ศึกกอล์ฟหญิงเมเจอร์รายการสุดท้ายของปี “วีเม่นส์ บริทิช โอเพ่น 2008” หวนคืนกลับมาแข่งที่สนาม ซันนิ่งดัล กอล์ฟ คลับ พาร์ 72 ระยะ 6,408 หลา ที่เมืองเบิร์คไชร์ ในประเทศอังกฤษ อีกครั้งในปีนี้ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 3 สิงหาคม 51 โดยสนามแห่งนี้ได้หวนกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งหลังว่างเว้นไปกว่า 4 ปีส่วนโปรสาวที่เป็นความหวังของเจ้าถิ่นกับเมเจอร์สุดท้ายของปีเห็นจะหนีไม่พ้น คาเรน สตัพเพิลส์ มือสวิงวัย 35 ปีเจ้าของแชมป์ในปี 2004
ทั้งนี้ คาเรน ให้สัมภาษณ์ผ่านทางเว็บไซต์แอลพีจีเอว่า "ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับไปเล่นที่ ซันนิ่งดัล อีกครั้ง การต้องลงป้องกันตำแหน่งคนละสนามกับที่ได้แชมป์อาจทำให้คุณรู้สึกไม่เหมือนกำลังป้องกันตำแหน่งสำหรับฉันแล้ความทรงจำที่ดีจาก ซันนิ่งดัล เมื่อปี 2004 ยังคงชัดเจนอยู่ตลอดเวลาการได้กลับไปลงทำการแข่งขันอีกครั้งเหมือนได้ย้อนวันเวลาแห่งอดีตและฉันก็หวังว่าจะทำผลงานได้ดีอย่างเมื่อสี่ปีก่อน”
นอกจาก สตัพเพิลส์ แล้ว ยังมีตัวแทนโปรสาวจากอีก 25 ชาติเข้ารวมชิงชัย ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีชื่อของ โลเรน่า โอชัว โปรหมายเลขหนึ่งของโลกชาวเม็กซิกัน ที่มาในฐานะแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วแถมชนะมาแล้วถึง 6 รายการในปีนี้ และถ้าย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วจะพบว่าแชมป์ วีเม่นส์ บริทิช โอเพ่น เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2007 ถือเป็นโทรฟี่รายการเมเจอร์แรกในอาชีพของเธอ ก่อนตามด้วยเมเจอร์ คราฟท์ นาบิสโก้ แชมเปียนชิป เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
"ชัยชนะที่ เซนต์ แอนดรูส์ เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ" โอชัว ย้อนรำลึกถึงความทรงจำที่สกอตแลนด์เมื่อ 12 เดือนที่แล้ว "แค่คิดถึงการที่ผู้หญิงได้เล่นในสนามที่เก่าแก่เช่นนี้ก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นแล้ว แต่ฉันกลับได้แชมป์เมเจอร์ครั้งแรกด้วย มันยิ่งสมบูรณ์แบบมาก ส่วนในปีนี้ฉันกำลังคิดถึงการป้องกันแชมป์และตื่นเต้นมากที่จะได้เล่นที่ ซันนิ่งดัล อีกครั้ง ฉันเคยได้อันดับ 4 ที่นั่น (เมื่อปี 2004) ดังนั้นฉันรู้ว่าจะต้องเล่นอย่างไรและมีโอกาสดีมากในปีนี้"
