xs
xsm
sm
md
lg

ชักไม่มั่นใจ "ดรีมทีม" / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

เคยได้ยินแต่กิตติศัพท์จากการติดตามข่าวสารของทีมยัดห่วงชายทีมชาติสหรัฐอเมริกา ว่าที่ "เหรียญทอง" ในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2008 แต่เมื่อเห็นฟอร์มแบบเต็มสองตาในเกมอุ่นเครื่องกับ ออสเตรเลีย เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา บอกได้เลยว่าทีมชุดนี้ยังมีจุดอ่อนอยู่พอสมควร

ห่างหายความสำเร็จสูงสุดไปนานร่วมทศวรรษ "ดรีมทีม" ชุดตะลุย "ปักกิ่งเกมส์" หวังเรียกศักดิ์ศรีคืนมาให้รุ่นพี่ และจากการร่วมกันฟอร์มทีมขึ้นมาอย่างต่อเนื่องของ เจอร์รี โคลันเจโล ผู้จัดการทั่วไป และ "โค้ชเค" ไมค์ ครายเซวสกี ประกอบกับการสร้างทีมที่มีมากกว่าคำว่า "ซูเปอร์สตาร์" สหรัฐฯ ไม่พ้นถูกยกให้เป็นตัวเต็งประจำการแข่งขันในปีนี้ แม้มีก้างขวางคออย่าง "แชมป์เก่า" อาร์เจนตินา หรือ "แชมป์โลก" สเปน ขวางลำอยู่ก็ตาม

โดยเมื่อคืนวันอังคารที่ 5 สิงหาคม ผมมีโอกาสเข้าไปเป็นสักขีพยานในเกมอุ่นเครื่องแมตช์สุดท้ายของ "ดรีมทีม" ที่ Shanghai Qizhong Forest Sports City Arena ท่ามกลางแฟนยัดห่วงเกือบเต็มสนาม 13,000 คน สหรัฐฯ โชว์ฟอร์มรวมๆ ไม่เข้าตา แม้สามารถคว้าชัยเหนือ ออสเตรเลีย ที่ปราศจาก แอนดรูว์ โบกัต เซ็นเตอร์สตาร์ มิลวอล์คกี บัคส์ ในศึก NBA 87-76 คะแนน

ในเกมดังกล่าวดูเหมือน "โค้ชเค" มี 5 ผู้เล่นตัวจริงในมือแล้ว โดย ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ปักหลักยืนเป็นเซ็นเตอร์ และก็มี คาร์เมโล แอนโธนีย์ พร้อมด้วย เลอบรอน เจมส์ เล่นในตำแหน่งฟอร์เวิร์ด ขณะที่ชู้ตติ้ง การ์ด เป็นหน้าที่ของ โคบี ไบรอันท์ ด้าน เจสัน คิดด์ ได้ประสบการณ์จึงได้รับความไว้วางใจให้คุมบอลทั้งตั้งแต่เริ่มต้นครึ่งแรก

การเก็บชัยทั้ง 5 เกมในแมตช์อุ่นเครื่องกับ แคนาดา, ตุรกี, ลิทัวเนีย, รัสเซีย และ ออสเตรเลีย ถือเป็นกำลังใจชั้นดีของเหล่าผู้เล่น "ดรีมทีม" ที่เตรียมฝ่าความกดดันชน "เจ้าภาพ" จีน ในเกมเปิดสนามโอลิมปิก ครั้งที่ 29 คืนวันอาทิตย์นี้ ทว่าจากที่ได้เห็นฟอร์มล่าสุด สหรัฐฯ ยังมีจุดอ่อนพอสมควร แต่พวกเขาก็มีจุดแข็งที่ทำให้ผมเชื่อว่าขุนพลแดง-น้ำเงิน-ขาว ต้องได้มากกว่า "เหรียญทองแดง" จากเอเธนส์เกมส์ เมื่อสี่ปีก่อน

