ ผู้คนต่างมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเย็นขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักไม่ว่าจะเป็นพลังเสื้อแดงที่ทางการจีนปลุกกระแสรักชาติให้ชาวเมืองสวมใส่เสื้อสีแดง ติดสติ๊กเกอร์ หรือแม้แต่ใช้ผ้าคาดหัวสีแดงเพื่อสร้างสีสันให้กับพิธีเปิด
สำหรับพิธีเปิดครั้งนี้ทางการจีน ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จเข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และในการณ์นี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการ รวมไปถึงคณะทำงาน เดินทางเข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นมีการเชิญธงชาติของเจ้าภาพ จีน ขึ้นสู่ยอดเสา ตามมาด้วยแสดงหลากหลายชุดจนกระทั่งมาถึงชุดไฮไลท์ของสุดยอดผู้กำกับ จาง อี้ โหมว ชื่อชุดตรงกันสโลแกนของการแข่งขันครั้งนี้คือ "One World One Dream" นานถึง 7 นาที ใช้เวลาออกแบบนาน 1 ปี โดยมี หลิว ฮวน นักร้องราชาเพลงป็อปของเจ้าถิ่น และ ซาราห์ ไบรท์แมน จากสหราชอาณาจักร ขับกล่อมเพลงประจำการแข่งขัน ก่อนที่จะชุดพลุชุดใหญ่อีกครั้งเพื่อนำเข้าสู่พิธีการและนำนักกีฬาแต่ละชาติเข้าสู่สนามต่อไป
ในช่วงของขบวนพาเหรดนักกีฬาจาก 205 ชาติ "วรพจน์ เพชรขุ้ม" ยอดนักมวยสากลสมัครเล่นจากจังหวัดอุบลราชธานีเจ้าของเหรียญเงินเอเธนส์เกมส์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถือธงนำทัพนักกีฬาไทยเข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 146 ซึ่งถือว่าพลิกโผไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีการวางตัว มนัส บุญจำนงค์ ฮีโร่เหรียญทองเมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นคนทำหน้าที่ สำหรับโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมทั้งหมด 51 คนจาก 13 ชนิดกีฬา ส่วนทัพนักกีฬาที่พาเหรดเข้าสู่สนามเป็นชาติสุดท้ายคือเจ้าภาพจีนนั่นเองโดยมี เหยา หมิง ยอดนักบาสเกตบอล เป็นผู้นำธง เรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆในสนามได้อย่างกึกก้อง โดยมีเด็กน้อยที่รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเดินเคียงข้าง
จากนั้น หลิว ชี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกจีน และฌักส์ โรกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ก่อนที่ หู จิน เทา ประธานาธิบดีจีน กล่าวเปิดการแข่งขัน “ปักกิ่งเกมส์ 2008” อย่างเป็นทางการ
ที่สุดวินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อ "หลี หนิง" อดีตนักยิมนาสติกเจ้าของ 3 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่ลอส แองเจลีส เมื่อปี 1984 ถูกผูกโดยสลิงโหนวิ่งอยู่บนอากาศเหยียบเมฆมงคลไปรอบๆ สนาม ก่อนจุดไฟลุกขึ้นบนกระถางคบเพลิงเป็นสัญญาณว่ามหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติได้เริ่มขึ้นแล้ว (คลิก! ชมภาพ"หลี่หนิง"เหินฟ้า จุดคบเพลิงโอลิมปิก)