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ แอนนิก้า โซเรนสตัม โปรสวีเดนมือ 2 ของโลก การันตีด้วยตำแหน่งแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 72 รายการ และเมเจอร์อีก 10 รายการ แต่กลับเพิ่งเคยได้แชมป์ วีเม่นส์ บริทิช โอเพ่น เพียงครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อปี 2003 ซึ่งหลายคนเอาใจช่วยเธอให้ปิดท้ายเมเจอร์รายการสุดท้ายในชีวิตนักกอล์ฟด้วยโทรฟีแชมป์ หลังประกาศเลิกเล่นเมื่อจบฤดูกาลนี้
โดย โอชัว ผู้เขี่ย โซเรนสตัม ลงจากมือ 1 ของโลก เมื่อ 15 เดือนที่แล้ว ด้วยผลงานการชนะแอลพีจีเอ ทัวร์ 23 รายการ พูดถึง โปรรุ่นพี่วัย 37 ปี ว่า "ฉันแปลกใจหลังได้ยินข่าวว่า แอนนิก้า จะเลิกเล่น ฉันอยากขอบคุณสำหรับตัวอย่างดีๆ ที่เธอ (โซเรนสตัม) ทำไว้ ฉันเรียนรู้หลายอย่างจากเธอ เธอมีแรงผลักดันที่จะขึ้นไปสู่ระดับท็อปและพัฒนาเกมการเล่นของตนเองอยู่ตลอดเวลา เรากำลังจะเสียโปรชื่อดังไป ไม่ใช่แค่เฉพาะของแอลพีจีเอเท่านั้น แต่สำหรับวงการกอล์ฟโลกเลยทีเดียว"
เช่นเดียวกับเหล่าโปรจากแดนกิมจิที่เรียงคิวเข้าแจ้งเกิดในแอลพีจีเอ ทัวร์ มากมายตลอดช่วงที่ผ่านมา โดย ปาร์ค อินบี เจ้าของสถิติแชมป์เมเจอร์ ยูเอส วีเม่น โอเพ่น อายุน้อยที่สุดเพียง 19 ปี ทั้งที่เพิ่งเข้าทัวร์ได้แค่ 2 ปี นำทีม 30 โปรสาวเกาหลีใต้ เดินตามรอยเท้า ปัก เซรี รุ่นพี่ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์ วีเม่นส์ บริทิช โอเพ่น เมื่อปี 2001
นอกจากนี้บรรดายอดโปรสาวอีกมากหน้าหลายตาก็ไม่ยอมพลาดโอกาสร่วมศึกใหญ่ในครั้งนี้เช่นกัน ทั้ง แคร์รี่ เว็บบ์ โปรออสซีอดีตแชมป์เมื่อปี 2002, พอลล่า เครเมอร์ โปรมือ 4 โลกจากสหรัฐฯ แชมป์เจมี่ ฟาร์ โอเวนส์ คอร์นิง คลาสสิกคนล่าสุด, คริสตี้ เคอร์ร มือ 7 โลกจากสหรัฐฯ และ ยานี เซิง จากไตหวัน อีกหนึ่งความหวังของชาวเอเชีย ที่เพิ่งทะลุคว้าแชมป์เมเจอร์ แอลพีจีเอ แชมเปียนชิป เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทว่าการขาดหายไปของ มิเชล วี สีสันแห่งวงการแอลพีจีเอวัย 18 ปี อาจทำให้แฟนกอล์ฟบางส่วนผิดหวัง เนื่องจาก วี ได้ตอบรับเข้าร่วมแข่งพีจีเอ ทัวร์ของผู้ชายรายการ เรโน ทาโฮ โอเพ่น ในช่วงสัปดาห์นี้เช่นกัน
สุดท้ายแล้วเมเจอร์รายการเดียวที่แข่งนอกดินแดนแห่งเสรีภาพศึก “วีเม่นส์ บริทิช โอเพ่น 2008” เป็นอีกหนึ่งรายการสำคัญของปฏิทินกอล์ฟประจำปี ด้วยจำนวนโปรเข้าร่วม 144 คนจากทั่วโลกชิงชัยเงินรางวัล 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 69.3 ล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นมี “ฝน” รัศมี กัลยาณมิตตา โปรมือ 134 ของโลกจากประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันด้วย และแฟนกอล์ฟชาวไทยสามารถส่งกำลังใจไปช่วยเธอได้ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 31 กรกฎาคม – 3 สิงหาคมนี้