แม้คิดเข้าข้าง "ดรีมทีม" เหมือนกับแฟนๆ ชาวจีนที่มาเชียร์กันล้นหลาม แต่สิ่งที่สังเกตได้คือ เกมวงในของ สหรัฐฯ ไม่แน่นเท่าที่ควร ฮาวเวิร์ด แกร่งแต่ไม่แม่นแถมชู้ตฟรีโทรล์ไม่เอาถ่าน เกมกับ "จิงโจ้" ครายเซวสกี ลองหุบเอา "เมโล่แมน" มาปักหลักตรงกลางในควอเตอร์ที่ 2 พร้อมปรับแท็คติกมาเล่นแบบ "สมอลบอล" โดยมีการ์ดอย่าง ดีเวน เหว็ด, คริส พอล และ เดอรอน วิลเลียมส์ วิ่งกันให้ว่อน เลอบรอน ไปช่วยเกมวงในมากขึ้น ทว่าผลที่ออกมาโดนทั้ง เดวิด แอนเดอร์สัน กับ เอียน ครอสไรท์ สองผู้เล่นตัวใหญ่ของ ออสเตรเลีย โถมเข้าใส่ เพราะมีจังหวะ miss match เกิดขึ้นเป็นบ่อบ่อยครั้ง ซึ่งตรงนี้ แอนโธนีย์ แบกงานของ ฮาวเวิร์ด ไม่ไหวจริงๆ

ดังนั้นครึ่งหลังเราจึงเห็น คริส บอช ลงสนามเล่นเป็นเซ็นเตอร์มากขึ้น โดยฟอร์เวิร์ด โตรอนโต แร็พเตอร์ส ชู้ตได้แม่นยำ มีความว่องไว แต่ข้อเสียคือตัวดูบางๆ หากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์กับ เหยา หมิง (จีน), พาว กาซอล (สเปน) หรือแม้แต่ เดิร์ก โนวิตซกี (เยอรมนี) เพื่อนร่วมสาย หาก คาร์ลอส บูเซอร์ ซึ่งเกมกับ ออสเตรเลีย ไม่ได้ลงสนาม ไม่สามารถลงมาปิดวิธีการเจาะในของคู่แข่ง การเลือกเซ็นเตอร์อาชีพมาน้อยอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์ของทั้ง โคลันเจโล และ ครายเซวสกี

นอกจากนี้ผมยังรู้สึกเสียดายพรสวรรค์ของทั้ง พอล และ วิลเลียมส์ ที่กล้าเล่นจนโดดเด่นขึ้นมากับต้นสังกัด ทว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่ ทั้งคู่ดูเกรงใจไม่กล้าลุยเต็มเหนี่ยว มีเพียง เหว็ด ที่เข้าตากดควอเตอร์สี่ไปถึง 9 แต้ม สกอร์รวมใส่ออสซี่ 22 คะแนน ถ้าไม่เน้นประสบการณ์การถือบอลของ คิดด์ ผมอยากให้ "โค้ชเค" ใส่ เหว็ด ลงไปแทนจริงๆ

มาในส่วนของข้อดีที่โดดเด่นชัดเจนของ "ดรีมทีม" กันบ้าง เลอบรอน หายข้อเท้าแพลงกลับมาลุยเต็มสูบอีกครั้ง ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระของ โคบี ได้เป็นกอง และก็เผลอเป็นไม่ได้ทั้งคู่ขโมยฉกบอลไปกินเป็นว่าเล่น นี่ผมยังไม่เห็นการเรียกใช้งาน เทรชอน ปรินซ์ ฟอร์เวิร์ดสารพัดประโยชน์รุกก็ได้-รับก็เยี่ยม และดูเหมือน ไมเคิล เรดด์ มีโอกาสปรับจูนเป้าสามแต้มน้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม มองว่าใน "ปักกิ่งเกมส์" สหรัฐฯ คงได้พึ่งพาความสามารถของ ปรินซ์ กับ เรดด์ เพื่อให้ "ดรีมทีม 08" ไปถึงฝั่งฝันเสียที
กำลังโหลดความคิดเห็น